บท
ตั้งค่า

บทที่ ๔ โลกแคบ

ด้านขนมผิงเมื่อถูกปิดปากด้วยปากหนาก็พยายามดิ้นรนขัดขืน เธอได้ยินเสียงเพื่อนร้องเรียกหาพักใหญ่แล้ว ขณะที่โทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายก็สั่นเตือนหลายครั้งแล้วเช่นกัน แต่เธอไม่สามารถขยับตัวทำอะไรได้ กว่าคนตัวโตจะยอมผละริมฝีปากออกห่างเสียงของเพื่อนเธอก็เงียบไปแล้ว

“อื้อ...ปล่อยนะ เพื่อนฉันกำลังตามหาฉันอยู่นะ” เธอสั่งเขาทันทีที่ปากเป็นอิสระ

“รู้ครับ ให้พวกเขากลับไปก่อนสิ เราจะกลับด้วยกัน” วิลบอกแกมสั่งพร้อมโอบกอดสาวอ้วนด้วยท่อนแขนข้างเดียวแน่น ส่วนมืออีกข้างก็ล้วงกระเป๋าสะพายของหญิงสาว ควานมือหาเครื่องมือสื่อสาร เมื่อเจอก็นำออกมายื่นให้เธอ

“โทร.บอกเพื่อนว่ากลับไปก่อนแล้ว” เขาสั่งเสียงเรียบพร้อมใช้สายตาบังคับอีกทาง

“ไม่! ”

“ให้โอกาสพูดอีกครั้ง จะทำตามหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำผมจะทำมากกว่าจูบ จะเรียกคนอื่นมาดูรวมถึงเพื่อนของคุณด้วย” เขาขู่เสียงลอดไรฟัน

“คุณขู่ฉัน”

“ไม่ได้ขู่ ผมพูดจริง หรืออยากพิสูจน์ล่ะ” ในดวงตาสีเทาของวิลบ่งบอกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น เขาทำจริงแน่หากเธอยังดื้อดึง

ขนมผิงถอนหายใจ เอามือข้างที่ไร้พันธนาการกดโทรศัพท์หาเพื่อน รอไม่นานเตโชก็กดรับ น้ำเสียงร้อนรนดังมาตามสายทันที

“แกอยู่ไหนยายอ้วน”

“มาทำธุระส่วนตัวน่ะ ก็ที่เราอยู่นักท่องเที่ยวกางเต็นท์กันเยอะ ฉันก็เลยเดินห่างออกมานิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็จะกลับแล้วแหละ” เธอโกหกคำโตพลางมองคนจับโทรศัพท์แนบหูให้ แล้วพูดต่อเมื่อปลายสายถามกลับมา

“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วงกัน”

“อือ แล้วเนี่ยอยู่ตรงไหนยะ ให้ฉันกับนึกคิดเดินไปหาไหม”

“ไม่ต้องหรอก ฉันทำธุระเสร็จก็กลับแล้วละ พวกแกกลับไปรอที่เต็นท์เถอะ หายกันไปหมดเดี๋ยวพี่ๆ คนนำทางจะเป็นห่วงเอา”

“อือ โอเค”

แล้ววิลก็ดึงโทรศัพท์ที่แนบใบหูเล็กออกห่างพร้อมกับกดวางสายไป ฟากเตโชกับนึกคิดเมื่อได้รับสายจากเพื่อนแล้วก็สบายใจหายห่วง ชวนกันเดินกลับไปยังเต็นท์พักของตัวเองที่คนนำทางเตรียมไว้ให้พร้อมสรรพ

“พอใจรึยัง” หญิงสาวถามตาขุ่นเขียว

“ครับ...ขนมผิงรู้ไหมว่าตัวเองน่ารักมากนะ ผมชอบคุณตั้งแต่วันที่คุณเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้น้องสมปองแล้ว”

“แต่ฉันเกลียดคุณ!” ปากบอกเกลียด แต่สีหน้าและแววตาของเธอกลับสวนทางกันสิ้นเชิง ความใกล้ชิดชนิดหายใจรดกันกับผู้ชายที่อยู่เหนือร่าง ผู้ชายที่เข้ามาวนเวียนในหัวสมองของเธอตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ไม่เจอกัน ทำให้ใบหน้าของเธอเห่อแดง แววตาหวามไหวด้วยความขวยเขิน

“แก้มแดงขนาดนี้นี่เพราะเกลียด เขิน หรือว่าโกรธกันนะ” เขาเย้าแหย่

“เกลียด! โกรธ! ” เธอตอบออกไปโดยพยายามคุมโทนเสียงของตัวเองให้หนักแน่น แต่ก็นั่นแหละ มันเชื่อถือได้เสียที่ไหนกัน ก็เมื่อกี้เธอเผลอจูบตอบเขาไปราวคนไร้สติควบคุมตัวเอง

“ผมจะพยายามเชื่อ ลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้ผมเหนียวตัวและระคายจะแย่แล้ว”

‘แหงแหละ ก็เนี่ยมันป่าหญ้า’ หล่อนตอบโต้ในใจ ก่อนจะดันร่างสูงใหญ่ของหนุ่มต่างชาติออกห่าง และครั้งนี้ก็ได้ผล เขายันตัวลุกขึ้นยืน

“เหมือนผอมลงนะช่วงนี้ ขอร้องละ อย่าลดนะเดี๋ยวไม่สวย” เขาพูดจบก็ฉุดร่างตุ้ยนุ้ยให้ลุกขึ้นตาม

ส่วนคนอ้วนลุกขึ้นได้ก็ดึงมือตัวเองกลับ ปัดเสื้อผ้าและจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินหนี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาก็หันกลับไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างไม่พอใจเพราะคำถามที่ดังขึ้น

“จะไปไหน ผมยังไม่บอกให้ไปไหนเลย อีกอย่างคืนนี้ผมนอนเต็นท์คนเดียว มันทั้งเหงาและน่ากลัวด้วยสิ ผมต้องการหมอนข้าง” วิลบอกยิ้มๆ

“คุณมาถึงนี่ได้ก็ไม่ควรพูดว่าเหงานะคะ ถ้าคุณนอนไม่ได้ก็ไปขอนอนกับคนอื่นสิ ฉันจะไปหาเพื่อนแล้ว” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินเร็วๆ ตรงไปยังทางที่เพื่อนๆ ของตนรออยู่ โดยไม่สนใจคนที่ก้าวเดินตามตนเองมาติดๆ

“ได้ไง บนดอยนี้ผมรู้จักคุณคนเดียวนะ ดูสิเต็นท์อื่นๆ เขามากันเป็นกลุ่มทั้งนั้น มีทั้งที่มากับเพื่อน กับครอบครัว และมากับแฟน แต่ผมมาคนเดียว แถมยังโสดด้วยนะ ไปเป็นหมอนข้างให้ผมเถอะนะ” วิลเดินตามสาวเจ้าเนื้อต้อยๆ พร้อมกับพร่ำพูดชักแม่น้ำทั้งห้าให้สาวเจ้าทำตามความต้องการของตัวเอง

“มันเรื่องของคุณ ว้าย!” แล้วขนมผิงก็ต้องร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ข้อมืออวบอ้วนถูกจับหมับ ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกลากให้เดินแยกไปอีกทาง

“ปล่อยฉันนะคุณวิล!”

“ไม่ปล่อย ผมบอกแล้วไงผมต้องการหมอนข้าง” ชายหนุ่มลากร่างอ้วนตุ้บแต่แรงน้อยนิดให้เดินตามไปยังอีกฟากของดอยลังกาหลวง โดยไม่สนใจสายตาของใครต่อใครที่มองมาทางคู่ของพวกเขาที่ฉุดกระชากลากถูกันอย่างสนใจ

ขณะที่เตโชกับนึกคิดซึ่งทันเห็นเพื่อนรักถูกลากตัวไปอีกทางก็รีบวิ่งตามไป พอมาถึงก็เปิดปากถามร่างสูงทันที

“นั่นคุณจะทำอะไรเพื่อนของพวกเรา” นึกคิดถามขึ้น

“คุณเป็นแฟนผมเหรอถึงอยากรู้” วิลหยุดลากขนมผิงแล้วหันไปตอบเพื่อนของสาวอ้วน

“อ๊าย...ยายขนมผิง แกนัดแฟนมาก็ไม่บอก แล้วแอบมีแฟนตอนไหนยะ ทำไมฉันกับนึกคิดไม่ยักรู้” คราวนี้เป็นเตโชที่เอ่ยถามเสียงดัง ก่อนจะเดินไปลูบหน้าอกตึงแน่นของหนุ่มตาน้ำข้าวที่กุมข้อมือเพื่อนของตัวเองอยู่ แล้วก็เดินวนรอบตัวชายหนุ่มอย่างสำรวจ

“เอ๊ะ...ทำไมหน้าคุ้นๆ” เตโชพึมพำแผ่วกับตัวเองเบาๆ เมื่อรู้สึกคุ้นหน้าชายหนุ่ม

“พอเลยยายเตโช ไม่ใช่แฟน และไม่ได้สนิทอะไรทั้งนั้นแหละ เขาคือคนที่ฉันวิ่งตัดหน้ารถและอุ้มฉันขึ้นรถพาไปโรงพยาบาลยังไงล่ะ” ขนมผิงตอบข้อสงสัยของเพื่อนแล้วสะบัดข้อมือออกจากอุ้งมือใหญ่

“เราจูบกันแล้วนะครับ” วิลพูดแทรก

“ว้าย! ตายแล้วยายอ้วน แกจูบกับเขาแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ใช่แฟนอีก มันไม่ใช่แล้วแก!” เตโชเอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้นแล้วขยำหน้าอกแน่นปึกของบุรุษร่างกำยำ “อูว์! งานดี อกแน่นมากเลยแก นึกคิดมาบีบดูสิ” พูดพร้อมกับกวักมือเรียกนึกคิดให้มาลองขยำหน้าอกของชายหนุ่มเพื่อยืนยันสิ่งที่ตนเองพูด

“ถ้าคุณยังไม่หยุดแต๊ะอั๋งผมได้มือหักแน่ครับ” เขาขู่เสียงเรียบสีหน้าขึงขังพร้อมบดกรามแน่นดังกรอด! จากนั้นก็ดึงมือเรียวสวยของชายไม่จริงออกจากหน้าอกตนเอง

“บ้าผู้ชายให้ถูกเวลาหน่อยนังกะเทย” นึกคิดต่อว่าเตโชพร้อมเดินไปคว้าข้อมืออ้วนกลมของขนมผิงอีกข้าง ออกแรงดึงให้เธอมาอยู่ข้างตนเองก่อนจะพูดต่อ

“เราไม่สนหรอกนะว่าคุณต้องการอะไร แต่เนี่ย...เพื่อนของพวกเรา เราเชื่อเพื่อนของเรา อย่าคิดมาทำอะไรเพื่อนเราเป็นอันขาด” นึกคิดขู่หนุ่มตาน้ำข้าว

“หึๆ ทำยังไงได้ก็ผมทำไปแล้ว ขนมผิง...บอกไปสิว่าเรารู้จักกันมากกว่าที่เพื่อนของคุณรู้” ประโยคหลังเขาเดินมาหยุดยืนข้างหญิงสาวแล้วกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

ขนมผิงเบือนหน้าไปมองหน้าวิลแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสบตาเพื่อนสนิททั้งสองของคนแล้วเม้มปากแน่น

“เขาขู่อะไรแกเหรอยายอ้วน” เตโชถาม

“นั่นสิขนมผิง บอกนึกคิดได้นะ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ทุกคนกลับเต็นท์ตัวเองเถอะ ผมก็จะไปกางเต็นท์ของผมแล้วเหมือนกัน ไปนะมายเลิฟ” คราวนี้เขาไม่ได้กระซิบกับเธออีก แต่กลับพูดเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน แล้วก็ฉวยโอกาสหอมแก้มนวลของสาวอ้วนฟอดใหญ่ก่อนเดินจากไป

ขนมผิงยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองอย่างเผลอตัวพลางมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับตา เมื่อตั้งสติได้ก็หันไปมองหน้าเพื่อนๆ

“หน้าแดงเชียวนะ ชอบเขาละสิ” เตโชแซว

“บ้า!” หล่อนบิดตัวอายม้วนต้วน ก้มมองเท้าตัวเองเพื่อหวังซ่อนใบหน้าที่แดงปลั่งจากสายตาของเพื่อน

“กะเทยพูดถูกนะขนมผิง แกชอบฝรั่งนั่นใช่ไหม เขาใช่ไหมที่ทำให้แกใจลอยบ่อยๆ พวกเราสองคนสังเกตมาสักพักแล้วแหละ” นึกคิดเอ่ยพลางเชยคางเพื่อนให้แหงนเงยหน้าขึ้นมาสบตาตนเอง

“เห็นๆ อยู่ยังจะถามอีกแก ยายอ้วนชอบฝรั่งนั่นจริงๆ แหละ ก็หล่อออกปานนั้น เหมาะจะเป็นพ่อของลูกปานนั้น อยากมีมดลูกจริงๆ เว้ยจะได้ท้องลูกของเขาได้” พูดแล้วเบะปากเล็กน้อยด้วยความอิจฉาเพื่อนสาว ก่อนจะเดินกลับไปยังเต็นท์ของตัวเอง ทิ้งให้สองสาวพูดคุยกันตามลำพัง

“อย่าสนใจคนไม่มีมดลูกมันเลย เอาเรื่องขนมผิงเถอะ ชอบเขาตั้งแต่เมื่อไหร่” นึกคิดถามเพื่อน

“อย่าเพิ่งถามเราได้ไหมนึกคิด เราก็ยังไม่รู้เลย จริงๆ แล้วเรากับคุณวิลรู้จักกันมาก่อนหน้านั้นแล้วนะ เขาเป็นเพื่อนสนิทของสามีเพื่อนสนิทเราน่ะ” ขนมผิงบอก

“ถึงว่าล่ะ”

“อือ”

“กลับที่พักกันเถอะ ตะวันจะลับขอบฟ้าแล้ว”

“ไปกันเถอะ” ปากตอบรับคำชวนของเพื่อน แต่สายตายังคงจ้องมองไปยังทิศทางที่วิลเดินไป

“ไปหาเขาได้นะถ้าจะมองขนาดนั้น” นึกคิดเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่นิ่งไม่ยอมก้าวขาเดินตามตนเอง

“บ้า! ใครจะไป คนอะไรก็ไม่รู้ห่ามเป็นบ้าเลย เราไม่ชอบ”

“แน่ใจ?”

“ไม่คุยด้วยแล้วนึกคิด ไปหากะเทยดีกว่า” ว่าแล้วก็รีบสาวเท้าเร็วๆ ไปยังเต็นท์นอนของตนเอง

นึกคิดยิ้มขำ มองไปยังทิศทางที่หนุ่มต่างชาติเดินหายไป จากนั้นก็หันมองแผ่นหลังของเพื่อนตัวกลม ก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามขนมผิงไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel