พ่ายเล่ห์(รัก)กามเทพ

92.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
57
บท
4.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘ภู่แก้ว’ เธอคือสิ่งของที่ถูกพี่ชายนำไปเดิมพันในวงพนัน ‘ปกเกล้า’ คือชายหนุ่มที่รับเธอมา และทางเดียวที่เธอจะเป็นอิสระคือต้องมี ‘ลูก’ ให้เขา

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันคนธรรมดาผู้ชายอบอุ่นรักแรกพบมาเฟียฟินๆโรแมนติก

บทที่ 1

โต๊ะกลมที่ถูกคลุมด้วยผ้าลูกไม้ บนโต๊ะมีไพ่และเงินสดวางอยู่จำนวนมาก บุคคลที่กำลังจ้องมองกันและกัน หนึ่งในนั้นคือเจ้าของคาสิโนแห่งนี้ ส่วนอีกหนึ่งคือลูกค้ารายใหญ่ที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป แต่กลับหวังโชคให้มือขึ้น เพื่อเอาทุกอย่างที่เสียไปกลับคืนมา จังหวะการเต้นของหัวใจ ภวัตร นั้นถี่กระชั้นขึ้นราวกับกองเพลตามการลุ้นไพ่ของฝั่งตรงข้าม ว่าจะเปิดออกมาเป็นอะไร

ปกเกล้า รู้ว่าภวัตรจับจ้องมาที่เขา จึงจงใจยื้อเวลา ชายหนุ่มไม่รีบร้อน เพราะมั่นใจว่าไพ่ที่ถืออยู่มีแต้มเหนือกว่าภวัตรอยู่มากหรือต่อให้มีแต้มที่น้อยกว่า เขาก็มีวิธีทำให้อีกฝั่งนั่งไม่ติด ยิ่งปกเกล้าช้าก็เหมือนยิ่งกระตุ้นภวัตรจนนั่งไม่ติดที่จริงๆ ชายหนุ่มวอกแวกแต่ก็พยายามเก็บอาการไว้อย่างถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้ฝั่งตรงข้ามอ่านเกมออก แต่มีหรือที่จะรอดพ้นสายตาของเจ้าพ่อคาสิโนอย่างปกเกล้าไปได้ กระทั่งถึงเวลาวางไพ่

“ผมชนะ” พูดจบก็วางไพ่ในมือลงบนโต๊ะ ไพ่ของปกเกล้าไม่ได้มีแต้มที่มากเลยมีเพียงหกแต้มเท่านั้นแต่กลับมั่นใจว่าตนชนะ ส่วนของภวัตรมีห้าแต้ม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีอยู่แปดแต้ม แต่เขากลับเรียกไพ่เพิ่ม เพราะสังเกตสีหน้าของปกเกล้าที่ยังคงนิ่ง จึงคิดเอาเองว่าชายหนุ่มคงได้ไพ่ที่แต้มสูงกว่าตน แต่ภวัตรกลับคิดผิดจนลนลานทำพลาดเดินตามเกมของปกเกล้า

“นี่คุณโกงผมหรือเปล่า” ภวัตรตบโต๊ะดังปัง บ่งบอกอารมณ์ว่าไม่พอใจที่ตนต้องแพ้ แต่ชายหนุ่มฝั่งตรงกันข้ามกลับทำเพียงยิ้มเหยียดที่มุมปากให้เท่านั้น เพราะประโยคนี้เขาได้ยินมาจนคุ้นชินเสียแล้ว เพราะใครต่อใครที่เล่นแล้วแพ้เขาก็มักจะพูดแบบนี้เสมอ

“คนอย่างผมไม่คิดจะโกงใคร” ปกเกล้าเอ่ยตอบเสียงทุ้ม เขารู้ว่าถือไพ่ที่มีแต้มน้อยกว่า แต่ใจเขานั้นแข็งแกร่งกว่าภวัตรนัก ไม่โอนเอนไปกับสีหน้าของฝั่งตรงข้ามที่แสดงออกเพื่อตบตาแต้มในมือ ประสบการณ์สอนให้ปกเกล้าใจเย็นและรอบคอบกับเรื่องพนันเสมอ

“ถ้าไม่โกง แล้วผมจะแพ้คุณได้ยัง”

“ของแบบนี้มันอยู่ที่ดวงครับ”

“ผมต้องการแก้มือ” ภวัตรเอ่ยตอบเสียงดัง ทั้งๆ ที่เขาไม่มีอะไรจะนำมาแก้มือได้อีกแล้ว

“แล้วคุณจะเอาอะไรมาพนัน รถ บ้าน ที่ดิน เงินสด ของพวกนั้นมันตกเป็นของผมหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้ แต่ผมต้องการแก้มือ” ปกเกล้าลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาเจอสิงพนันหัวรั้นมานักต่อนัก สิ้นเนื้อประดาตัวออกไปจากที่นี่ก็เยอะจนนับไม่ถ้วน แต่แทนที่จะยอมหยุดคนพวกนี้กลับคิดที่จะแก้มือ

“ก็ได้ แต่ผมขอบอกไว้ก่อนว่าของที่จะเอามาพนันครั้งต่อไป ผมไม่ต้องการสิ่งของเพราะมีจนล้นแล้ว” ปกเกล้าเอ่ยถึงของที่จะใช้พนันครั้งต่อไปจงใจให้เป็นของที่หายากขึ้น

“แล้วคุณต้องการอะไร”

“คนฉลาดๆ อย่างคุณภวัตร น่าจะมี... คิดเองได้นะครับ” ปกเกล้าเว้นวรรคคำพูดไว้ ก่อนจะชี้นิ้วมาที่ขมับ การเหยียดหยามนี้ทำให้ภวัตรยืนกัดฟันกรอดๆ ที่ถูกปกเกล้าลูบคม ให้เขาใช้สมองคิดหาของมาพนัน

“ลองกลับไปคิดดูดีๆ ว่าจะหยุดแค่นี้หรือหาของมาพนันต่อ เพราะถ้าแพ้อีก บางทีครั้งต่อไป แม้แต่ชีวิตก็จะยื้อไว้ไม่ได้นะครับ” ปกเกล้าพยายามให้สติ เพราะเขาเจอคนแบบภวัตรมานักต่อนัก สิ้นเนื้อประดาตัวเพราะคำว่าพนัน แต่แทนที่จะคิดได้แล้วหยุด ภวัตร กลับเดินหน้าต่อ

“ผมไม่มีวันแพ้คุณอีก ผมจะกลับมาพร้อมของพนันที่คุณปฏิเสธไม่ได้”

“แน่ใจแล้วนะครับ” หนุ่มร่างสูงใหญ่คิ้วขมวดกับคำตอบที่ได้ยิน ปกเกล้าลอบถอนหายใจออกมาอย่างระอา ภวัตรจ้องตาชายหนุ่มนิ่ง แม้จะยังคิดไม่ออกว่าจะสรรหาสิ่งใดมาพนันในครั้งต่อไป แต่กลับมั่นอกมั่นใจว่าเขาต้องชนะปกเกล้าแน่นอน

“แน่ใจ เพราะผมไม่มีวันแพ้คุณอีก ผมจะเอาทุกอย่างที่เสียไปกลับคืนมา”

“มั่นใจไว้ครับ แล้วอีกสามวัน เรามาเจอกันที่นี่อีกครั้ง” ปกเกล้ายิ้มมุมปากอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองลูกน้อง เพราะคงเปลี่ยนความคิดของภวัตรไม่ได้อีกแล้ว “วิทย์ ส่งแขก”

“ครับนาย” เจ้าของชื่อเอ่ยรับ ก่อนจะออกไปส่งภวัตร นั่นทำให้สุพลมือขวาของปกเกล้าเอ่ยถามผู้เป็นนายขึ้นอย่างอดไม่ได้

“ทำไมนายต้องลงมารับพนันกับภวัตรเองแบบนี้ด้วยครับ”

“ฉันมีเหตุผลนะพล” เหตุผลที่ว่านั้น ปกเกล้าไม่อาจบอกใครต่อใครได้ เขาจับตามองภวัตรตั้งแต่ที่ชายหนุ่มก้าวเข้ามาที่คาสิโนแห่งนี้แล้ว รวมถึงเจาะจงลงไปเล่นพนันด้วยทั้งๆ ที่เขาไม่เคยทำกับใครมาก่อน นั่นก็เพื่อรักษาทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของใครบางคนให้คงอยู่ โชคดีแค่ไหนที่ภวัตรเลือกมาเสี่ยงโชคที่คาสิโนแห่งนี้ไม่ใช่ที่อื่น

“ครับ” คำตอบของปกเกล้าแม้จะไม่ชัดเจน แต่สุพลก็ไม่อาจถามถึงเหตุผลที่ว่านั่นของปกเกล้าได้ ตอนนี้ภายในห้องวีไอพีปกเกล้านั่งเรียงไพ่ก่อนจะสับวางเป็นกองๆ ชีวิตของชายหนุ่มพลิกผันจากหน้ามือไปหลังมือ เมื่อผู้เป็นบิดาตัดสินใจเปิดบ่อนการพนันและปัจจุบันหันมาจับธุรกิจคาสิโน ธุรกิจสีเทาที่ต้องประมูลถึงจะได้สิทธิ์มาครอง

ชีวิตของปกเกล้าไม่เคยสวยหรู เขาผ่านความยากจนมาก่อน กระทั่งสมัยเด็กเคยเดินเข้าบ่อนการพนันตามบิดาไป ไม่รู้ว่าโชคดีหรือว่าอะไรวันนั้นบิดามือขึ้นจนได้เงินกลับมาเป็นกอบเป็นกำ และหลังจากนั้นทุกครั้งที่บิดาจะไปบ่อนก็มักจะพาปกเกล้าไปด้วยในฐานะตัวนำโชค ปกเกล้าเกลียดเส้นทางนี้แต่กลับต้องเดินต่อ เพราะมันทำให้เขามีเงินซื้อข้าวกินจนท้องอิ่ม เรียกได้ว่าชีวิตนี้เขาโตมากับการพนันก็ว่าได้

บิดาของชายหนุ่มมือขึ้นไม่ว่าจะเสี่ยงโชคอะไรก็เป็นฝ่ายชนะเสมอ และเงินที่หลั่งไหลมาก็ล้วนมาจากบ่อนทั้งสิ้น กระทั่งมีเงินมากมายพอที่จะเปิดบ่อนเป็นของตัวเอง แม้จะผิดกฎหมายแต่ปกเกล้าก็ไม่อาจแย้งความต้องการของบิดาได้ จากบ่อนเล็กๆ ก็ขยับขยายนั่นทำให้ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากที่กินนอนในห้องเช่าเก่าๆ ก็เปลี่ยนมาอยู่บ้านเดี่ยวและคฤหาสน์อย่างเช่นทุกวันนี้

จากที่เป็นแค่สิงการพนันมือขึ้น ตอนนี้บิดาเขาก็กลายเป็นที่รู้จักมีคนนับหน้าถือตา มีลูกน้องคอยปกป้องตั้งแต่เมื่อไหร่ปกเกล้าก็ลืมสังเกต แม้จะโตมาพร้อมคำว่าพนันขันต่อ แต่ปกเกล้าบอกตัวเองเสมอว่าเขาไม่ต้องการใช้ชีวิตกับการพนันเช่นนี้ไปจนตาย ถึงจะคิดแบบนั้นแต่โชคชะตากลับกำหนดให้ปกเกล้าต้องขึ้นมาสานงานต่อจากเป็นบิดา ในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของนายดิลก เจ้าพ่อคาสิโนรายใหญ่ของประเทศ

“เบื่อบ้างไหมพล” คำถามของเจ้านาย ทำให้สุพลเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย แต่จะว่าไปพักนี้สีหน้าปกเกล้าดูเบื่อๆ เซ็งๆ อย่างบอกไม่ถูก