พ่ายรักหัวใจมาร

61.0K · จบแล้ว
พวงชมพู
34
บท
38.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“พ่อของข้าวโพดเป็นใคร!” คำถามที่ดังขึ้นทำพุดกรองตัวสั่นหน้าเสีย เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจไม่คิดว่าจู่ๆเขาจะถามคำถามนี้ขึ้นมาอีก “ฉันถามว่าพ่อเด็กนี่เป็นใครพุดกรอง!” ยิ่งอีกคนแน่นิ่งชาญยิ่งต้องค้นหาคำตอบให้กับตัวเองโดยเร็วที่สุด ยังไงวันนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าใคร! ใครกันแน่ที่เป็นพ่อของเด็กคนนี้! “ตาชาญแกใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม มีอะไรทำไมไม่ค่อยๆ พูดกัน” คุณพิศเพลาเอ่ยขัดขึ้นมาบ้าง รู้ดีว่าอย่างไรเสียวันนี้ก็ต้องมาถึง ความลับไม่มีในโลก แต่ถึงอย่างไรก็ยังอยากให้คนทั้งคู่คุยกันด้วยเหตุผล “ใจเย็นเหรอครับคุณย่า! คุณย่าจะให้ผมใจเย็นได้ยังไงในเมื่อผู้หญิงคนนี้ปิดบังเรื่องลูกกับผม!!” ชาญตวาดตอบผู้เป็นย่าก่อนจะหันกลับมาจ้องมองแม่ตัวดีอย่างเอาเรื่อง เธอกล้าดียังไงถึงทำกับเขาแบบนี้ “คะ…คุณชาญ!” “คืนนั้นมีแค่เธอคนเดียวที่อยู่ที่นี่! ไม่มีใครกลับมากับฉันทั้งนั้น! แล้วไอ้รอยเลือดบ้าๆ บนผ้าปูที่นอนนั่นมันเป็นของเธอ ใช่ไหมพุดกรอง!” คนถูกเค้นทำได้เพียงแต่ร้องไห้ ไม่กล้าพอจะยอมรับความจริงที่เขาคาดคั้นกันอยู่ หากจะให้ปฏิเสธมันก็ยากเย็นเหลือเกินที่จะกล่าวออกไป “จะพูดหรือว่าจะให้ฉันตรวจดีเอ็นเอ! บอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าเธอเลือกอย่างหลังแล้วปรากฏว่าเด็กคนนี้เป็นลูกฉัน เธอจะไม่มีวันได้แตะเขาอีกเลยแม้แต่ปลายเส้นผม!” คำขู่ของเขาทำอีกคนน้ำตาไหลพราก แต่ก็ยังไม่ยอมบอกความจริงกับทุกคนเพราะกลัวสิ่งที่มันกำลังจะตามมาทีหลัง

นิยายรักโรแมนติก

บทนำ

เกิดความโกลาหลยกใหญ่ขึ้นภายในไร่ธนาสินธุ์เมื่อจู่ๆ นาย ‘ดำ’ หัวหน้าคนงานเก่าแก่ก็หายตัวไปพร้อมกับเงินค่าแรงของคนงานนับร้อยชีวิต จำนวนของเงินที่หายไปนั้นมากมายมหาศาลเพียงพอที่จะทำให้เขาหนีไปตั้งตัวได้ใหม่โดยไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร จะมีก็แต่บุตรสาวที่มีอายุเพียงสี่ขวบเท่านั้นที่ถูกทิ้งให้นั่งร้องไห้เฝ้ารอการกลับมาของพ่อเพียงลำพัง

“มีคนเห็นไอ้ดำมันขึ้นรถตู้จากท่ารถไปเมื่อตอนสายไม่ผิดตัวแน่ครับคุณหญิง” หนึ่งในคนงานที่ออกตามล่าคนผิดจำต้องรีบแจ้งข่าวร้ายให้ผู้เป็นเจ้านายได้ทราบทันทีที่ลงจากรถ ทว่าสายตาของนางพิศเพลานั้นกลับไม่ได้ให้ความสนใจใครเลยนอกเสียจากเด็กน้อยตาดำๆ เนื้อตัวมอมแมมตรงหน้า ความรู้สึกเดียวที่มีต่อเด็กคนนี้คือความสงสารจับหัวใจ

“จะต้องเป็นพ่อที่เลวขนาดไหนถึงได้ทิ้งลูกแล้วหนีไปใช้ชีวิตสุขสบายคนเดียวแบบนี้ได้! สั่งคนของเราให้เลิกตามหา ในเมื่อมันกล้าที่จะทรยศบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของฉัน! ก็ปล่อยให้เวรกรรมตามสนองมันไป คนเลวๆ แบบนั้นไม่มีวันเจริญหรอก!” ทุกคนต่างเคารพในการตัดสินใจของผู้เป็นนาย แต่จะมีบางส่วนไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้คนผิดลอยนวล

แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะขัดคำสั่ง

“แล้วจะทำยังไงกับนังเด็กนี่ดีครับคุณหญิง ให้ผมเอามันไปทิ้งไว้ที่บ้านเด็กกำพร้าดีไหมครับ” หนึ่งในคนงานตัดสินใจถามขึ้นเพราะเท่าที่ดูเด็กน้อยที่เอาแต่นั่งร้องไห้กอดตุ๊กตาหมีตัวเก่าไม่มีญาติที่ไหนเลยนอกจากผู้เป็นพ่อที่หนีหายไปซ้ำร้ายยังใจดำทอดทิ้งลูกของตัวเองได้ลง

“แกเห็นฉันเป็นคนใจยักษ์ใจมารขนาดนั้นเลยรึ! หมาแมวยังเก็บมาเลี้ยงได้จนกินอิ่มนอนหลับ นับประสาอะไรกับเด็กตาดำๆ คนเดียวที่จะเลี้ยงไว้เอาบุญมันไม่ได้ นังสร้อยนังอ่อน! เดี๋ยวพวกแกพาเด็กนี่กลับบ้านใหญ่ จับมันอาบน้ำอาบท่าแล้วหาข้าวหาปลาให้กินเสีย” คุณหญิงพิศเพลาใช้เวลาคิดไม่นาน จึงตัดสินใจหันไปสั่งคนสนิทที่คอยติดตามทั้งสอง

“คุณท่านจะเลี้ยงมันเอาไว้เหรอคะ แต่นังเด็กมันเป็นลูกโจรนะคะ” เดือดร้อนนางสร้อยคนสนิทที่จำต้องถามซ้ำ ไม่นึกเห็นด้วยกับผู้เป็นนายที่จะเลี้ยงลูกโจรเอาไว้ใกล้ตัวด้วยกลัวว่าเรื่องเลวร้าวอาจซ้ำร้อยเข้าสักวัน

“ลูกโจรแล้วมันยังไง! พ่อเลวก็ใช่ว่าลูกมันจะต้องเลวตามไปด้วยเสียเมื่อไหร่กัน ให้มันรู้กันไปสิว่าฉันจะเลี้ยงเด็กนี่ให้ดีผิดพ่อมันไม่ได้!” เจ้าของคำถามถึงกับหน้าสลดเมื่อเจอเข้ากับคำต่อว่าซึ่งๆ หน้าจากนาย

“ว่าแต่ใครรู้บ้างว่ามันชื่อแส่อะไร”

“เห็นพ่อมันชอบเรียกว่านังพุดครับคุณหญิง ชื่อจริงพุดกรองครับ” คุณหญิงพิศเพลายิ้มรับกับชื่อเด็กที่พ่อแม่เข้าใจตั้งให้ สายตาของนางอ่อนแสงลงยามจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าให้ถนัดตา เชื่อในสายตาของตนเองว่าเด็กนี่จะต้องได้ดีในภายภาคหน้า ท่านจะทำให้ทุกๆ คนได้เห็นว่าคนเราดีชั่วอยู่ที่ตัวกระทำ ไม่ได้อยู่ที่สันดานของใครอย่างที่พวกมันแอบคิดกัน

“เอาล่ะแม่พุดกรอง…จากนี้ไปเธอเป็นคนของฉัน ไปอยู่เสียด้วยกัน ฉันจะสั่งสอนให้โตขึ้นเป็นคนดี จะให้เรียนสูงเท่าที่หล่อนอยากจะเรียน” นั่นคือคำสัญญาที่เด็กน้อยทำได้เพียงยิ้มรับอย่างไม่รู้ประสีประสา ไม่รู้กระทั่งว่านับจากวันนี้เป็นต้นไปชีวิต ของเธอจะถึงจุดเปลี่ยนตลอดกาล