บท
ตั้งค่า

บทนำ

ปึ้ง~

"เวรกรรม!"

ฉันปิดประตูรถอย่างรุนแรงเพราะจู่ๆรถคู่ใจของฉันก็ดันมาดับไปซะดื้อๆ มันอารมณ์เสียเพราะฉันต้องรีบไปทำงานและเมื่อวานฉันเพิ่งเอารถออกมาจากอู่หนึ่ง คือรถฉันเพิ่งเสียและฉันก็เพิ่งซ่อมมาหมาดๆ แล้วมันก็ดันจะเสียอีกแล้วเหรอวะ

"ทำไมงอแงแบบนี้ ถ้าพังบ่อยแบบนี้ฉันจะเอาแกไปขายเป็นเศษเหล็กแล้วซื้อรถใหม่ซะ!"

ฉันเท้าเอวพูดกับรถของตัวเองราวกับคนไม่ปกติ คือมันคงไม่มีใครมาพูดกับรถกับสิ่งของเหมือนฉันไง ถ้าใครได้เห็นก็คงคิดว่าฉันสติไม่ดีแน่ๆ

"โอ้ย ติดเถอะ ขอร้องล่ะ"

ฉันแทบจะกราบรถตัวเองอยู่แล้ว ตรงนี้ทำไมดูไม่ค่อยมีรถผ่านไปมาก็ไม่รู้ ฉันเพิ่งเคยมาแถวนี้ครั้งแรกนะ คิดว่าตัวเองไม่หลงหรอกแต่พอทางมันเงียบ มันก็เลยดูเปลี่ยว แถมตอนนี้ก็มืดแล้วด้วย ยังไงก็เถอะ ฉันขอให้มีรถผ่านมาซักคันก็ยังดี...

บรื้น~

"อ๊ะ นั่นไง"

ฉันยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงรถปิ๊กอัพสีดำสนิทคันหนึ่งกำลังขับตรงมาทางนี้ ฉันกระโดดออกจากหน้ารถของตัวเองแล้วโบกมือไปมา เพื่อให้คนขับที่อยู่ด้านในรถที่ติดฟิล์มสีดำมองเห็นฉัน

ไม่นานรถคันนี้ก็ชะลอและเบี่ยงเข้าข้างทางจอดต่ออยู่ที่ท้ายรถของฉัน

ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูลงมาจากรถ เขาใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ หน้าตาก็...

หล่อนะ แต่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ได้ยิ้มหรือพูดอะไรเลย

สวบ~

แต่ฉันก็เลือกที่จะเดินเข้าไปหาเขาอย่างใจกล้าเพื่อกล่าวขอความช่วยเหลือ

"คือว่า..."

ฉันอ้าปากจะพูดกับเขาแต่ก็ต้องชะงักเพราะแอบเห็นสายตาคมกริบของเขาที่กวาดมองฉันทั้งตัว

ก็นะ ฉันใส่เสื้อสายเดี่ยวสีขาวกับกระโปรงสีเดียวกัน แต่งหน้าค่อนข้างเต็ม เพราะฉันจะต้องรีบกลับไปไลฟ์สดให้ทันเวลา

ตอนนี้ฉันน่ะ มีอาชีพหลักเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าแฟชั่น และวันนี้ฉันก็เพิ่งไปทำธุระและรับเสื้อผ้ามา ก็กะว่ากลับมาจะมาไลฟ์สดขายเสื้อผ้าตอนประมาณสองทุ่มตามเวลาที่ลงไว้ในเพจนัดลูกค้าไว้

"..."

แต่เขาก็มองฉันแค่แว่บเดียว ก็เลื่อนสายตาไปมองรถของฉันโดยไม่พูดอะไร ฉันจะมองว่าเขาเป็นคนพูดน้อย ก็เลยไม่สนใจกิริยาของเขาและตัดสินใจพูดต่อ

"คือว่า รถฉันจู่ๆมันก็ดับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คุณพอจะช่วย..."

"เปิดกระโปรง"

"ห้ะ?!"

ฉันตกใจจนอดอุทานเสียงดังออกมาไม่ได้นะ อยู่ดีๆมาพูดโพล่งอะไรแบบนี้ออกมา

ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาคงหมายถึงกระโปรงหน้ารถ!

"รถ"

เขาพยักเพยิดหน้าไปที่รถเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดที่ไม่ได้สื่อสารออกไปทางสองแง่สองง่ามแบบตั้งใจ ฉันแอบถอนหายใจและพยักหน้าเบาๆก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินไปเปิดกระโปรงหน้ารถให้เขาตามที่เขาบอก

แอบกรอกตาด้วยแหละ ก็ไม่รู้จะประหยัดคำพูดอะไรนักหนา กลัวดอกพิกุลทองจะร่วงหรือไงกัน?

"..."

ฉันเดินไปหยิบเสื้อคลุมของตัวเองที่ตอนแรกถอดไว้ในรถและมายืนดูผู้ชายคนนี้ใกล้ๆและกำมือถือเอาไว้ในมือ อย่างที่บอกว่าฉันใส่ชุดวาบหวิวพอสมควร ที่สำคัญตรงนี้มันก็มืดพอดู ถึงฉันจะเป็นคนโบกมือเรียกให้เขามาช่วย แต่ฉันก็ไม่ควรไว้ใจผู้ชายง่ายๆถูกไหม

ฉันยืนมองเขาที่ก้มๆเงยๆทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ เห็นเขาขมวดคิ้วมุ่น

สวบ~

"คุณคะ?"

ฉันเอ่ยขึ้นอีก เขาชะงักและพ่นลมหายใจออกมา

"คือฉันอยากรู้ว่ามันใช้เวลานานมั้ยคะ พอดีว่าฉันต้องรีบไปทำงาน คุณซ่อมมันได้มั้ยคะ หรือว่าต้องโทรเรียกอู่ เพราะเมื่อวานฉันเพิ่งจะเอารถออกมาจากอู่เอง วันนี้มันก็เป็นอีกแล้ว"

"ซ่อมอู่ไหนมา?"

เสียงเขาพูดขึ้น

"ก็อู่ละแวกใกล้ๆที่พัก..."

"เปลี่ยนอู่?"

"ทำไมคะ?"

"โดนเปลี่ยนเครื่องไปไม่รู้เลยหรือไง"

"ห้ะ?"

เปลี่ยนเครื่อง!

"จริงเหรอคะ"

"ไม่เชื่อก็ได้ แล้วแต่"

"ละ แล้ว แถวนี้พอจะมีอู่มั้ยคะ"

"มี อยู่ไม่ไกล"

"แล้วจะนานมั้ยคะ ฉันต้องทันสองทุ่ม"

"ไม่ทัน เร็วสุดก็สามวัน ต้องเอาเครื่องสับปะรังเคนี่ออกแล้วเปลี่ยนใหม่"

ฉันมองหน้าเขา ทำไมเขาดูรู้ดีจังเลย...

ไม่ได้หลอกฉันจริงๆใช่ไหมนะ?

เขายืดตัวขึ้นตรงพลางปิดกระโปรงรถลงและหันมามองหน้าฉัน

"ถ้างั้น...คุณพอจะติดต่ออู่นั้นให้ฉันได้มั้ยคะ"

ฉันถาม เขาพยักหน้าพลางเดินกลับไปที่รถและหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทร ฉันยืนมองอยู่ตรงนี้เห็นเขาคุยกับใครไม่รู้สักพักก็เดินกลับมา

"เดี๋ยวจะมีรถมาลาก"

"ขอบคุณนะคะ..."

"จะไปทำงานหรือจะตามไปที่อู่ก่อน?"

เขาถามขึ้นอีก พอพูดเยอะขึ้นก็พูดไม่รอจังหวะให้ฉันพูดให้จบเลยนะ หึ

"แถวอู่นั้นจะมีแท็กซี่มั้ยคะ ถ้าต้องทิ้งรถไว้ ฉันคงต้องขึ้นแท็กซี่"

ฉันถาม

"เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้แล้วกัน"

สุดท้ายเขาก็พยักหน้าและพูดขึ้น จากนั้นก็เดินไปที่รถตัวเองและขึ้นไปนั่งรอบนรถอย่างสบายใจเฉิบ ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนตบยุงเก้ๆกังๆอยู่แบบนี้

พอมองไปรอบๆก็วังเวงดีเหมือนกันเนอะ...

บรื้น~

วี้ดวิ้ว~

แถมยังมีวัยรุ่นสองคนขี้มอเตอร์ไซค์ผ่านไปพร้อมกับผิวปากแซวฉันด้วย

แล้วก็นะ เลี้ยวรถกลับมาทำบ้าอะไรวะ!

ก็อก ก็อก~

สุดท้ายฉันก็รีบเอาตัวรอดด้วยการเดินไปเคาะกระจกรถเขา ก็ไหนๆฉันก็ขอร้องให้เขาช่วยขนาดนี้แล้ว ฉันก็ขออีกนิดคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ

เขาเลื่อนกระจกลงมาและมองหน้าฉัน

"คือว่า...ขอฉันขึ้นไปนั่งรอบนรถได้หรือเปล่าคะ"

ปกติฉันไม่ใช่คนพูดจาสุภาพอ่อนน้อมขนาดนี้หรอกนะ แต่ฉันก็ต้องเอาตัวรอดไง ถึงมันจะแปลกๆปากไปบ้าง ก็เอาเถอะ

เขามองหน้าฉัน ก่อนจะเหลือบมองรถมอเตอร์ไซค์คันเดิมที่วนรถกลับมาพร้อมกับถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าและปลดล็อกประตูให้

"นั่งข้างหลัง"

"คะ?"

ฉันร้องถามเมื่อฉันจะขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านข้างคนขับแต่เขากลับบอกให้ฉันเข้าไปนั่งที่เบาะแคปด้านหลัง ก็ไม่เข้าใจว่าจะให้เข้าไปทำไมให้ลำบากเหมือนกัน

"ถ้าไม่นั่งก็แล้วแต่"

เขาพูดพลางเบนสายตามองออกไปนอกรถ เหมือนเป็นการบอกกับฉันกลายๆว่า ถ้าฉันไม่ไปนั่งที่เบาะด้านหลัง ก็ให้ฉันยืนรออยู่นอกรถซะยังไงยังงั้น

"ค่ะ นั่งค่ะ"

ฟลุ่บ~

แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหมล่ะ ฉันก็ต้องขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหลังเพื่อตากแอร์รออยู่บนรถของเขาด้วยอย่างเงียบเชียบน่ะสิ...

และไม่นานก็มีรถที่น่าจะถูกส่งมาจากอู่เพื่อมาลากรถฉันไป

********

อ่ะ เปิดตัวลลิส ว่าแต่ ผู้ชายท่าทางแบบนี้เหมือนใครนะ เจอใครน๊าาา?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel