บทที่ 10 เหลนปู่
ตอนที่ ๑๐
เหลนปู่
ก๊อกๆๆ
“ขออนุญาตค่ะคุณปู่ ไอเอาชามาให้” อัยยภัทรส่งเสียงเชิงขออนุญาตเข้ามา หญิงสาวไม่ได้พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาแต่อย่างใด อัยยภัทรทำตัวเหมือนเด็กรับใช้คนนึงในบ้านเท่านั้น กินข้าวในครัว ช่วยเหลืองานบ้าน แม้ไม่ถึงขนาดหยิบจับเต็มตัว แต่หญิงสาวก็ไม่เคยเกียจคร้านเลย
“เข้ามาเลยไออุ่น ปู่กำลังรออยู่พอดี” ชายชราอนุญาตด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ก่อนจะลุกจากเตียงเดินไปนั่งที่ระเบียงห้องแทน ชนะศึกจึงเดินมาช่วยหญิงสาวถือของที่ยกมา
“ทำไมถึงยกมาเอง เด็กในบ้านเยอะแยะ” ท่าทีของชนะศึกอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง และอัยยภัทรสัมผัสมันได้ เขาคงแค่กลัวคุณปู่เอ็ดละมั้งที่ปล่อยให้เธอทำอะไรเองหลายๆอย่าง อย่างที่คุณปู่ชอบเอ็ดเธอเรื่องไม่ยอมเรียกใช้เด็กในบ้านแต่กลับทำเอง
“ไอยกมาได้ค่ะ ของแค่นี้เอง ทุกคนก็งานล้นมือกันหมดแล้ว” อัยยภัทรแก้ต่างให้กับตัวเองแล้วก็เด็กรับใช้ในบ้าน
“สงสัยปู่ต้องจ้างแม่บ้านเพิ่มแล้วล่ะครับ หลานสะใภ้สุดที่รักของปู่ไม่ยอมเรียกใช้ใครเลย” ชนะศึกเดินเอาชุดชงชาและกาแฟของตนไปวางที่โต๊ะฉลุลายสวยริมระเบียง
“ถ้าไออุ่นกลับมาอยู่กับปู่นะ ปู่ยอมจ้างเพิ่มสิบคนเลย” เจ้าสัวกิตติแหย่หลานชายอย่างอารมณ์ดี อย่างน้อยสิ่งที่ชนะศึกแสดงออกเมื่อตะกี้ก็บ่งบอกว่าหลานชายของเขากำลังเริ่มพยายามแล้ว
“ไม่ได้สิครับคุณปู่ ไอเป็นภรรยาผมก็ต้องอยู่กับผม จะมาอยู่กับคุณปู่ได้ยังไงกัน” ชนะศึกพูดเสียงเรียบทั้งๆที่ตอนนี้ใจของเขาอยู่ตาตุ่มแล้ว หากปู่ของเขาเอาอัยยภัทรกลับคืนมาจริงๆ เขาจะต่อสู้กับปู่ยังไง เรื่องที่จะยอมคืนอัยยภัทรให้ปู่ ลืมไปได้เลยเหมือนกัน
“ไม่รู้สิ เรื่องนี้ต้องถามไออุ่น ไออุ่นอาจจะอยากมาอยู่กับปู่มากกว่าอยู่กับสามีแบบแกก็ได้” ชี้โพรงให้กระรอกชัดๆ ปู่ของเขาวางเพลิงไม่พอยังชอบชี้โพรงให้กระรอกตาแป๋วอย่างอัยยภัทรอีก
“ว่ายังไงไออุ่น อยากกลับมาอยู่กับปู่ไหมล่ะ” เจ้าสัวกิตติหันมาถามหญิงสาวที่กำลังเทชาให้เขาอย่างเอ็นดู
“อยากค่ะ “ อัยยภัทรตอบแค่นั้น ชนะศึกถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก
“ไออยากกลับมาอยู่กับคุณปู่ กลับมาดูแลคุณปู่ใกล้ๆ แต่ในฐานะภรรยาของพี่ศึก ไอทิ้งให้พี่ศึกอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ ไอมีหน้าที่ที่ต้องดูแลคุณปู่ในฐานะที่คุณปู่เอ็นดูรับเลี้ยงไอ ไอไม่ลืมตรงนี้ แต่ไอก็ต้องทำหน้าที่ภรรยาของพี่ศึกที่คุณปู่มอบให้ไม่ขาดตกบกพร่องเหมือนกัน ไอเลยอยากจะขออนุญาตพี่ศึกมาหาคุณปู่บ่อยๆได้ไหมคะ” คำตอบของอัยยภัทรทำให้เขาใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย แต่กระรอกก็คือกระรอก มีคนชี้โพรงให้ขนาดนี้มีหรือจะปล่อยผ่าน
“เดี๋ยวพี่พาไอมาหาคุณปู่เอง” ชนะศึกรับคำทันที
“รอแกพามา ปู่ก็เจอไอแค่เดือนละครั้งพอดี เห็นใจคนแก่ขี้เหงาหน่อยสิไอ้ลูกหมา” วันนี้ปู่ของเขาจ้องจะให้เขาเป็นหมาให้ได้จริงๆสินะ
“แล้วปู่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ปู่ก็เห็นว่างานผมเยอะ” ชนะศึกถามเสียงเครียด
“งานที่บริษัทมันก็ไม่ได้น้อยนะ ปู่ไม่เข้าใจว่าแกจะหางานมาเพิ่มทำไม ยิ่งไปพวกผับบาร์ด้วย” เจ้าสัวกิตติเอ่ย
“แต่ก่อนผมก็อยากมีอะไรทำ อยากสร้างอะไรเป็นของตัวเองบ้าง “ ชนะศึกตอบตามที่ตนเองคิด เขาไม่แปลกใจที่ปู่ของเขาจะรู้ เพราะหูตาปู่เป็นสับปะรด ไปทำอะไรตรงไหนอย่าหวังจะปิดได้เลย แต่ถ้าไม่รู้สิแปลก
“มีเป็นของตัวเองมันก็ดี แต่ปู่ก็อยากอุ้มเหลนเหมือนกันนะ” เจ้าสัวกิตติเอ่ยเสียงเรียบ ชนะศึกที่กำลังยกแก้วกาแฟชะงักก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่ก้มหน้างุด
“บอกหลานสะใภ้ปู่อีกคนด้วยสิครับ ทำลูกผมทำคนเดียวได้ที่ไหน” ชนะศึกพูดพลางมองปฏิกริยาของหญิงสาวข้างตัว
“ว่ายังไงล่ะไออุ่น เมื่อไหร่จะมีเหลนให้ปู่” เจ้าสัวกิตติหันมาถามหญิงสาวแทน อัยยภัทรรู้สึกอึดอัดกับคำถาม พยายามหาคำตอบที่จะตอบชายชราตรงหน้า
“แต่ปู่ว่าที่ไออุ่นไม่มีเหลนให้ปู่สักทีเพราะตาศึกมันไม่ได้เรื่องใช่ไหมล่ะ “ ชายชราโยนความผิดให้หลานชายตรงหน้าเมื่อสัมผัสได้ว่าหญิงสาวกำลังกดดันตัวเอง
“อ้าวปู่ ทำไมผมผิดคนเดียวล่ะ” ชนะศึกโวยวาย
“ปู่ก็แก่แล้ว ปู่ก็อยากอุ้มเหลนตัวน้อยๆ ปู่ไม่ได้กดดันไออุ่นนะลูก ปู่อยากให้ไออุ่นพร้อม แต่ปู่ก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปอีกนานแค่ไหน จะได้อยู่เห็นหน้าเหลนหรือเปล่า” ชายชราทำเสียงเศร้า
“คุณปู่ไม่พูดแบบนี้นะคะ คุณปู่ต้องอยู่กับไอไปนานๆ คุณปู่อยากอุ้มเหลนหรอคะ ไอจะมีเหลนให้คุณปู่เองค่ะ” อัยยภัทรตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อะไรที่ทำให้ชายชราตรงหน้ามีความสุขเธอก็พร้อมเสมอ
“ไออุ่น...” ชนะศึกพูดคล้ายละเมอเมื่อได้ยินหญิงสาวตอบชายชราแบบนั้น
“เดี๋ยวไอไปปรึกษาหมอฝากไข่เองค่ะ” ผ่าง!!! คำพูดต่อมาทำให้อารมณ์ของชนะศึกพุ่งสูงปรี๊ดด้วยควาโกรธ
“เธอจะบ้าหรือไงอัยยภัทร!!! เธอมีผัว แล้วผัวเธอก็นั่งหัวโด่อยู่นี่ จะไปหาหมอฝากไข่หาสเปิร์มทำไม อยากมีลูกพี่ก็ทำให้เธอได้ เอาแบบตั้งฟุตบอลทั้งทีมพี่ก็ทำได้” ชนะศึกพูดด้วยความฉุนเฉียว หญิงสาวคิดได้ยังไงว่าจะไปหาหมอทำลูกแทนที่จะมาหาเขา อัยยภัทรสะดุ้งสุดตัวที่โดนชนะศึกตะคอกเสียงดังใส่ นานมากแล้วที่หญิงสาวไม่ได้เห็นเขาในมุมแบบนี้ ชนะศึกที่เธออยู่ด้วยทุกวัน เงียบขรึม สุขุม และเป็นระเบียบ มีเหตุมีผลเสมอ
“แกจะตะคอกน้องทำไมตาศึก ไออุ่นตกใจหมดแล้ว” ชายชรารีบปรามหลานชายทันที
“ก็ปู่ดูไอพูดสิครับ” ชนะศึกยังไม่เลิกโวยวาย
“ให้ดูอะไร ถ้าที่ไอพูดมาเป็นเรื่องจริง แสดงว่าแกไม่ได้เรื่องเองหรือเปล่าตาศึก “ ชายชรารู้สึกสนุกเมื่อเห็นหลานชายควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แหมม ทำนิ่งเสียตั้งนานพอเมียบอกจะไปหาหมอทำลูกทำลนลานไฟลนก้นเลยนะ
“กลับคอนโดเธอเจอดีแน่อัยยภัทร อยากได้ลูกใช่ไหม พี่จะเสกเข้าท้องให้เธอไม่ได้พัก เอาให้เหมือนวัวแม่พันธุ์เลย” ชนะศึกหันไปขู่หญิงสาวที่แอบเขยิบเก้าอี้ไปใกล้ๆปู่ของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ปู่ยังอยู่ตรงนี้ แกยังกล้าขู่ไออุ่นอีกหรือไงตาศึก ไม่เป็นไรนะไออุ่น ไม่ต้องกลัวคืนนี้นอนค้างกับปู่ที่นี่แหละ ปู่ให้เด็กไปทำความสะอาดห้องเดิมให้แล้ว” ชายชราหันมาปลอบหญิงสาว
“เอ้าปู่ แล้วไหนบอกอยากอุ้มเหลน ให้ไอนอนนี่แล้วปู่จะมีเหลนได้ยังไง”
“จะทำเหลนต้องทำเฉพาะที่คอนโดแกหรือไงล่ะ ฉลาดทุกเรื่องดันมาโง่เรื่องนี้” ชายชราส่ายหน้าอย่างระอาแก่ใจ
“ถ้าไอนอนนี่ผมนอนด้วย” ชนะศึกโพลงขึ้น
“งะ งะ งั้นไปบอกให้เด็กเตรียมห้องให้นะคะ” หญิงสาวรีบเสนอตัวก่อนที่อะไรที่กำลังกลัวจะเกิดขึ้น
“เตรียมทำไม ผัวเมียที่ไหนเขานอนแยกห้องกัน ไอนอนห้องไหนพี่ก็นอนห้องนั้นแหละ” นั่นไงผิดจากที่คิดที่ไหนกันล่ะ แล้วอยู่ต่อหน้าเจ้าสัวกิตติใครจะกล้าขัดล่ะ ทีอยู่ที่คอนโดชนะศึกไม่เห็นเคยอยากจะเข้าใกล้เธอ ทีแบบนี้ล่ะทำไมรีบไขว่คว้านัก
“ถือว่าไม่ได้โง่เสียทีเดียวนี่หว่า” ชายชราเอ่ยชม
“ก็ปู่เปิดทางให้ขนาดนี้ ผมก็ต้องรีบคว้าไว้สิครับ” สองหนุ่มต่างวัยหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน คุยเรื่องนั้นบ้าง เรื่องนี้บ้าง พอให้คนแก่คลายเหงาในช่วงบ่ายๆไปได้เยอะ หญิงสาวเลยขอตัวลงไปเตรียมอาหารเย็นปล่อยให้ปู่หลานได้คุยกันอย่างเป็นกันเองต่อไป
