
บทย่อ
เมื่อม่านฟ้า สาวชาวดอยต้องลงมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ โดยอาศัยอยู่กับเพื่อนใหม่ แต่พ่อเพื่อนอย่างคีธ ก็เข้าหาเธออย่างที่เธอไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของเขาได้เลย ............ ม่านฟ้าก้มหน้ากัดริมฝีปากตัวเอง รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูก เพราะตั้งแต่วันที่เธอตกเป็นของเขา เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนกับเธอเลย “เธอคงอยากพักผ่อนแล้ว เดี๋ยวฉันจะออกไปดีกว่า” ชายหนุ่มขยับจะก้าวออกจากห้อง แต่มือเล็กๆ คว้าข้อมือแข็งแรงของเขาเอาไว้ นั่นสร้างความแปลกใจให้เขาไม่น้อย “มีอะไรเหรอ?” “ฟ้า....ฟ้ายังไม่ง่วงหรอกค่ะ คุณอาเข้ามาถึงห้องฟ้า แค่จะมาปลุกฟ้าเท่านั้นเองหรือคะ?” ในที่สุดหญิงสาวก็พูดไปอย่างที่ใจคิด แม้จะดูเหมือนอ่อย แต่ถ้ามัวแต่คอยเธอก็ไม่ได้เขาแน่ๆ “อยากรู้จริงๆ น่ะเหรอ?” เขาหันกลับมาแล้วไล้ที่ต้นแขนเธอเบาๆ ทำเอาม่านฟ้าขนลุกซู่ด้วยความสยิว “ที่อยากรู้มากกว่านั้นคือ...คนที่คุณอาบอกคิดถึง....จนต้องกลับมาเร็วกว่ากำหนด ใช่ฟ้าหรือเปล่าคะ?”
ep1
ม่านฟ้า...นักศึกษาสาวชาวเหนือ ซึ่งได้สอบชิงทุนเข้ามาเรียนในเมืองหลวงได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เธอเป็นชาวเขาที่ต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า หลายๆ ครั้งที่เธอท้อแท้ แต่ก็จะมีเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจ แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะต้องมาเจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ กับเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งไม่รู้ว่า..เธอจะรับมันไหวไหม? หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ที่ชานชาลาพร้อมกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียว หลายคนเดินออกไปทางหน้าถนน แต่เธอยังนิ่งงงอยู่กับที่ เพราะกำลังอยู่กับการอ่านป้ายบอกทางว่าเธอควรจะไปที่ไหนดี
“ม่านฟ้า!”
เสียงทักเบาๆ พร้อมมือที่มาสะกิด หญิงสาวหันไปก็พบกับหญิงสาวในวัยเดียวกันยืนยิ้มอยู่ หญิงสาวที่ยืนตรงหน้าเธอแต่งตัวทันสมัยด้วยเสื้อเอวลอย ขาเกงยีนส์ขาดๆ ขาสั้น ซึ่งแตกต่างจากเธอที่ใส่เสื้อยืดแขนยาวและกางเกงผ้าตัวโคร่ง
“ม่านฟ้าใช่ไหม? ฉันแคทรียาจ้ะ”
“คุณแคทเองหรือคะ”
ม่านฟ้าเตรียมจะยกมือไหว้ แต่แคทรียาจับมือไว้ก่อน แล้วหัวเราขำๆ กับท่าทีนอบน้อมเกินเหตุของเธอ
“เรียกแคทเฉยๆ ก็ได้ นี่มีข้าวของมาแค่นี้เหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
ม่านฟ้ายิ้มให้กับแคทรียา หญิงสาวที่จะมาเพื่อนใหม่ของเธอ และครอบครัวของเธอยังรับอุปถัมป์ม่านฟ้าเสียด้วย เพราะทางมหาวิทยาลัยร้องขอไปว่าต้องการบ้านใหม่ให้กับเด็กยากจนที่สอบชิงทุนมาได้
“งั้นไปกันเถอะ ป๊ารออยู่ที่รถแน่ะ”
แคทรียาคว้าแขนของเพื่อนใหม่จูงออกไปจากชานชาลาอย่างร่าเริง ม่านฟ้าได้แต่เดินตามไปด้วยหัวใจเต้นระรัวไปด้วยความตื่นเต้น จนมาเห็นรถเบนซ์สีบอร์นทองจอดติดเครื่องอยู่ที่มุมหนึ่งของถนน แคทรียารีบเอากระเป๋ายัดใส่ท้ายรถแล้วผลักเธอขึ้นไปนั่งกับคนเป็นพ่อ ส่วนเธอเปิดประตูรถด้านหลังเข้าไปนั่งเพียงลำพัง
ม่านฟ้ารีบยกมือไหว้ชายหนุ่มท่าทางน่าเกรงขาม โครงหน้าเป็นสันเหลี่ยม ดูคมเข้ม หนวดเคราเขียวครึ้มและสวมแว่นกันแดดสีชา ทำให้ไม่เห็นแววตาว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ
“ไม่ต้องตกใจหรอก ป๊าเป็นลูกครึ่งเมกัน ครอบครัวเราทำธุรกิจส่งออก ป๊าเลยไม่ค่อยอยู่บ้าน ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวบ่อยๆ พอเห็นว่าทางมหาวิทยาลัยอยากหาบ้านให้เธอ ป๊าก็เลยปิ๊งไอเดีย ให้เธอมาอย่เป็นเพื่อนฉันซะเลย”
แคทรียาอธิบายเจื้อยแจ้ว พร้อมเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย ขณะที่ม่านฟ้ายิ้มเจื่อนๆ เพราะไม่รู้ว่าจะชวนคุยหรือว่าตอบรับกับแคทรียายังไง ในเมื่อคุณพ่อที่เธอเรียกนั้น ยังคงนิ่งเงียบคนเธอชักหวั่นใจว่า เขาเต็มใจแน่เหรือเปล่าที่จะให้เธอไปอยู่ที่บ้านของเขา
“ไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อหรอก ฉันยังไม่อยากแก่ จะเรียกป๊า เรียกอา เรียกน้าก็ยังดีกว่า ฉันชื่อคีธ โรเบิร์ด หรือเธอเรียกฉันว่ามิสเตอร์คีธก็ได้”
ชายหนุ่มเห็นเด็กสาวขึ้นมานั่งตัวลีบก็นึกขำอยู่ในใจ นี่ก็คงเคยมากรุงเทพฯครั้งแรก เพราะดูท่าทางตื่นๆ กลัวๆ
“ค่ะ ฟ้าเรียกท่านว่าคุณอานะคะ”
ชายหนุ่มหันมายิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ได้สิ เอาที่เธอสบายใจเลย”
ม่านฟ้ายิ้มให้คีธ ขนาดว่าเขายังไม่ถอดแว่น เธอก็ยังรู้สึกประหม่ากับใบหน้าหล่อคมที่มองมา เพราะความรู้สึกที่เขาส่งมาถึงเธอนั้น มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เธอรับรู้ได้
******
เช้าวันต่อมา มหาวิทยาลัยมีการต้อนรับน้องใหม่ก่อนเรียน ม่านฟ้ากับแคทรียาจึงเตรียมตัวจะไปมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อนๆ
แคทรียาพาม่านฟ้ามาขึ้นรถBMW สีขาวคันโปรดของเธอเพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัย หญิงสาวใส่เสื้อนักศึกษารัดรูปเน้นสองเต้าอวบอัดชัดเจน กระโปรงสั้นสีดำผ่าด้านหน้าสูงขึ้นมาเกือบถึงโคนขาอ่อน ทำเอาม่านฟ้าที่แต่งตัวเรียบร้อยตามระเบียบถึงกับชะงัก
“มาสิ แปลกใจอะไร”
“แคทจะใส่ชุดแบบนี้ไปเหรอ?”
“ใช่สิ ใครจะห้าม”
“แต่เราเพิ่งไปมหาวิทยาลัยวันแรก ฟ้ากลัวว่า”
“มาเถอะน่า ยัยเด็กดอย ใครๆ เค้าก็ใส่กันทั้งนั้นแหละ”
