บท
ตั้งค่า

Chapter 6 หวังว่าจะเจอกันอีก

สุดท้ายแล้วฉันก็ออกมาจากบ้านพร้อมกับเรย์ และไหนๆก็เลยตามเลยไปแล้วฉันก็เลยต้องไปนั่งกินข้าวกับเขาเพราะเขาเอาแต่ชวนฉันไม่หยุด ฉันตัดความรำคาญน่ะ

และตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งรออาหารที่สั่งไปก็รอมาได้สักพักแล้วล่ะเพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ

"ดูท่าน่าจะอร่อยจริงๆนะครับคนเยอะเชียว"

เรย์พูดกับฉันด้วยหน้าตาที่ระรื่นขึ้นจากเมื่อกี้มาก และเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้สักนิด เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งฉันก็ว่ามันดีแล้วล่ะ

"อืม"

ฉันเองก็ได้แต่ตอบแค่นั้น

Rrrr~

แต่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไรกันไปมากกว่านี้เสียงมือถือของเรย์ก็ดังขึ้น มือถือของเขาวางอยู่บนโต๊ะข้างๆแขนเขานั่นแหละ

Rrrr~

แต่มันก็เหมือนว่าเขาจะไม่สนใจหรืออาจจะไม่ได้ยินเพราะว่าเสียงตรงนี้ก็ค่อนข้างดัง ฉันเห็นว่าเขาเอาแต่มองไปรอบๆทำท่าเหมือนจะตื่นตาตื่นใจทั้งๆที่มันก็ไม่น่าจะดูน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ และมือถือของเขาก็ยังคงดังอยู่เรื่อยๆ เป็นฉันเองที่หลุบตามองหน้าจอมือถือเขาแบบไร้มารยาท ก็เห็นว่ามีคนโทรเข้ามาเบอร์ที่มีเมมไว้เป็นภาษาอังกฤษคำว่า ?baby

"นี่..."

"..."

"นาย"

"..."

"เรย์!"

"ครับ"

สุดท้ายฉันก็จำเป็นที่จะต้องเรียกเขาให้หันมารับโทรศัพท์ที่ยังคงดังอยู่จนฉันรำคาญแทน ฉันเรียกเขาหลายครั้งแต่เขาก็ไม่หันมาจนสุดท้ายฉันต้องเรียกชื่อเขาอีกรอบด้วยน้ำเสียงที่ดุนิดๆ นั่นแหละเขาถึงได้หันมาพร้อมกับขานรับฉันอย่างสุภาพ

"มือถือนายดังเป็นรอบที่ห้าแล้วนะ"

ฉันบอกกับเขา

"อ้าว ของผมหรอ"

เขาทำหน้าตาใส่ซื่อใส่ฉัน ทำให้ฉันแอบกรอกตาและเบนหน้าหนี แต่จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายวินาทีฉันก็ไม่เห็นได้ยินเสียงเขาพูดโทรศัพท์เลย ถึงได้หันไปมองก็เห็นว่าเขากำลังหลุบตาพิมพ์ข้อความบางอย่างในมือถือแทน คงแชทไปบอกสินะว่าไม่สะดวกจะคุยตอนนี้ แล้วคนที่โทรมาที่เมมว่าเบบี้น่ะ ฉันคิดว่าอาจจะเป็นแฟนเขาก็ได้นะ

"..."

และฉันไม่รู้ว่ามองเขานานไปหรือเปล่า จนเขาเงยหน้าขึ้นมาและเราสบตากันพอดีเขายกยิ้มให้ฉันพลางคว่ำหน้าจอมือถือลง

"ฉันว่าฉันกลับดีกว่า"

"เดี๋ยวสิครับอาหารจะมาแล้วนะ"

"ฉันจ่ายค่าอาหารให้แล้วกัน ฉันไม่อยากยุ่งกับแฟนคนอื่น ถ้าแฟนนายรู้คงไม่ชอบ"

"แฟน? ไม่มีนะครับ"

"ที่ฉันเจอมาก็พูดแบบนี้ทุกคนนั่นแหละ"

ฉันพูด และมันก็จริงที่มีไก่คนเข้าหาฉันทั้งๆที่ก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งนั้นฉันถึงไม่จริงจังกับคนที่เข้ามาคุยกับฉันไง พวกไว้ใจไม่ได้!

เขาหัวเราะในลำคอพลางยกมือขึ้นเท้าคางและมองหน้าฉัน

"ผมไม่แปลกใจนะที่จะมีคนพูดแบบนี้กับพี่เยอะ ก็พี่สวยจริงๆ"

เขาพูดและยิ้มหวานให้ฉัน โอเค ถ้าเจอคำพูดแบบนี้ สายตาแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้ ใครก็ต้องละลายทั้งนั้น แต่นั่นต้องไม่ใช่ฉัน!

"แล้วมุกนี้มันก็ใช้กับฉันไม่ได้ผล ฉันชอบคุยกับคนจริงใจ ไม่โกหกจนเป็นเรื่องปกติเหมือนใครบางคน"

"ฮ่ะๆ"

เขาหัวเราะอีกพลางวางมือที่เท้าคางลงบนโต๊ะและเคาะปลายนิ้วชี้กับโต๊ะสองครั้งก่อนจะพูดขึ้น

"ผมไม่มีแฟนจริงๆครับ"

หึ

"นี่ก็แค่...คุยกันเฉยๆ"

คนคุยสินะ แต่ก็ไม่แปลกหรอก เขาหน้าตาแบบนี้น่ะ ผู้หญิงที่ไหนก็ต้องอยากคุยกับเขาอยู่แล้ว

"จริงใจพอมั้ยครับ"

เขาถามด้วยรอยยิ้มขี้เล่นตามสไตล์เขา ฉันหัวเราะในลำคอออกมาบ้าง นี่เขาแสดงความจริงใจด้วยการบอกกับฉันตรงๆว่ามีคนคุยอยู่แล้วงั้นสิ

หึ จริงใจมาก!

"ผมพูดความจริงแลกกับการที่พี่จะเสียเวลานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนผมได้มั้ย"

ชอบการแลกเปลี่ยนหรือไง พอต้องการก็แค่หาอะไรมาแลกเปลี่ยน คิดว่าอะไรมันจะง่ายไปหมดทุกอย่างเลยเหรอ

สวบ~

"อาหารมาแล้วค่ะ"

เราสองคนหยุดคุยกันเพราะพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟพอดี ฉันเบนสายตาไปมองอาหารที่เรย์สั่งมาบนโต๊ะ

ยอมรับว่ามันน่ากินมาก...

"ขอโทษที่ให้รอนาน ทานให้อร่อยนะคะคุณลูกค้า"

พนักงานโค้งให้เราเป็นการขอโทษที่ทางร้านช้าไปก่อนจะยิ้มและเดินออกไป

"..."

ฉันมองแผ่นหลังของพนักงานที่เดินจากไปพร้อมกับกระเพาะที่เริ่มประท้วงความหิวกับฉันเพราะฉันเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกัน

"อาหารอยู่ตรงหน้าแล้วนะครับ พี่จะกลับจริงๆเหรอ"

ฉันแอบกลืนน้ำลายเบาๆ กลิ่นอาหารนี่ก็ยั่วจมูกฉัน แถมรสชาดความอร่อยที่ฉันเคยสัมผัสมันก็ทำให้ฉันน้ำลายสอ

"ทั้งหอม ทั้งน่ากิน ดูท่าจะอร่อยจริงๆด้วย"

"..."

ใช่ มันอร่อยมาก โดยเฉพาะเมนูเด็ดของร้านที่นายสั่งมาด้วย เมนูนี้มันอร่อยมากจริงๆ

ฉันหิวอ่ะ หิวจริงๆ

"พี่..."

"หยุดพูดได้แล้ว ฉันจะกินข้าว"

ในที่สุดความหิวก็ชนะฉัน เออ ก็ได้ ฉันอยู่กินก่อนก็ได้วะ

"ฮ่ะๆ"

"หัวเราะทำไม จะกินมั้ยข้าวอ่ะ!"

ฉันถลึงตาใส่เขา เขาทำมือปิดปากเหมือนเด็กและพยักหน้าหงึกหงักใส่ฉัน

"รู้ไว้ด้วย ฉันอยู่เพราะจะกินข้าว ไม่ได้อยู่เพราะนายขอ"

"คร้าบผม"

บางทีฉันก็เริ่มหมั่นไส้เขา นึกอยากจะเอาส้อมทิ่มตาทะเล้นๆของเขาสักทีสองทีเหมือนกัน

-เรย์-

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณเกือบห้าทุ่มแล้วครับ เราใช้เวลาอยู่ที่ร้านนี้ค่อนข้างนาน เพราะคนเยอะจริงและอาหารก็อร่อยจริงๆด้วย

ครืด~

ผมกับพี่ลลิสกินข้าวกันเสร็จแล้วและกำลังจะกลับ แต่ผมกำลังรอเธอที่ลุกไปเข้าห้องน้ำ และตอนนี้มือถือที่อยู่บนโต๊ะของผมกำลังสั่นเพราะก่อนหน้าตอนที่เบบี้โทรมาผมไม่ได้รับและตั้งสั่นเอาไว้ ผมหงายหน้าจอมือถือขึ้นดูก็เห็นว่าเป็นเบบี้อีกเหมือนเดิมที่ส่งไลน์มา

ผมอ่านแชทของเธอที่เด้งขึนมาโดยไม่ได้กดเข้าไปดู

Baby::พี่เรย์ ทำอะไรอยู่คะ?

Baby::ไม่รับสายเบบี้เลย เบบี้คิดถึงจัง?

ผมกระตุกยิ้มหนึ่งครั้ง และอย่างที่บอกไป เบบี้คือคนคุยของผมในตอนนี้ เธออายุยี่สิบสอง ตัวเล็ก ผิวขาว น่ารัก หุ่นดี ขี้อ้อน คุยกับเธอแล้วสนุกดีเหมือนกัน

Baby::เบบี้เหงาจังเลยค่ะ พี่เรย์ไม่ว่างเหรอ

แต่ผมไม่เคยหลอกเธอนะ เราคุยกันแล้ว ว่าจะคุยกันไปเรื่อยๆ เพราะเราต่างไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน คุยแก้เบื่อ แก้เหงา นัดเจอกันบ้างเวลาเซ็งๆ ดื่มด้วยกันบ้างบางครั้ง และแน่นอนว่าเราต่างไม่ได้คุยกับแค่คนเดียวเท่านั้น เบบี้มีคนอื่นอีก ผมเองก็มี แต่เราก็ไม่ก้าวก่ายกันไง เมื่อไหร่มีแฟนจริงจังก็คือแยกย้าย

Baby::เบบี้จะงอนแล้วนะคะ

แล้วที่ทักหาผมแบบนี้ สงสัยคนอื่นก็คงไม่ว่างเหมือนกันมั้ง จริงๆปกติผมก็จะตอบเธอนั่นแหละ แต่บังเอิญว่าตอนนี้ผมไม่ว่างนี่นา

"คุณลูกค้าคะ"

"ครับ?"

ผมเงยหน้าขึ้นมองพนักงานที่กำลังจะเดินผ่านโต๊ะของผมไปแต่เธอก็ชะงักและเรียกผมก่อน

"พอดีว่ามีกระเป๋าเงินหล่นอยู่ตรงนี้น่ะค่ะ"

เธอพูดกับผมพร้อมกับก้มหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมายื่นให้ผม

"ใช่ของคุณผู้หญิงที่มากับคุณลูกค้าหรือเปล่าคะ?"

"อ่า..."

ผมรีบรับกระเป๋าเงินนั้นมาและถือวิสาสะเปิดกระเป๋าดูเพราะจะได้รู้ว่าใช่ของพี่ลลิสจริงไหม ในกระเป๋ามีเงินจำนวนหนึ่ง มีบัตรต่างๆรวมไปถึงบัตรประชาชน

"ครับ ใช่ครับ"

และเมื่อรู้แล้ว ผมก็เงยหน้าขึ้นไปพยักหน้ากับพนักงาน

"ขอบคุณนะครับ"

และยิ้มขอบคุณเธอไปหนึ่งครั้ง เธอยิ้มตอบผมและเดินจากไป ส่วนผม ผมหลุบตาลงมองบัตรประชาชนของพี่ลลิสในกระเป๋าเงินอีกครั้ง แล้วผมก็เสียมารยาทอ่านข้อมูลบนบัตรของเธอ

'ลลิสรา ยุรประเสริฐ เกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 25XX...'

ผมอ่านชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ก็รู้ว่าเธอเป็นรุ่นพี่ผมสองปี แสดงว่าตอนนี้เธอคงจะใกล้ยี่สิบหกแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะยี่สิบหกเต็มตัวแล้วด้วย จริงๆแล้วผมรู้จากไอ้ตองว่าเธออายุมากกว่าผมแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่ากี่ปี จนมารู้ตอนนี้เนี่ยแหละ

แต่ว่านะ ผมดันเกิดคำถามขึ้นมาในสมอง ว่าบนโลกนี้จะมีคนเกิดในวันที่สี่ปีเวียนมาหนึ่งครั้งแบบนี้กี่คนกัน?

เหมือนกับ...

สวบ~

"เอ๊ะ กระเป๋าฉันนี่"

ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ลลิสที่เดินกลับมาและเธอกำลังมองกระเป๋าเงินของเธอในมือผม

"พี่ทำตกเอาไว้ พนักงานเก็บให้ผมเมื่อกี้"

ผมปิดกระเป๋าพลางถือมันไว้ในมือ

"งั้นก็เอาคืนมาสิ"

เธอจะยื่นมือมาคว้ากระเป๋าเงินของเธอ แต่ใครจะไปให้ง่ายๆกันล่ะ

"พี่ของหายบ่อยมั้ยครับ"

ผมถาม เพราะเท่าที่รู้จักกันมาสองวัน เธอวางมือถือไว้ที่ผับแล้วหนึ่ง ทำกระเป๋าเงินตกอีกหนึ่ง แล้วก็เป็นผมที่เก็บของๆเธอเอาไว้ทุกทีด้วย

"เรื่องของฉัน เอากระเป๋าคืนมา"

ครืด~

ผมลุกขึ้นพลางเก็บกระเป๋าของพี่ลลิสใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง เธอเบิกตาพลางเงยหน้ามองผมอย่างเอาเรื่องทันที

"ไปตกลงกันข้างนอกดีกว่าครับ ตรงนี้คนเยอะ"

"ตกลงอะไรอีกเล่า"

เธอถามผม ผมยกยิ้มและเดินผ่านเธอออกไปโดยไม่ได้ตอบอะไร

สวบ~

จนเดินมาถึงตรงที่รถของผมจอดอยู่ พี่ลลิสก็เดินหน้าตึงตามผมมา รังสีความอำมหิตกำลังแผ่ซ่านรอบตัวเธอ

"จะเอาอะไรอีก หลายทีแล้วนะ"

เธอคงเริ่มเดือดจัด เธอถามผมทันทีที่เดินตามมาถึงรถ ผมยกยิ้มมุมปาก

"แค่จะไปส่งครับ"

ผมตอบไป เพราะเมื่อกี้ก่อนไปห้องน้ำ เธอบอกให้ผมกลับไปก่อนด้วยซ้ำ เธอบอกว่าจะกลับเองแต่ผมก็ดันนั่งรอเธออยู่

"จะไปทำไม อยากโดนเฮียโจตีหัวเหรอห้ะ"

"โอ้ย ป่านนี้หลับไม่ตื่นฟื้นไม่มีไปแล้วล่ะ"

"นี่นายจะกวนประสาทฉันไปถึงไหน"

"ถ้าพี่ยอมให้ผมไปส่ง ผมก็ไม่กวนแล้ว"

เธอจ้องหน้าผมพลางเท้าเอว ผมมองแววตาเธอ

เหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

แต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจนิดๆนะ เพราะตั้งแต่เจอกัน เธอแทบไม่มองหน้าผมเลย ยอมรับว่าผมชอบมองเธอ ผมชอบแววตาของเธอ แต่เธอกลับไม่ค่อยสบตากับผม ไม่รู้ทำไม

แต่ว่าตอนนี้ ผมทำให้เธอมองหน้าผมได้นานๆแล้ว ถึงจะด้วยความโมโหก็เถอะ

"ผมจะคืนกระเป๋าเงินให้หลังจากถึงบ้านพี่ทันที"

"จะเอาแบบนี้ใช่ม่ะ?"

ผมพยักหน้า เธอเองก็พยักหน้า

"ได้ อยากไปส่งก็ไป!"

เธอกระแทกเสียงใส่ผมพลางเดินเข้ามากระแทกตัวผมให้หลบทางเดินของเธอด้วย เธอดึงประตูรถของผมแต่มันไม่เปิดเพราะผมยังไม่ได้ปลดล็อก

"เปิดรถสิ ให้หายตัวเข้าไปหรือไง"

"ฮ่ะๆ ใจเย็นๆสิครับ"

ผมหัวเราะพลางปลดล็อกรถให้เธอ พี่ลลิสรีบเปิดประตูและขึ้นไปนั่งบนรถทันทีพร้อมกับจะดึงประตูปิดแต่ผมดันเอาไว้ก่อน

เธอสบัดหางตามามองผม

"ผมปิดให้ดีกว่า"

ผมพูดพลางปิดประตูให้เธอเอง เพราะอะไรน่ะเหรอ ผมรู้ไง ว่าอารมณ์นี้เธอคงกระชากประตูผมปิดอย่างแรงแน่ แล้วผมก็รักลูกชายของผมเหมือนกันนะ ผมก็ต้องทะนุถนอมลูกผมหน่อยดิ

บรื้น~

หลังจากขับรถด้วยความเชื่องช้าจนในที่สุดผมกับพี่ลลิสก็มาถึงหน้าบ้านของเธอ

"นี่ขับหรือคลานไม่ทราบ"

เธอหันมาเหวี่ยงใส่ผมทันที เพราะผมตั้งใจขับรถช้าเองแหละ

"เอากระเป๋าเงินฉันคืนมาด้วย"

เธอแบมือขอกระเป๋าเงินจากผม ผมบิ้มกับการเหวี่ยงของเธอพลางควักกระเป๋าเงินคืนให้เธอตามข้อตกลง เธอรีบคว้าเอาไปทันทีพร้อมกับจะลงจากรถ

"ไว้ผมจะมาสักใหม่นะครับ"

ผมยิ้มและพูดกับเธอ เธอลงจากรถผมพร้อมกับหันมามองหน้าผมอีก

"ฉันไม่รับงานสักแล้ว และหวังว่าจะไม่เจอกันอีก"

เธอพูดตัดเยื่อใยกับผม

"แต่ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับ"

ผมยิ้ม

"ไม่มีวัน"

เธอชักสีหน้าใส่ผมพร้อมกับถอยหลังและรีบปิดรถของผมทันที

"อย่า..."

ปึ้ง~

ผมร้องห้ามไม่ทันเพราะเธอกระแทกประตูรถผมให้ปิดลงอย่างแรงจนรถสะเทือน ผมมองบานประตูรถของตัวเองอย่างสงสาร

ไม่เป็นไรนะลูก ลูกพ่อแข็งแกร่งอยู่แล้ว?

"..."

จากนั้นผมก็เบนสายตาไปมองพี่ลลิสที่กำลังเดินไปเปิดประตูบ้าน

"..."

ผมมองแผ่นหลังของเธอและดันรู้สึกใจเต้นขึ้นมา...

ยอมรับตรงๆได้ไหม ผมรู้สึกไหววูบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแผ่นหลังของเธอในวันที่ผมมาหาเธอเพื่อจะให้เธอสัก และผมใจเต้นตอนที่สบตากับเธอครั้งแรก แววตาของเธอ ท่าทางบางอย่างของเธอ การแสดงออกบางครั้งของเธอ น้ำเสียงที่ดันรู้สึกเหมือนเคยได้ยิน...

นั่นแหละ มันทำให้ผมอยากเจอเธออีก อยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้อีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel