บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 หญ้าอ่อนต้นนี้ถูกโคแก่กินแล้ว [2/2]

แสงตะวันยามรุ่งอรุณสาดส่องผ่านกระจกบานสวยพาดทับร่างสะโอดสะองที่หลับพริ้มบนเตียงกว้าง เปลือกตาสีมุกทั้งสองปิดสนิทอวดแพขนตางอนยาวประดับบนใบหน้างามลํ้า คล้ายประติมากรรมชิ้นเอกที่ถูกแกะสลักอย่างตั้งใจด้วยฝีมือทวยเทพ

หมวยลี่ถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงขับร้องเจื้อยแจ้วแสนไพเราะของกลุ่มนกตัวจิ๋ว เธอยันกายนั่งพลันบิดขี้เกียจขณะเดียวกันก็เหลือบมองรอบกายด้วยความฉงนใจเมื่อเห็นสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคย

แต่ทว่าเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อฉุกคิดได้ว่าเมื่อคืนเธอแอบออกมาหาอีตาลุงเจ้าเล่ห์ แถมยังเผลอพลั้งปากเอ่ยอะไรที่ชวนอับอายออกไปโดยไม่ทันคิด

'ทำกับหนูคนเดียวนะพี่ทศ ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวนี้เป็นของพี่แล้วค่ะ'

ทำกับหนูคนเดียวนะ…

ตุ๊กตาตัวนี้เป็นของพี่…

พูดอะไรออกไปเนี่ยหมวยลี่!

หญิงสาวอยากจะทึ้งศีรษะตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อคืนดันเผลอไผลเข้ากับสัมผัสชวนวาบหวามของร่างสูงจนเผลอแสดงอาการร้อนร่านออกมาแบบขั้นสุด หากมารดาของเธอรู้เข้าคงไม่พ้นหัวใจวายเฉียบพลัน และถ้าเป็นเช่นนั้นหมวยลี่คนนี้คงไม่พ้นต้องกลายเป็นเด็กอกตัญญูโดนบรรพบุรุษสาปส่งเป็นแน่

แถมยังได้เสียตัวสมใจเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ...

“คุณนายไม้หอมคะ หมวยลี่คนนี้ผิดไปแล้ว”

“ลูกสาวไม่รักดีคนนี้ดันใจแตกติดใจสัมผัสตาลุงข้างบ้านเข้าเสียแล้ว”

ใบหน้าดูดีแม้ไร้เครื่องสำอางเงยขึ้นพลางยกมือเรียวเล็กพนมคล้ายขอขมาต่อมารดาผู้เป็นที่รักที่อุตส่าห์อบรมให้เป็นกุลสตรีผู้เพียบพร้อม แต่ทว่าเธอกลับใจแตกเพียงเพราะเห็นหุ่นบึก ๆ และกล้ามเนื้อแน่น ๆ ตั้งแต่คราแรกจนลากยาวมาถึงตอนนี้

อย่าถือโทษหนูเลยนะคะแม่ ก็หุ่นพี่ทศมันฟินนิเข้าใจหนูหน่อยนะ แฮะ

แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน...

ใบหน้าเนียนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกจนเหงื่อกาฬผุดขึ้นตามกรอบหน้า หญิงสาวรีบลุกจากเตียงสีเข้มพลันวิ่งไปที่หน้าต่างบานใหญ่พร้อมหัวใจดวงน้อย ๆ ที่สั่นระรัว

ถ้าตรงกับข้อเธอสันนิษฐานของเธอล่ะก็…

วินาทีที่หมวยลี่เห็นบ้านของตัวเองอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเอาแทบลมจับ แสดงว่าเมื่อคืนเธอไม่ได้กลับบ้านซํ้ายังนอนค้างที่ห้องของพี่ทศอีกด้วย

เพียงไม่นาน จู่ ๆ ความทรงจำแสนพร่าเบลอพลันกลับมาชัดเจน ไม่ว่าภาพที่เธอโดนร่างสูงรังแกจนตัวชํ้าหรือเป็นเธอที่ออดอ้อนขอค้างด้วยตัวเองทั้งที่พี่ทศปลุกตอนใกล้รุ่งสางแล้วแท้ ๆ

'กลับบ้านได้แล้วนังหนู เดี๋ยวกูไปส่ง'

'ทำไมต้องไล่ด้วย พี่ทศไม่อยากนอนกับหนูแล้วเหรอ'

'ไอ้อยากมันก็อยากนั่นแหละ'

'เห็นไหมล่ะ ตัวหนูนุ่มนิ่มจะตายวันนี้อนุญาตให้พี่ทศกอดแทนหมอนข้าง'

'ไม่กลัวแม่มึงสงสัยหรือไง'

'เดี๋ยวตอนเช้าค่อยคิดเอาแล้วกัน'

ค่อยคิดแล้วกันเหรอหมวยลี่!

อ๊ากก! เธออยากบีบคอตัวเองให้พ้น ๆ

หญิงสาวเดินวกวนไปมาด้วยความครุ่นคิดพลางยกมือเรียวยีกลุ่มผมนุ่มจนฟูฟ่อง พยายามคิดหาข้ออ้างขึ้นมาหวังใช้กับมารดาผู้เป็นที่รักเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายล่วงรู้ความลับของเธอ

ความลับที่แอบหนีไปแอบแซ่บกับผู้ชายรุ่นพ่อแถมยังเป็นเพื่อนบ้านด้วยเสียอีก

ให้ตายสิหมวยลี่ เธอควรทำยังไงดี

หลังจากที่เปิดดูเวลาผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องสวยร่างบางพลันเหงื่อตก ตอนแรกกะจะแอบย่องกลับเข้าบ้านแบบเงียบ ๆ ทว่าต้องพับโปรเจคแทบทันที เพราะกว่าเธอจะตื่นคุณนายไม้หอมก็ใช้ชีวิตปาไปครึ่งค่อนวัน

ในขณะที่หมวยลี่กำลังวิตกกังวลแบบสุด ๆ เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนในมือพลันดังขึ้น ทำเอาเธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเบอร์ปริศนาปรากฏบนหน้าจอ หญิงสาวชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะกดรับ

[ตื่นแล้วเหรอนังหนู]

!!!

พอได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยทักทำเอาหมวยลี่นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองดันลืมพี่ทศไปเสียสนิท ตั้งแต่ตื่นมาก็ไม่เห็นร่างสูงแม้แต่เงาทั้งที่เธออยู่ในบ้านของอีกฝ่ายแท้ ๆ

“ลุงอยู่ไหน”

[เมื่อไหร่จะเรียกกูพี่เสียที นอกจากตอนที่โดนกู---]

“หยุดเลยนะ! ไม่ต้องพูดแล้วพี่ทศก็พี่ทศ!” เสียงหวานรีบเอ่ยขัดก่อนที่อีกฝ่ายจะพลั้งเอ่ยประโยคชวนน่าอายออกมาหน้าตาเฉย “ตอบหนูได้ยัง”

[กูเข้าร้าน]

“แล้วทำไมไม่ปลุกหนูก่อน ขืนโผล่ไปบ้านป่านนี้มีหวังโดนแม่สอบสวนแน่”

[คำพูดคำจาน่ารักเชียว สอบสวนงั้นเหรอ]

เสียงทุ้มเอ่ยแววขบขันเมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยประโยคแสนน่าเอ็นดู

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ”

[ก็บอกแม่มึงสิว่าเมื่อคืนนอนกับกู]

“จะบ้าเหรอลุง--- พี่ทศ อยากเห็นหนูโดนตีจริงๆ ใช่ไหม”

ครั้นได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสาย ทำให้ใบหน้าสวยบูดบึ้งฉับพลันคิ้วเรียวขมวดกันจนยุ่งเหยิง ไม่รวมถึงแก้มเนียนที่พองขึ้นด้วยความไม่พอใจ หากทศได้เห็นหญิงสาวในยามนี้เธอคงไม่พ้นโดนฟัดจนจมเตียง

“หนูจะบึ้มบ้านพี่”

[เอาสิกูรวย]

“หมั่นไส้โอ๊ย!”

[เลิกหน้าบูดได้แล้วนังหนู กูบอกแม่ไม้หอมว่าวันนี้มึงทำงานที่ร้านกูเลยต้องออกมาแต่เช้ามืด]

“จริงเหรอ”

[ลองถามแม่มึงสิ]

“เอ๊ะ เหมือนโดนด่าเลยแฮะประโยคนี้...”

เสียงหวานเอ่ยพึมพำเพียงลำพัง แต่ทว่าคนฟังกลับได้ยินชัดเจนจนอดหัวเราะในความน่าเอ็นดูของหญิงสาวไม่ได้ ไม่รู้ว่านางไม้หอมเลี้ยงนังหนูด้วยอะไร คำพูดคำจาถึงน่ารักน่าชังถึงเพียงนี้

“เออลืมเลย แล้วพี่ทศมีเบอร์หนูได้ไงอะจำได้ว่าไม่เคยให้นะ”

[ใช่หรือเปล่านะ]

“เอ๊ะ หรือเคย...จำไม่ได้แล้วแฮะ”

[เปล่าหรอก กูเอามาจากไอ้ตี๋ ]

“เห๋~ อยากได้ทำไมมาไม่ขอหนูเองดี ๆ ล่ะ ไม่เห็นต้องไปเอาจากคนอื่นเลย”

เธอเอ่ยด้วยนํ้าเสียงเจือแววหยอกล้อ พร้อมริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มประดับบนใบหน้าเรียวเล็ก

[คงเพราะโดนนังหนูแถวนี้เคยบอกกูไม่ใช่สเปคเลยล่ะมั้ง แถมยังเชิดใส่อีก]

“แฮะ...ใครกันนะ”

เสียงทุ้มแค่นหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ถือสา [เตรียมตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวกูให้ไอ้ตี๋ไปรับ]

“ไปไหนอะ หรือพี่คิดจะเอาหนูไปขาย!”

[เออ...ก็เอามาขายจริง ๆ นั่นแหละ] เสียงปลายสายเอ่ยพลางครุ่นคิด

“เฮ้ยได้ไง หรือความจริงแล้วพี่ทศเป็นมาเฟียที่แฝงตัวมาเพื่อหวังหาเมียเด็กเหมือนในนิยาย นั่นไงว่าแล้วเชียว!เพราะหนูสวยใช่ไหมพี่เลยเข้าหาแต่พอเบื่อแล้วเลยคิดจะขายหนูให้พวกแก๊งอื่น ดีนะที่หนูไหวตัวทันเสียก่อนคงต้องขอบคุณประสบการณ์ที่อ่านนิยายมาเฟียมานับร้อยเรื่องจริง ๆ! หมวยลี่คนนี้จะไม่ทนอีกต่อไปเห็นหนูตัวแค่นี้ก็ชกพี่ฟันร่วงได้นะ”

[นังหนู...ช้าหน่อยกูตามมึงไม่ทัน มาเฟียอะไรวะพูดเรื่องเดียวกันไหม]

“ก็พี่บอกจะขายหนู!”

[กูหมายถึงให้มาช่วยขายข้าวมันไก่ที่ร้านกู คิดไปถึงไหนกัน]

“เอ๊ะ...แล้วพี่ทศไม่ใช่มาเฟียเหรอ”

[เพ้อเจ้อ มานี่จะจับจูบให้ปากช้ำเชียว]

“ไม่เอา งั้นหนูไม่ไปแล้ว” ว่าพลางส่ายใบหน้ารัว ๆ ด้วยความเคยชิน

[กูจ้างวันล่ะสองพัน ไม่ต้องทำอะไรมากแค่นั่งสวย ๆ ประดับร้านกูพอ]

“หมวยลี่คนนี้จะทำให้ดีที่สุด!”

นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างประกายวาววับเมื่อได้ยินข้อเสนอที่แสนคุ้มค่า รอยยิ้มร่าเริงประดับบนใบหน้าเรียวเล็กไม่จางหาย เธอรีบตอบตกลงแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิด

ใครกล้าปฏิเสธก็บ้าแล้ว!

[ดี๊ด๊านะเชียวนังหนู อยากได้เยอะกว่านี้ไหมล่ะ]

“ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ”

เสียงทุ้มหัวเราะร่วนคล้ายชอบใจหลังสิ้นคำของหญิงสาว

ดูเหมือนลูกแมวตัวน้อยของเขาจะไหวตัวทันเสียแล้วสิ

[หวา เดี๋ยวนี้ไหวตัวเร็วจังนะ]

“นั่นไงว่าแล้วเชียว! ในสมองของลุงมีแต่เรื่องลามกทั้งนั้นแหละ”

[จูบล่ะพันเป็นไง สนใจขึ้นไหม]

“ทางเราต้องขอปฏิเสธค่ะ! เมื่อคืนคุณทศเล่นจูบดิฉันจนปากบวมเจ่อเหมือนโดนต่อยขนาดนี้”

น้ำเสียงเจือแววประชดประชันแฝงไปด้วยความหงุดหงิดในทีเอ่ยขึ้นผ่านริมฝีปากอวบอิ่ม เรียกรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลาของทศได้ไม่ยาก หากอยู่ข้างกายคงไม่พ้นโดนเขาจับฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว

[กูไปรับแทนไอ้ตี๋ดีไหม]

“สาบานสิหวังแค่นี้”

[ป่านนี้กูคงตกนรกคนแรกแล้วนังหนูเอ้ย]

“เมื่อไหร่ลุงจะเลิกสัปดนเสียที”

[ทำไม่ได้]

“อือ ก็พอเดาได้อยู่”

[อะไรกะ---]

หมวยลี่ลอบถอนหายใจพลันเหลือบตามองบนด้วยความเอือมระอากับความหน้าด้านของทศ นิ้วเรียวกดตัดสายทันทีโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ทักท้วง

ให้ตายสิไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือเปล่าที่ตัดสินใจให้อีกฝ่ายเข้ามามีบทบาทในชีวิตเนี่ย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel