Chapter 1 อย่าเกเร
*G&R อู่ คาร์แคร์ อะไหล่ยนต์
"ไอ้เพื่อนยาก"
ผมช้อนสายตาขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเสียงทักทายที่แสนสดใสร่าเริงพร้อมกับมีรอยยิ้มร่าประดับอยู่บนใบหน้า
คือว่าก่อนหน้านี้ผมกำลังก้มหน้าดูเครื่องยนต์ของรถที่เข้ามาซ่อมที่อู่อยู่ ผมน่ะชื่อเกียร์ เป็นเจ้าของอู่ที่นี่ ผมเปิดอู่มาได้สามปีกว่าแล้ว อู่ของผมไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก เป็นเพียงอู่ซ่อมรถที่มีบริการคาร์แคร์และขายอะไหล่รถยนต์ตามเงินทุนที่มี แต่เราก็มีการคุยๆกันแล้วว่าอยากจะเปิดแบบให้ครบวงจรและพัฒนากว่านี้ในอนาคตข้างหน้า แต่ก็นั่นแหละ เป็นเรื่องของอนาคต อ้อ นอกจากนั้นก็มีร้านเบเกอรี่ของเมียผมเปิดอยู่ด้านหน้าอู่ด้วย เอาไว้ให้ลูกค้าที่มานั่งรอรถ หรืออาจจะเป็นลูกค้าคนอื่นๆก็เข้ามานั่งกิน นั่งถ่ายรูปเล่นได้เหมือนกัน
"ทำไรอยู่?"
"แดกข้าว!"
ผมตอบมันไปแบบประชด เห็นก็เห็นว่าคนซ่อมรถอยู่ วันนี้มีรถเข้ามาเพิ่ม ไหนจะคิวก่อนๆอีก ซ่อมเล็กบ้าง ซ่อมใหญ่บ้าง ผมมีลูกจ้างช่วยซ่อมรถอยู่แค่สองคน ลูกจ้างช่วยล้างรถอีกสองคน แล้วก็มีสองแฝดรุ่นน้องของผมเพิ่งมาช่วยในด้านการบริการต่างๆ ขายอะไหล่และเป็นแอดมินเพจที่ไอ้เรย์เสนอแนะให้เปิดขึ้นมาเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอีก
อ้อ ไอ้เรย์ก็คือหุ้นส่วนอีกคนของผม มันครองหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่มันให้ผมใหญ่กว่าเพราะที่ดินตั้งแต่แรกเป็นของผม แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ผมคิดแค่ว่าเราเสมอกัน คนละครึ่งก็คือคนล่ะครึ่งเพราะมันคือเพื่อนรักของผม
และไอ้เรย์ ก็คือไอ้เวรที่ยืนยิ้มทำหน้าใสซื่อใส่ผมอยู่ข้างๆนี่แหละ
"เหงื่อไหลแล้วมึง"
มันตั้งท่ายื่นมือมาจะเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาจากไรผมให้ ผมผลักมือมันเบาๆพร้อมกับยืดตัวขึ้นตรงและมองค้อนมัน
เนียนเก่งเนอะมึงอ่ะ!
"มึงสาย!"
"ก็...นิดหน่อยน่า"
"สิบนาที?"
"รถติดอ่ะแหละ เนอะ"
มันยิ้มให้ผม ทำสายตาเหมือนสำนึกผิดนิดหน่อย
"ถ้ามึงสายอีก กูจะหักเงินมึง"
ผมใช้ประแจชี้หน้ามัน ถึงมันจะเป็นหุ้นส่วนมันก็ต้องได้เงินทุกเดือน เหมือนๆกับลูกจ้างทุกคนนั่นแหละ
ฟลุ่บ~
มันดันประแจที่ผมชี้หน้ามันลงพร้อมกับตวัดเรียวแขนกอดคอผมและหันหน้าของเราสองคนเข้ามาที่หน้ารถยนต์คันที่ผมกำลังดูอยู่
"อย่าดุกูเยอะ ให้ลูกน้องเคารพกูบ้างนะไอ้เฮีย"
มันลูบบ่าผมเบาๆ ผมตวัดสายตามองหน้ามัน กูก็ไม่ได้อยากจะดุมึง แต่มึงมันเริ่มไง เมื่อก่อนมันเป็นคนขยัน ทุกวันนี้ก็ยังขยันอยู่ ทำงานได้ทุกอย่างเหมือนผม จริงๆแล้วมันเก่งแต่พักนี้มันเริ่มเกเรนิดหน่อย มันเป็นคนโสดแต่ช่วงนี้เห็นว่ามีเด็กมาติดอยู่บ้าง ผมก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่เพราะผมยุ่งทั้งงานนอก งานใน เลิกงานผมก็กลับบ้าน มีลูกมีเมียให้ต้องดูแล ก็เห็นไอ้พวกเด็กๆในอู่ๆมันพูดกันนั่นแหละ
"มึงก็อย่าเกเร โตแล้ว"
ผมพูดกับมันสองคน มันทำท่าตะเบะรับคำ
"รับทราบครับผมมม"
แต่ผ่านไปกี่ปี มันก็ยังคงกวนส้นตีนเหมือนเดิม
ครืด~
"ไอ้เกียร์"
ผมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานเมื่อไอ้เวรเรย์เปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้เคาะ
"อะไรของมึง"
ผมพูดกับมันพลางเอนหลังพิงเก้าอี้ มันเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวตรงหน้าผม
"ไอ้พวกเด็กๆบอกว่าเมื่อเย็นวานมีสาวสวย หุ่นเซ็กซี่ ผิวขาวจั๊วเอารถมาซ่อมเหรอมึง"
ผมพยักหน้า
"ทำไมกูไม่รู้วะ"
"ก็มึงเลิกงานไปแล้วไง"
ผมตอบ จริงๆแล้ว ผมนี่แหละที่เป็นคนพาลูกค้าคนนี้เอารถมาซ่อมที่อู่ ส่วนเรื่องราวมันเป็นยังไง...
ขี้เกียจเล่าว่ะ
"แล้วเค้าจะมารับรถวันไหน กูอยากเห็น เห็นไอ้จิมบอกว่าสวยมาก สเป็กกูด้วย"
ผมกรอกตานิดหน่อยพลางค้นหาเอกสารของลูกค้าในแฟ้มแล้วเสือกแฟ้มไปให้มัน
"รถก็รอต่อคิวอยู่นั้นไง"
ผมบอกกับมัน จริงๆก็กะจะเอาเอกสารไปให้มันพอดี เพราะวันนี้ผมต้องไปส่งอะไหล่ อีกอย่างเรื่องติดต่อสื่อสารผมก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ก็ให้มันเดินเรื่องเป็นประจำอยู่แล้ว
ไอ้เรย์ก้มหน้าอ่านข้อมูลในเอกสารที่ผมยื่นให้ไป
"เปลี่ยนเครื่อง โดนย้อมแมวเปลี่ยนเครื่องมาอ่ะนะ?"
จากนั้นมันก็เงยหน้ามาถามผมทันที จริงๆรถของเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่แค่ดวงซวยไปเจออู่ที่ไร้จรรยาบรรณก็เลยเสียเงินไปหลักพันเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆรถเธอต้องอยู่ที่อู่เราหลายวัน ก็เพราะผมต้องหาเครื่องรถเดิมๆมาใส่ให้เธอนี่แหละ
"ที่กูให้หาเครื่องเดิมมา มึงติดต่อหรือยัง"
"เออ เขาบอกวันนี้ให้โทรไปอีกทีว่าหาได้มั้ย"
ผมพยักหน้า
"อู่นั่นแม่งโครตเชี่ยเลยว่ะ ทำมาหากินกันแบบนี้ได้ยังไง แล้วนี่เธอทำยังไงอ่ะ เอาเรื่องมั้ย"
"ไม่รู้ดิ มึงอยากรู้ก็ถามเองแล้วกัน"
ผมพูดพลางลุกขึ้นยืน ไอ้เรย์เงยหน้ามองตามผม
"จะไปแล้วอ่อ"
"ยังไม่ถึงเวลา กูจะไปหาขวัญที่ร้าน"
"อ้อ ลืมไปว่าติดเมีย"
"มึงเลิกพูดมากได้ละ ดูอู่ ดูลูกน้องด้วย"
"คร้าบ ครับเพื่อน"
ผมล่ะอยากจะโบกหัวมันเหมือนกันนะ แต่ติดที่โบกไปก็เท่านั้น ความกวนประสาทมันซึมอยู่ในเซลล์ร่างกายมันแล้ว ตบยังไงก็ไม่หลุดออกมาหรอก เจ็บมือเปล่าๆ แต่ผมก็ภาวนาอยู่นะ ว่าให้มันเจอผู้หญิงสักคนที่เอามันอยู่...
เหมือนๆกับผมนี่แหละ
-เรย์-
"ตอง"
"ว่าไงเฮีย?"
ตอง ลูกน้องที่เป็นฝ่ายล้างรถหันมาหาผมหลังจากที่มันถอดเสื้อที่เปียกเพราะล้างรถออกสะบัดตากและผมกำลังมองมันอยู่
"มึงมานี่ดิ"
ผมพยักหน้าเรียกมัน ไอ้ตองทำหน้างงนิดหน่อยแต่ก็เดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่
"หันหลัง"
"หันทำไมเฮีย?"
"บอกให้หันก็หันสิวะ เอ้อ"
ผมบอกกับมัน มันขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมแต่ก็ยอมหันหลังให้ผม ผมมองแผ่นหลังกว้างของมันก่อนจะเลื่อนสายตาลงมาที่แถวๆสะโพกพร้อมกับยื่นมือไปแตะเบาๆ
"เห้ย อะไรเนี่ยเฮีย!"
"เฮีย ทำอะไรอ่ะ?"
เสียงไอ้ตองที่สะดุ้งเฮือกและเด้งตัวออกห่างจากผม พร้อมกับไอ้ฟิวลูกน้องอีกคนที่ก็มองการกระทำของผมอยู่ร้องถามขึ้นเหมือนกัน
"นี่อย่าบอกนะ ว่าที่ไม่ยอมมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที แล้วที่ควงสาวไปไหนมาไหนเฮียแค่ตบตาอ่ะ"
"ตบตาอะไรของมึงไอ้ฟิว"
"ก็ หรือจริงๆแล้วเฮีย...ชอบไอ้ตอง"
"คxยเถอะ"
ผมสวนมันไปทันที
"เอ้า ใครจะรู้ล่ะ ก็เมื่อกี้เฮียลูบมันซะอย่างกับพิศวาส"
"ไอ้ฟิวมึงเลิกพูดเถอะ กูขนลุกสัส"
"พวกมึงพอเลย เดี๋ยวก็เอารองเท้ายัดปากซะนี่"
ผมพูดพลางลุกขึ้นยืนและตั้งท่าเหมือนจะเข้าไปเตะพวกมันที่กระเด้งตัวไปยืนเกาะกันอยู่
"กูชอบผู้หญิง แต่ที่กูลูบตัวไอ้ตองเมื่อกี้อ่ะ กูดูรอยสักมัน"
"ห้ะ?"
"ห้ะห่าอะไรล่ะ รอยสักมึงอ่ะ กูเห็นมันสวย ฝีมือดี กูว่าจะสักเพิ่ม ก็จะดูเส้นดูงานใกล้ๆเผื่อจะไปสักบ้าง"
ผมตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ เพราะผมคิดแค่นี้จริงๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ไอ้พวกเวรนี่ดันคิดลึกไปถึงท้ายซอยเลยมั้ง
"โถ่ แล้วก็ไม่ถามดีๆล่ะคร้าบ"
"ก็กูยังไม่ทันถามไง"
ผมเท้าเอว
"แล้วสรุปสักที่ไหน พากูไปมั่ง"
"โอ้ย ได้ดิเฮีย เย็นนี้เลยป่าวเลิกงาน"
"เออ ตามนั้น"
ผมตอบพลางหันไปมองที่โซนหน้าร้าน เห็นแว่บๆว่ามีรถขับเข้ามา
"แต่ตอนนี้ทำงานได้แล้ว กูไปดูลูกค้าก่อน เดี๋ยวพ่องมาหาว่ากูพาอู้อีก"
ผมพูดพลางเดินออกมาจากตรงนั้น ก็นั่นแหละ ผมก็ยังคงเป็นผม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่ ส่วนไอ้เกียร์ที่เป็นพ่อคนไปแล้วหนึ่ง ก็สมกับคำว่าพ่ออ่ะครับ ทุกวันนี้บางครั้งมันยังดุผมเหมือนเป็นพ่อผมอีกคนเลยล่ะ
