บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

บทที่ 1

มังกรฟ้าถูกขอร้องให้เล่าเรื่องราวของนางมารน้อยตนนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง เอ๋าซื่อหลงรับฟังด้วยความสนใจ ดูเหมือนว่านางจะบุกไปทุกที่อย่างไม่กลัวเกรงแม้แต่น้อย

“แสดงว่านางก่อกวนไปทั่ว” องค์ชายสี่แห่งทะเลใต้เอ่ยขึ้นคำแรก

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ฝ่ายในหรือสถานที่สำคัญอื่นนางก็ยังไปไม่ถึง” มังกรฟ้ากล่าวต่ออีกว่า

“ความจริงนางหน้าตาไม่เลว ฝีมือไม่ใช่ย่อย ถ้าตั้งใจบำเพ็ญเพียรน่าจะเป็นเซียนได้ไม่ยาก เสียดายทำตัวเป็นนางจิ้งจอกเกเรไปทั่ว”

“ทำไมไม่มีใครจัดการนางให้สิ้นเรื่องสิ้นราว”

“นางมีท่าไม้ตาย ที่พอข้าเห็นทีไรก็ทำร้ายไม่ลงเสียที”

“เจ้าแพ้ความงามของสตรีอย่างนั้นหรือ” เอ๋าซื่อหลงย้อนถาม ทางเดียวที่จะหยุดบุรุษให้ทำหน้าที่ได้ ก็คงมีแต่ความงามของสตรีเท่านั้น

“ข้าไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เพราะนางเป็นผู้หญิงและข้าก็ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง ถึงแม้ว่านางจะเป็นสตรีที่ร้ายกาจมากแค่ไหนก็ตาม”

ทุกครั้งที่หลิวจิ้นเหอคิดจะเล่นงานจิ้งจอกสาว เขาก็มักใจอ่อนเพราะเห็นแก่ที่นางยังเด็กและเป็นเพียงสตรี จะว่าไปเหล่าเทพที่เคยปะทะฝีมือกับนางก็ล้วนพูดแบบนี้ทุกราย

“ถ้านางมาอีก ข้าจะจัดการเอง ข้าจะไม่ทำร้ายแต่จะสั่งสอนให้รู้จักเข็ดหลาบและไม่กล้ามาที่นี่อีก” เอ๋าซื่อหลงเอ่ยเสียงเข้ม

“นางไม่เชื่อเจ้าหรอก” มังกรฟ้ายิ้มเล็กน้อยพร้อมกล่าวต่อว่า

“ข้าเคยบอกไปแล้วว่าให้ทำตัวดีๆ แต่นางไม่เห็นจะฟัง คนพวกนั้นดื้อด้าน ในส่วนที่ดีก็มักจะบำเพ็ญเพียรจนเป็นเซียนได้ หรือบางทีก็ถูกจิตมารเข้าแทรก”

“ข้าว่าเป็นเพราะไม่มีผู้ใดคอยอบรมสั่งสอนนางว่า อะไรควรไม่ควรมากกว่า”

“บิดาของนางเป็นปิศาจจิ้งจอกเก้าหางหมื่นปีที่มีพลังมาก มารดาก็เป็นนางฟ้าชั้นสูงของสวรรค์แต่ทั้งคู่ทำผิดกฎ มารดาของนางก็เลยถูกจองจำที่ใต้เขาหัวซาน” หลิวจิ้นเหอเอ่ยตามที่รู้มา และเพราะเรื่องนี้เหล่าเทพถึงได้ไม่เอาเรื่องนางจิ้งจอกสาวสักเท่าไร แต่เอ๋าซื่อหลงไม่คิดเช่นนั้น

“ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็แล้วแต่ ต่อให้นางเป็นสตรีก็ตาม ข้าไม่มีวันปล่อยผู้ที่บุกเข้าหอสวรรค์ไปได้ง่ายๆ แน่”

มังกรฟ้านิ่งเงียบรู้ดีว่าเอ๋าซื่อหลงเคร่งครัดในหน้าที่เพียงใด งานนี้คงได้แต่ดูไปว่าระหว่างจิ้งจอกสาวจอมเจ้าเล่ห์กับองครักษ์ผู้เก่งกล้า ใครกันจะเป็นฝ่ายชนะหรือใครกันจะเป็นฝ่ายรามือก่อนกันแน่

สวนท้อสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของเชิงเขาเทียนซาน ลูกท้อที่ออกมานั้นเรียกกันว่าท้อทิพย์ เป็นผลไม้สวรรค์ที่ไม่ว่าเซียนหรือมารก็ต่างปรารถนา เพราะนอกจากช่วยบำรุงร่างกายแล้วยังสามารถเพิ่มพลังวัตรได้ด้วย ท้อทิพย์จะถูกนำมาหมักเป็นเหล้าเพื่อเป็นยาฟื้นฟูพลัง

สวนท้อสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาจึงมีพวกมารคอยมาด้อมๆ มองๆ แต่ทว่าไม่มีมารตนไหนสามารถฝ่าด่านผู้คุ้มกันไปได้ จะมีก็เพียงจิ้งจอกสาวเจ้าหลิ่งฟางที่บรรดาเหล่านางฟ้าเรียกว่าปิศาจจิ้งจอกเท่านั้น ที่กล้าเข้ามาก่อกวนและขโมยท้อทิพย์กลับไปทุกครั้งที่มา

เจ้าหลิ่งฟางมองต้นท้อที่เรียงรายเป็นแถวอย่างมีระเบียบผ่านกำแพงใส ที่เป็นเกราะป้องกันผู้บุกรุกเงียบๆ เห็นต้นท้อมีลูกท้อทิพย์อยู่เต็มต้นจึงรออยู่พักใหญ่ เมื่อเห็นว่าได้โอกาสจึงเดินไปบริเวณที่ลับตาซึ่งเป็นช่องโหว่ที่สามารถเข้าไปได้ แน่นอนว่านางเป็นคนทำขึ้นเองซึ่งต้องใช้เวลานานมากและเสียพลังไม่ใช่น้อย แต่ที่ยอมทำก็เพื่อที่จะเข้าไปในสวนท้อแห่งนี้

เหล่านางฟ้าโกลาหลเมื่อเจ้าหลิ่งฟางปรากฏตัวขึ้น ทุกคนรู้ความร้ายกาจดีจึงพากันวิ่งหนี เมื่อจิ้งจอกสาวหยุดยืนตรงหน้า นางฟ้าที่เคยลิ้มรสความร้ายกาจของนางก็ก้มหน้าส่งลูกท้อที่อยู่ในถุงผ้าสีแดงราวกับเตรียมไว้ให้ เจ้าหลิ่งฟางยิ้มอย่างพึงพอใจ ทั้งดีใจที่จะได้ท้อสวรรค์ไปให้บิดา และอดขำกับท่าทีของนางฟ้าแสนสวยที่กลัวตนเหลือเกิน

“ขอบใจนะ” จิ้งจอกสาวยังมีแก่ใจกล่าวขอบคุณ

“ไม่เป็นไร” นางฟ้าตนนั้นเอ่ยเสียงสั่นพร้อมกับขยับตัวออกห่าง

จำวีรกรรมที่เจ้าหลิ่งฟางอาละวาดได้เป็นอย่างดี แม้พวกนางจะเป็นนางฟ้าแต่พลังและฝีมือก็ไม่อาจต่อกรกับจิ้งจอกสาวได้ แม้ว่าเบื้องบนจะรู้และส่งผู้คุ้มกันมา ตลอดจนสร้างกำแพงป้องกันไว้อีกชั้นก็ตามที แต่ในที่สุดก็ไม่อาจขวางเจ้าหลิ่งฟางได้

“แล้วข้าจะมาใหม่ ขอบใจนะสาวๆ” ได้เวลาที่จิ้งจอกสาวต้องไปแล้ว นางมารน้อยเตรียมจะออกจากสวนท้อแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่ง

“ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น คืนท้อทิพย์มาซะ”

เจ้าหลิ่งฟางหันไปตามเสียงนั้น บุรุษร่างสูงหน้าหวานที่เคยปะทะฝีมือกันนั่นเอง เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ช่างขยันขัดขวางเสียเหลือเกิน แต่มีหรือที่จะกลัว

“คืนก็ได้” เจ้าหลิ่งฟางทำทีไม่ตอบโต้ แน่นอนว่าอีกฝ่ายตกหลุมพรางทันตาเห็น เพียงแค่องค์ชายสี่ยื่นมือไปคว้าถุงสีแดงกลับมา จิ้งจอกสาวก็ดึงมันกลับไปเสียก่อน

“คืนก็โง่สิ” นางประกาศอย่างไม่เกรงกลัว ยักคิ้วหลิ่วตาอย่างยั่วโมโห

“จะคืนดีๆ หรือคืนด้วยน้ำตา นางมารน้อย” องค์ชายมังกรเสียงเข้ม

“คนอย่างข้าไม่เสียน้ำตาเพียงเพราะถูกขู่นะ พ่อหน้าหวาน” เจ้าหลิ่งฟางยิ้มยั่ว

“ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของเจ้านะ” เอ๋าซื่อหลงเสียงเข้มขึ้น

“ก็ไม่ได้มองว่าเป็นเพื่อนเล่นเสียหน่อย” จิ้งจอกน้อยยั่วโมโหไม่เลิก

“คืนของมา”

“ข้าไม่ได้ขโมยเสียหน่อย พวกนางให้ข้าเองต่างหาก จริงไหม” เอ๋าซื่อหลงหันไปสบตานางฟ้าที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“นางไม่ได้ขโมยค่ะ” นางฟ้าตนนั้นตอบเสียงสั่น ถึงจะรู้ว่าองค์ชายสี่ช่วยเหลือได้ แต่ก็ไม่กล้าต่อกรกับนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่มาที่นี่ประจำ

“เจ้าขู่นางใช่ไหม” เอ๋าซื่อหลงหันมาหาจิ้งจอกสาว

“ทำไมกล่าวหากันแบบนี้ล่ะ ท่านเทพหน้าหวาน” เจ้าหลิ่งฟางย้อนกลับพลางกวนประสาทมากขึ้น

“เจ้ามันเหิมเกริม ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ เห็นทีข้าจะต้องสั่งสอนให้รู้เสียบ้างแล้ว บางทีเจ้าอาจจะสำนึกและทำตัวดีขึ้น”

“ท่านเป็นถึงเทพชั้นสูงแต่กลับมาหาเรื่องคนอย่างข้า รังแกผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้มันจะไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอ”

“คิดเหรอว่ามารยาแค่นี้จะหลอกข้าได้”

บุรุษหน้าหวานผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เจ้าหลิ่งฟางต้องคิดหาทางออกที่จะเอาตัวรอดเสียแล้ว แต่จะทำอย่างไรล่ะเขาถึงจะเลิกราวีเสียที

“ถ้าสู้กันจริงๆ ข้าสู้ท่านไม่ได้แน่ พลังท่านมีมากกว่าวรยุทธ์ก็เหนือกว่าข้า แล้วท่านก็เป็นชายมีแรงมหาศาล ส่วนข้าพลังน้อยกว่าวรยุทธ์ก็แค่เอาตัวรอด แล้วยังจะเป็นผู้หญิงที่ไม่มีเรี่ยวแรงอีก ข้าสู้ท่านไม่ได้แน่” เจ้าหลิ่งฟางหาทางเอาตัวรอดด้วยการเยินยอฝ่ายตรงข้าม

“ข้าไม่เอาเปรียบเจ้าก็ได้ ข้าจะสู้กับเจ้าโดยไม่ออกจากวงกลมนี้” ว่าแล้วองค์ชายมังกรก็ใช้เท้าสร้างวงกลมล้อมรอบตัวเองขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ เริ่ม” เมื่อเห็นว่าตนเป็นฝ่ายได้เปรียบเจ้าหลิ่งฟางก็ลงมือก่อนทันที แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนตัว และเริ่มปะทะกัน

“ท่านขี้โกง” จิ้งจอกสาวโวยวาย

“เจ้าว่าข้าโกงได้อย่างไร” มังกรหนุ่มย้อนถาม

“ท่านบอกว่าจะสู้กับข้าโดยที่ไม่ออกจากวงกลมนั้นไง”

“ข้าก็ไม่ได้ก้าวเท้าออกจากวงกลม” จริงอย่างที่มังกรหนุ่มพูด เขาต่อสู้โดยไม่ได้ออกจากวงกลม แค่วงกลมนั้นติดตามไปตลอด

“ท่านรังแกข้า” เจ้าหลิ่งฟางบีบน้ำตาร่ำไห้และโวยวายเสียงดัง ทำให้เหล่านางฟ้าที่อยู่ไม่ไกลเริ่มหันมามอง

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย เจ้าหยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้นะ” มังกรหนุ่มเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย

“ใครบอกว่าไม่ทำ ท่านฟาดพลังใส่ข้าอย่างรุนแรงตั้งใจให้ข้าตายคามือใช่ไหม ถึงข้าจะเป็นนางจิ้งจอกกระจอกแต่ข้าก็ไม่ใช่กวางน้อยให้ท่านล่า เพื่อระบายอารมณ์นะ”

“เจ้าไม่ใช่กวางน้อย เจ้าคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์”

“ข้าเป็นแค่ลูกจิ้งจอกเท่านั้น จะสู้กับมังกรเช่นท่านได้อย่างไร พวกนางฟ้าแถวนี้ ดูนะ ลูกจิ้งจอกตัวน้อยกำลังจะถูกมังกรฆ่า เขาคงถลกหนังข้าไปทำเสื้อคลุม จับข้าย่างสดๆ และฉีกกินเนื้อข้าเป็นแน่”

“หุบปากพล่อยๆ เดี๋ยวนี้”

“ถ้าจะให้ยุติธรรมจริง ท่านต้องขยับตัวอยู่แค่ในวงกลม โดยที่วงกลมนั้นไม่เคลื่อนที่ตามท่าน” นางมารน้อยต่อรอง

“ก็ได้”

“ยังมีอีก ถ้าข้าฟาดพลังใส่ท่านแล้วท่านต้องนับหนึ่งถึงร้อยก่อนที่จะฟาดกลับ”

“เจ้านี่”

“พลังของข้าทำอะไรท่านได้ที่ไหน เป็นมังกรพลังมากจะตาย และจากที่ต่อสู้กันเมื่อสักครู่พลังของข้าไม่ทำให้ท่านสะเทือนได้เลย”

“ก็ได้” เอ๋าซื่อหลงจนใจกับความเจ้าเล่ห์ของนางแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นเริ่มเลยนะ” เจ้าหลิ่งฟางเอ่ยขึ้นและทำท่ามุทราก่อนที่จะปล่อยพลังใส่อีกฝ่ายทันทีเมื่อพูดจบ แต่พลังนั้นไม่ระคายผิวมังกรหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ถึงจะเจ็บใจแต่ก็ยังพูดต่อ

“ท่านนับหนึ่งถึงร้อยนะ”

“ข้ารู้” มังกรหนุ่มเริ่มนับ ทว่าสิ่งที่เห็นคือนางกำลังจะหนี

“เจ้าเล่นไม่ซื่อ”

“ข้าเล่นตามกติกา ท่านห้ามตามมาจนกว่าจะนับถึงร้อย และห้ามออกจากวงกลมนะ ท่านมังกรหน้าหวาน” เจ้าหลิ่งฟางหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ ในขณะที่เอ๋าซื่อหลงซึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าเสียรู้ก็โกรธจนหน้าแดง แต่กว่าจะทำอะไรได้นางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็ไปไกลเกินกว่าจะทำอะไรได้แล้ว

เจ้าหลิ่งฟางยิ้มด้วยความดีใจ ท้อทิพย์ที่ได้มาอาจทำให้สิ่งที่นางต้องการสำเร็จ และที่สำคัญมันจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายในของบิดาที่เป็นมายาวนาน ไม่ช้าบิดาสุดที่รักต้องหายดีแน่

“ทำไมมองหน้าข้าแบบนั้น ท่านอาจารย์” เจ้าหลิ่งฟางเอ่ยถามเซียนเฒ่าอายุหมื่นปีนามว่าหยางหว่านผู้เป็นอาจารย์ด้วยความไม่เข้าใจนัก

“มองเพราะว่าต่อไปนี้เจ้าจะลำบาก” เซียนเฒ่าหนวดเครารุงรังส่ายหน้าหลังจากที่ฟังเรื่องราวจบ ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ไปมีเรื่องกับองครักษ์แห่งสวรรค์และเป็นโอรสของเจ้าทะเลหนานไห่เสียด้วย

“ทำไม” จิ้งจอกสาวไม่เข้าใจ

“เจ้าไปมีเรื่องกับมังกรเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ท่านเจ้าทะเลหนานไห่มีคุณธรรมสูง บรรดาองค์ชายมังกรก็เก่งกาจ พลังของเจ้าสู้ไม่ได้เลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ท่านสอนข้าเองว่าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลไม่ใช่รึ”

“แต่คงไม่มีใครหลงกลเจ้าบ่อยๆ และข้าสอนแค่วิธีเอาตัวรอด ไม่ได้สอนให้เจ้าไปก่อกวนชาวบ้าน” เซียนเฒ่าพูดพร้อมทั้งเอาไม้เท้าเขกไปที่ศีรษะของลูกศิษย์อย่างอดไม่ได้

“เจ็บนะ” นางร้องดั่งลั่น

“อย่าโวยวายและที่สำคัญ อย่าพยายามไปหาเรื่องบนสวรรค์อีก มันไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะไปเดินเล่น”

“ข้าไม่ได้ไปเดินเล่น แต่จะไปเอาของสำคัญ”

“หลิ่งฟาง ของวิเศษนั่นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ ผู้ที่ทำความดีความชอบเท่านั้นถึงจะได้มันมา ถ้าเจ้าอยากได้มัน เจ้าต้องทำความดี”

“แล้วต้องทำความดีนานเท่าไรถึงจะได้มันมาล่ะ ท่านอาจารย์ ของบางอย่างมันรอนานไม่ได้”

“เจ้านี่มัน ให้ตายสิ ข้ามีลูกศิษย์ที่หัวดื้อแบบนี้ได้อย่างไรนะ” เซียนจิ้งจอกเฒ่าได้แต่ถอนหายใจ เตือนก็แล้วอะไรก็แล้ว แต่เจ้าลูกศิษย์ตัวดีกลับดื้อด้าน งานนี้คงได้แค่ออกหน้ายามเดือดร้อนก็แล้วกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel