ตอนที่ 2 เธอ…คนที่ทำให้ใจสั่น
ผับหรูใจกลางเมือง
ค่ำคืนในเมืองหลวงยังคงคึกคัก ผับหรูใจกลางเมืองที่มีแสงไฟสีสันสดใสส่องประกายจากหน้าร้าน ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาพักผ่อนหลังเลิกงาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยเสียงเพลงที่กระหึ่ม เครื่องดื่มหลากหลายสีถูกเสิร์ฟไม่ขาดสาย กลุ่มคนมากมายต่างคลาคล่ำภายในร้าน
ประตูทางเข้าถูกเปิดออกอย่างมั่นใจ ชายหนุ่มสองคนในชุดลำลองแบรนด์เนมหรูเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย แค่ก้าวเข้ามาก็กลายเป็นจุดสนใจของสาวๆ รอบตัวทันที
หญิงสาวร่างบางในชุดรัดรูปสีแดงสด เดินตรงมาหาชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหน้า เธอยิ้มหวานพร้อมส่งสายตายั่วยวนให้ ก่อนจะยื่นมือไปแตะที่หน้าอกเขาเบาๆ อย่างไม่อ้อมค้อม
“สวัสดีค่ะ มินนะคะ...ชื่ออะไรเหรอคะ?” เธอถามเสียงหวาน พร้อมยืนเบียดเข้ามาใกล้กว่าเดิม
แต่แทนที่ชายหนุ่มจะมีท่าทางตอบสนอง เขากลับสะบัดมือเธอออกอย่างไม่ใยดี ดวงตาคมจ้องเธอเขม็งด้วยแววตารำคาญ ราวกับไม่อยากให้แตะต้องแม้ปลายเล็บ
“ออกไป” เสียงเขาทุ้มนิ่งแต่ทรงพลัง จนหญิงสาวหน้าชา รีบชักมือกลับด้วยความตกใจ และหมุนตัวเดินหนีไปแบบเงียบๆ
“มึงนี่ก็ใจร้ายเกินไปนะ เพิ่งเข้าร้านมาก็ไล่สาวเขาเลย” อคิราห์แซวพร้อมหัวเราะเบาๆ พลางเดินเข้ามาตบบ่าเพื่อนเบาๆ
“ก็กูไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้น” ภูผาตอบสั้นๆ สีหน้าเฉยเมย ก่อนจะหันไปมองหาทางเข้าโซน VIP
อคิราห์ยักไหล่ก่อนจะเดินนำไปยังโซนที่จองไว้ ห้อง VIP ถูกจัดไว้อย่างดี ตกแต่งด้วยแสงไฟนวลสลัว เสียงเพลงจากด้านนอกถูกลดทอนลงจนเหลือเพียงจังหวะเบาๆ ให้พอรู้สึกถึงบรรยากาศผับ
ภายในห้องมีชายหนุ่มอีกสองคนกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ก่อนแล้ว — วินและกรณ์ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย
“ในที่สุดก็มา กูกับกรณ์นึกว่าจะไม่โผล่มาแล้วซะอีก” วินพูดพลางยกแก้วขึ้นทักทาย
“ขอโทษว่ะ พอดีงานยังไม่เสร็จ เลยเคลียร์ซะดึก” ภูผาตอบก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ แล้วสั่งเครื่องดื่มทันที
“ไม่เป็นไรเว้ย เข้าใจดี มึงนี่ก็ฮาร์ดคอร์เหมือนเดิม” กรณ์พูดพลางหัวเราะ
หลังจากนั้น พนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ เพื่อนทั้งสี่ก็ยกแก้วชนกันเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มคุยกันเรื่องสัพเพเหระ
“ยินดีด้วยว่ะที่ตอนนี้มึงกลายเป็นท่านประธานฮอตสุดในวงการธุรกิจไปแล้ว งานก็รุ่ง เงินก็แน่น แถมมีสาวๆ รุมจีบไม่ขาด” วินแซวพลางหัวเราะ
“งานน่ะโอเค แต่พวกที่ชอบยัดเยียดลูกสาวมาให้กูนี่กูโคตรเบื่อเลย” ภูผาพูดพร้อมส่ายหัวอย่างเอือมระอา
“ฮ่าๆๆ มึงนี่เรื่องผู้หญิงก็ยังเหมือนเดิมว่ะ” กรณ์พูดเสริม
“กูไม่ใช่พวกเล่นๆ ไปวันๆ ว่ะ กูไม่ชอบใครที่เข้าหาเพราะหวังผลประโยชน์” น้ำเสียงของภูผานิ่งจริงจัง
“จริงว่ะ...ตั้งแต่รู้จักกันมา กูไม่เคยเห็นมึงมีแฟนหรือมีข่าวกับผู้หญิงเลยนะ ทั้งที่หน้าตาแบบนี้ ไม่ต้องทำอะไรก็มีสาวเข้าหาอยู่แล้ว” วินพูดพลางยิ้ม
อคิราห์ที่นั่งเงียบมาตลอดถึงกับเหล่มองเพื่อนตัวเองทันที หลังจากบ่ายวันนี้ที่ภูผาเห็นรูปน้องสาวของเขา สีหน้ามันก็เริ่มแปลกไป รอยยิ้มมุมปากที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ เริ่มปรากฏขึ้น
‘อย่าให้กูรู้ว่ามึงคิดอะไรไม่ดีกับน้องสาวกูนะเว้ยไอ้ภู...’ เขาคิดในใจ พลางมองเพื่อนที่นั่งเงียบแต่แววตาเป็นประกายอย่างน่าสงสัย
เสียงเพลงในผับยังคงกระหึ่มต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเพื่อนสี่คนยังนั่งดื่มกันอยู่ในห้อง VIP บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาสนุกสนาน
หลังจากดื่มไปหลายแก้ว อคิราห์ก็เริ่มรู้สึกแน่นท้องจนทนไม่ไหว
“กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะเว้ย” เขาบอกเพื่อนก่อนจะลุกออกจากห้อง
ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์ของอคิราห์ก็ดังขึ้น โต๊ะสั่นครืนเบา ๆ พร้อมแสงหน้าจอที่ปรากฏชื่อของผู้โทรเข้า
“ครืน ครืน ครืน”
ภูผาหันไปมองหน้าจอ เห็นว่าเป็นวิดีโอคอลจากใครบางคนที่ขึ้นชื่อไว้ว่า "น้องเอย" เขายิ้มน้อย ๆ อย่างไม่ทันรู้ตัว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดรับสายทันที
บนหน้าจอปรากฏใบหน้าหวานใสของหญิงสาวคนหนึ่ง ดวงตากลมโต ผิวขาวอมชมพูเหมือนตุ๊กตา พอเห็นว่าเป็นชายแปลกหน้ารับสายแทนพี่ชาย เธอก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“พี่โอบ...อุ๊ย! พี่เป็นใครคะ แล้วพี่โอบไปไหน?” เธอถามเสียงใส ร้อนรนเล็กน้อย
“มันไปเข้าห้องน้ำครับ พี่ชื่อภูผา เป็นเพื่อนของพี่ชายหนู” ภูผารีบแนะนำตัวทันที ขณะที่สายตาก็ยังจ้องใบหน้าเล็ก ๆ นั้นอยู่ไม่วางตา รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว
วินกับกรณ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถึงกับหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาไม่เคยเห็นเพื่อนที่เย็นชาอย่างภูผามีอาการแบบนี้มาก่อน
“อ๋อค่ะ หนูชื่อเอยนะคะ” เธอยิ้มตาหยีอย่างน่ารัก “ฝากบอกพี่โอบด้วยนะคะว่าให้รีบกลับ หนูง่วงแล้วค่ะ”
ภูผาได้ยินแบบนั้นถึงกับเก้อเล็กน้อย พยายามตั้งสติแล้วตอบกลับไปเสียงอ้อมแอ้ม
“คะ...ครับ”
เอยยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะกดวางสาย ภาพบนหน้าจอหายไป แต่ภูผาก็ยังจ้องโทรศัพท์ในมือตัวเองอยู่แบบนั้น รอยยิ้มยังค้างอยู่บนใบหน้า ไม่ต่างจากคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์
ปัง!
เสียงวางแก้วกระแทกลงโต๊ะของวินดังขึ้น เรียกสติของภูผากลับมา เขาสะดุ้งเฮือก รีบเก็บสีหน้าทันที แต่ก็ไม่ทันพ้นสายตาเพื่อนสองคนที่นั่งมองอยู่
“มึงคิดอะไรกับน้องสาวของไอ้โอบใช่ไหม?” กรณ์ถามตรง ๆ
ภูผาเกือบเผลอหลุดอาการ แต่ยังพยายามควบคุมตัวเองไว้
“เปล่า เด็กมันน่ารัก อีกอย่างน้องเขายิ้มให้ กูจะทำหน้ายักษ์ใส่เขาได้ไง” เขาพูดพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ หวังกลบเกลื่อนความรู้สึก
วินหัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยอย่างรู้ทัน
“ถ้ามึงชอบก็จีบไปเลยนะเว้ย เดี๋ยวก็มีหมาคาบไปก่อน จะมานั่งเสียใจทีหลังไม่ได้นะ”
คำพูดของวินทำให้ภูผานั่งเงียบไปเล็กน้อย เขากำลังคิดตาม 'ถ้าปล่อยไป แล้วมีคนอื่นเข้าหาน้องเอยก่อนล่ะ?'
ความคิดเริ่มวิ่งวนในหัวจนเขาค่อย ๆ ตัดสินใจ เขาคว้าโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา แล้วหยิบของอคิราห์มาด้วย มือเลื่อนหาอะไรบางอย่างในหน้าจออย่างรวดเร็ว
'ถ้าไม่เริ่มตอนนี้...แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่'
