
บทย่อ
พิตต้า สาวสวยไฮโซถังแตกที่ต้องแต่งงานกับ เจค เศรษฐีพ่อหม้ายหย่าเมีย เพื่อพยุงฐานะตัวเอง เธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับ แต่ทำไปทำมา กลายเป็นว่าเธอหลงเสน่ห์พ่อหม้ายคนนี้เสียแล้ว
ep1
“ไม่นะคะคุณแม่ ยังไงต้า ก็ไม่ยอมแต่งงานกับเขาหรอก คุณแม่จะมาบังคับต้าไม่ได้!”
พิตต้าโวยวายขึ้นทันทีที่รู้ว่าเพียงพิศ มารดาซึ่งเป็นสาวสังคมไฮโซแจ้งความประสงค์ของนางในเช้าวันหนึ่งที่อากาศกำลังแจ่มใส แต่อารมณ์ของหญิงสาวหงุดหงิดทันที
“พิตต้า ช่วยแม่หน่อยเถอะนะ คุณเจคเขาอุตส่าห์ช่วยเหลือแม่”
เพียงพิศอ้อนวอนลูกสาวด้วยสีหน้าเศร้าสลด นางนั่งลงข้างๆ ลูกสาวที่นั่งหน้าบูดบึ้ง พยายามส่งสายตาขอร้องแกม
บังคับ ทว่า..ลูกสาวคนเดียวของนางยังคงมีท่าทีเฉยเมย
“พิตต้า ถ้าลูกไม่ช่วย เราจะลำบากกว่านี้ บ้านหลังนี้ เราก็ติดจำนอง ตั้งแต่ป๊าเริ่มป่วย”
“ต้ารู้ค่ะ แต่ต้าก็พยายามหาเงินมาใช้หนี้อยู่นี่คะ ขอเวลาต้าหน่อยไม่ได้หรือคะ ทำไมคุณแม่ต้องเที่ยวเร่ขายต้าให้เพื่อนของคุณแม่ด้วย”
นางเพียงพิศค้อนขวับลูกสาวแทบจะทันที เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะขายลูกสาวกิน แต่ทุกวันนี้ เธอกับลูกสาวลำบากเหลือเกินนับตั้งแต่อัลเบิร์ต สามีชาวเยอรมันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ข้าวของในบ้านก็ทยอยขายออกไปเพื่อรักษาตัวให้สามี แถมพิตต้าก็กำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายที่เยอรมัน ทำให้ค่าใช้จ่ายแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำให้เธอต้องจำนองบ้าน เพื่อรักษาสามีและส่งลูกสาวเรียนปีสุดท้าย
การรักษาดูเหมือนจะได้ผลดี เพราะช่วยยืดระยะเวลาให้อัลเบิร์ตอยู่กับครอบครัวได้ระยะหนึ่ง พิตต้าเรียนจบกลับมาได้งานการตลาดและการโฆษณาบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง แต่ความสุขก็อยู่ได้เพียงไม่นาน เพราะเมื่อเวลาผ่านไปอัลเบิร์ต ก็อาการทรุดลง และแพทย์หมดหนทางรักษาจากภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือด
“แม่ไม่ได้เร่ขายลูก แต่คุณเจคเขาเห็นเราเดือดร้อน ก็เลยยื่นมือเข้ามาช่วย”
“แต่ต้าไม่รู้จักเขา จู่ๆ จะมาขอแต่งงานกับต้า ทั้งๆ ป๊าเสียไปได้ไม่ถึงปี มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ”
“เอาเถอะน่า แล้วลูกก็จะรู้จักเขาไปเอง”
“ไม่ค่ะ นี่มันไม่ใช่ถุงคลุมชน แต่มันเป็นการขายลูกสาวกินชัดๆ”
“พิตต้า! ถ้าแม่จะทำอย่างนั้น แม่จะไม่เรียกร้องให้เขาจัดงานแต่งงานให้ลูกหรอกนะ นี่ทุกอย่างเขาเตรียมไว้ให้ลูกหมดแล้ว รอลูกตกลงเท่านั้น”
“ถ้าอย่างนั้น คุณแม่บอกเขาไปเลยค่ะว่า ต้าไม่ตกลง ถ้าไม่รู้จักเขา ต้าไม่ชอบคนอายุมากกว่า ไม่ชอบคนฉวยโอกาส และต้าไม่ชอบพ่อหม้ายค่ะ ต้าไม่อยากมีปัญหากับเมียเก่าของ
เขาด้วย”
“เอาเถอะ ถ้าลูกทำเพื่อแม่ไม่ได้ แม่จะกลับไปอยู่ยาย ลูกมีงานทำแล้ว ก็คงหาเช่าคอนโดสักแห่งอยู่ บ้านหลังนี้ก็ปล่อยให้เขายึดไป ทรัพย์สินนอกกาย แม่จะไม่พยายามยื้อไว้อีกแล้ว”
เพียงพิศพูดอย่างคนปลงตก และเต็มไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“คุณแม่คะ สมบัติของป๊าก็เหลือเพียงบ้านหลังนี้หลังเดียว คุณแม่ยังจะปล่อยให้เขายึดอีกหรือคะ?”
พิตต้าไม่ค่อยสนิทสนมกับมารดาของเธอมากนัก และยิ่งสะสมความไม่พอใจไว้ลึกๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วพ่อป่วยเข้าโรงพยาบาล โดยตลอดเวลาที่เธออยู่เมืองนอก เธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อป่วยเป็นมะเร็ง เธอรู้ในช่วงเวลาสุดท้ายของพ่อแล้ว นั่นยิ่งทำให้เธอเคืองแม่ของเธอ เพราะถ้าเธอรู้ก่อนหน้านี้ เธอจะใช้เวลาที่เหลืออยู่กับพ่อให้มากที่สุด
“ป๊ารู้ตัวว่าป่วย ตั้งแต่ส่งลูกไปเรียนแล้ว เงินเก็บที่ป๊าสำรองไว้ให้แกเรียน ป๊าไม่ให้แตะต้อง ป๊าพยายามรักษาตัวให้หาย แต่ไม่อยากให้ลูกเป็นกังวล แม่ถึงต้องขายข้าวของภายในบ้าน เพื่อรักษาป๊า ยืดเวลาของป๊ามายาวนานถึง ๕ ปี แต่มันก็ไม่พอที่จะทำให้ป๊าให้อยู่กับลูกนานกว่านี้”
“ต้ารู้ค่ะ พอป๊าไม่อยู่ คุณแม่ก็เลยจะเสือกไสไล่ส่งต้าไปอยู่กับคนอื่น”
“พิตต้า ลูกช่วยมองแม่ในแง่ดีหน่อยได้ไหม?”
“ค่ะ..ต้ารู้ว่าคุณแม่รักป๊ามาก รักความสบายที่ป๊ามีให้คุณแม่ แต่ตอนนี้พอลำบากเข้าหน่อยก็เลยอยากให้ต้าทำหน้าที่แทนพ่อ” หญิงสาวพูดไปน้ำตาคลอไป เพราะอัดอั้นใจเหลือเกิน
“ไม่ใช่อย่างนั้น แม่อยากให้ลูกสบายต่างหาก แล้วอีกอย่าง ลูกไม่อยากรักษาบ้านหลังนี้ไว้แล้วเหรอ?”
“คุณเจคเพื่อนของคุณแม่ เขามีเวลาไหมคะว่าจะให้ต้าแต่งงานกับเขาสักกี่ปี หรือจะเอาให้ชัด ต้าอยากรู้ว่า เขาจะให้ต้าไปบำเรอกามตัณหาให้เขากี่ปี!”
หญิงสาวระเบิดเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ จนไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้องได้ยินเต็มสองหู
“ก็จนกว่าผมจะเบื่อ อาจจะไม่ถึงปี หรือหลายปี หรือตลอดชีวิต นั่นแล้วแต่ว่าคุณจะบำรุงบำเรอผมได้แค่ไหน?”
“คุณเจค!”
