11 ยี่หวาอย่าดื้อ
ศิลาพาปณาลีมาที่บ้านของตนเองแต่กว่าจะพาเธอเดินมาถึงก็เล่นเอาแทบแย่เพราะเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็ถอยหลังอีกสามก้าวจนสุดท้ายเขาต้องประคองและแทบจะลากเธอเข้ามาด้านใน
ชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ห้องรับแขกและหาไวน์ให้เธอดื่มเพราะถ้าให้ดื่มวิสกี้อย่างที่เขาชอบเธอก็คงจะแย่ไปกว่าที่เห็น
“อร่อย” หญิงสาวจิบไวน์แล้วยิ้มตาเยิ้มทั้งเมาและพอใจกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์ราคาแพง
“ยี่หวาบอกอาได้ไหมว่าทำไมถึงกินเหล้าหนักขนาดนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” ศิลาถามพลางมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“เปล่าสักหน่อยก็แค่อยากเมา” เธอเถียงก่อนจะดื่มไวน์ไปทีเดียวหมดแล้วแล้วทำท่าจะหยิบขวดไวน์มารินอีก
“ไหนบอกว่าจะกินอีกแค่นิดเดียว” ศิลาถามพลางเลื่อนขวดไวน์ออกห่างจากมือเธอ
“อาศิลาอย่างกได้ไหมของอร่อยก็ขอกินเยอะหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูดื้อรั้นจนศิลาใจอ่อน
“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบวิ่งกลับลงมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้า
“อยากฟังเหรอคะ”
“อยากฟังสิ เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่นและมีสติเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงได้ดื่มจนเมาขนาดนี้ แล้วยี่หวาร้องไห้มาด้วยใช่ไหม ตาบวมไปหมดแล้ว” ศิลาถามอย่างอ่อนโยนพลางยื่นผ้าขนหนูให้เธอ
ปณาลีมองหน้าเขาแล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“พี่นนท์เขา...ฮือ...เขาขอเลิกกับยี่หวา เขาบอกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้…แต่เราคบกันมาเกือบสามปีแล้วนะคะ แล้วยังจะบอกอีกว่าขอลดสถานะเป็นพี่เป็นน้องอีก ถ้าอยากจะเป็นพี่น้องแล้วจะมาขอคบเป็นแฟนทำไม ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” ปณาลีพูดแล้วก็กระดกไวน์เข้าปากราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
ศิลามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกที่เห็นใจและสงสารเพราะเมื่อไม่กี่วันวันก่อนเธอยังดูอารมณ์ดีตอนที่ปณวัฒน์แซวว่าแฟนของเธอจะขอแต่งงาน
“ไม่เป็นไรนะยี่หวา…ไม่เป็นไร” เขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดไว้แน่น ปณาลีซบกับอกของเขาและปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก ศิลาปลอบโยนพลางลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน
ปณาลีร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของศิลาอยู่นานก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“ทำไมเขาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะคะ อาศิลา ยี่หวาไม่ดีตรงไหนอาศิลาลองบอกยี่หวาได้ไหมว่ายี่หวาไม่ดีตรงไหนหรือเพราะยี่หวาไม่สวย”
“อาว่ามันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ยี่หวาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ทำอาหารก็อร่อยมากด้วย ทำงานได้ทั้งในบ้านนอกบ้านแบบนี้จะหาได้ที่ไหนกันล่ะ”
“แต่เขาก็ยังทิ้งยี่หวาไปนะคะ”
“อาว่ายี่หวาอย่าไปสนใจคนที่ให้เห็นค่าของเราเลยนะ ยี่หวายังมีโอกาสได้เจอคนอีกเยอะ หน้าตาสวยๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ต้องมีคนดีเข้ามา”
“คนดีเหรอคะ ใครอยากจะได้แฟนเป็นคนดีกัน”
“ถ้าไม่อยากมีแฟนเป็นคนแล้วคนแบบไหนล่ะที่ยี่หวาอยากได้เป็นแฟน” เขาพยายามชวนคุยเพื่อให้เธอดื่มได้น้อยลง
“คนที่รักยี่หวาไงล่ะ ขอแค่นี่เอง” เธอพูดอย่างตัดพ้อ
“อาเข้าใจนะ แต่ตอนนี้พอก่อนดีไหม กลับบ้านเถอะเดี๋ยวอาไปส่ง”
“ยี่หวาไม่อยากกลับ ตอนนี้ยี่หวาอยากลืม…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“อาเข้าใจความรู้สึกของยี่หวานะ ความรักมันก็เป็นแบบนี้แหละ ตอนที่อามีปัญหากับเมียอาก็อยากจะกินเหล้าให้เมาเพื่อจะลืมแต่ พอหายเมามันก็เจ็บเหมือนเดิม ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจของเราเองนะ ว่าจะลืมเขาได้ไหมเรื่องของยี่หวาแผลมันยังสดอาจต้องใช้เวลาเพื่อจะลืม”
“นานแค่ไหนคะอาศิลา”
“อาไม่รู้ว่ายี่หวากับเขารักกันมากแค่ไหน ถ้ารักกันมากมีความทรงจำดีๆ ด้วยกันมันก็ยากที่จะลืม”
“ทำไมคะ ทำไมความรักถึงต้องทำร้ายกันขนาดนี้”
“ความรักไม่ได้ทำร้านใครเลยนะยี่หวา คนต่างหากที่ทำร้ายกันเอง อย่าคิดอะไรมากอาเชื่อว่าเดี๋ยวยี่หวาจะลืมเรื่องนี้ได้”
เขาดึงร่างของเธอเข้ามาสวมกอดอีกครั้ง ปณาลีซบกับอกของเขาและปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างเต็มที่
“ยี่หวา ดึกมากแล้วเดี๋ยวปัณจะเป็นห่วงนะ เรากลับบ้านกันเถอะ”
“คืนนี้ปัณไม่อยู่ ยี่หวาไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว ขอยี่หวาค้างบ้านอาศิลาได้ไหม ขอนอนที่โซฟาก็ได้”
“ถ้าอยากค้างที่นี่อาก็ว่าแต่ยี่หวาโทรบอกเพื่อนก่อนว่าตอนนี้มาถึงบ้านแล้ว”
“ยี่หวาบอกเพื่อนแล้ว”
“ถ้างั้นก็ขึ้นไปนอนที่ห้องอาเดี๋ยวอาจะนอนที่ห้องนอนแขกเองตกลงไหม”
ปณาลีพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นแต่เพราะเมามากก็เลยทรงตัวไม่อยู่และโชคดีที่ศิลายืนอยู่ใกล้เขาเลยรับตัวไว้
“ไหวไหมยี่หวา เช็ดหน้าก่อนจะได้สดชื่น” เขาหยิบผ้าผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้าอีกครั้ง
“ไหวค่ะ”
“เดินช้าๆ นะเดี๋ยวอาพาไปนอน”
ศิลาพาปณาลีเข้ามายังห้องนอนของตนเอง พาเธอไปนอนบนเตียงเปิดแอร์และเปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้
“นอนพักนะอาจะออกไปนอนห้องข้างๆ ยี่หวามีอะไรเรียกอานะ” เขานั่งลงบนเตียงเอามือลูบไปบนศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน
“อาสิลา ยี่หวาไม่อยากอยู่คนเดียวอาอยู่กับยี่หวาได้ไหม”
“แต่มันไม่ดีนะ อาเป็นผู้ชายและยี่หวาก็เป็นผู้หญิงถ้ามีคนรู้คงไม่ดี”
“จะมีใครรู้วันนี้ปัณก็ไม่อยู่บ้าน”
“ยี่หวา ชายหญิงอยู่กันตามลำพังแบบนี้อาว่ามันไม่ดีเท่าไหร่นะ”
“ค่ะ ยี่หวาเข้าใจ” เธอพูดเสียงสั่นน้ำตาที่แห้งไปแล้วกลับมาไหลอีกครั้ง
“ยี่หวา ถ้าเข้าใจทำไมต้องร้องไห้ด้วย”
“จะไม่ร้องได้ยังไง ยี่หวามีแต่คนรังเกียจวันนี้ถูกแฟนทิ้งแล้วตอนนี้อาศิลาก็มาทิ้งอีกทำทุกคนใจร้ายกับยี่หวาแบบนี้ล่ะ”
“ยี่วา อาได้ไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ถ้าอยู่กันสองคนแบบนี้อากลัวว่า.....”
“อาคงหมายถึงกลัวว่าจะเผลอมีอะไรกับยี่หวาแล้วต้องมารับผิดชอบใช่ไหมล่ะ” เพราะความเมาทำให้ปลาณีพูดออกมาโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดี
“ถ้ายี่หวาถามตรงอาก็ตอบตรง อาไม่อยากรับผิดชอบอะไร ไม่อยากมีความรัก ไม่อยากคบใคร” ศิลาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ยี่หวาก็ไม่อยากมีความรักอีกแล้ว ไม่อยากคบใครเหมือนกัน” เธอตอบกลับทันควัน
“งั้นก็ต้องให้อาออกไปจากห้องนี้” พูดจบศิลาก็ลุกขึ้นจากเตียง
“อาศิลาอยากออกไปจริงเหรอ” หญิงสาวลุกขึ้นแล้วกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง ตอนนี้ปณาลีเหมือนคนขาดสติ
“ยี่หวา อาว่ายี่หวาปล่อยอาเถอะนะ ตอนนี้ยี่หวาก็เมาอาก็ดื่มไปเยอะ อาไม่อยากให้พรุ่งนี้เรามองหน้ากันไม่ติดถ้าคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น”
“บอกมาตรงๆ ก็ได้ว่ารังเกียจ” เสียงเธอกำลังน้อยใจอย่างหนัก
ศิลาหันกลับมามองหน้าเธอที่มองเขาอย่างตัดพ้อแล้วใจของชายหนุ่มก็อ่อนยวบ
“ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ สำหรับอามันจะเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ยี่หวาจะรับได้เหรอ”
“ถ้ามันจะให้คืนนี้ยี่หวาลืมเรื่องร้ายๆ ลืมผู้ชายเลว คนนั้นยี่หวาก็ว่ามันคุ้ม” เธอตอบกลับอย่างไม่ลังเล ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าและความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
