เขาต้องไป
แทนไทหมายถึงคุณธีระ ผู้เป็นประมุขของบ้านนั่นเองที่เขากลับมาก็เพราะสาเหตุนี้ แม่บอกกับเขาว่าคุณท่านอาการไม่ค่อยดีเท่าใดนัก อยากให้แทนไทกลับมาดูแล
การที่แม่บอกให้เขากลับบ้าน นั่นน่าจะหมายถึงว่าอาการคุณท่านหนักน่าดู ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่เอ่ยปาก ทั้งที่แม่นั่นแหละที่ผลักไสไล่ส่งให้เขาไปจากบ้านนี้ไป เพราะเหตุผลบางประการที่เขาเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้
ไปเรียนให้จบแล้วทำงานต่อสักปีสองปี ให้อะไร ๆ ที่นี่มันเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา
เขาต้องไป ทั้งที่ไม่อยากไปเลยสักนิดเดียว...
“ แย่ว่ะ ” ลุงเทิดตอบมาเพียงคำเดียว แทนไทหันไปมองก็พบน้ำตาปริ่มขอบตา ลุงเทิดจงรักภักดีกับคุณท่านมาก รับใช้มาเป็นเวลานาน ก็คงไม่แปลกที่จะผูกพันและห่วงท่านอย่างที่สุด
“ เดี๋ยวไปดูเอาเองเถอะแทนเอ๊ย คุณท่านน่าสงสารอย่างที่สุด หากเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะป่วยแทนท่าน ไม่อยากให้ท่านต้องมาทรมานแบบนี้ ”
แทนไทพยักหน้า คุณท่านพึ่งจะตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สามเมื่อสองเดือนที่แล้ว และทรุดลงเร็วมากเหลือเกิน ล่าสุดเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วที่เขาวีดีโอคอลมาเรียนสาย คุณท่านผอมไปมากจริง ๆ กระนั้นก็ยังพยายามที่จะแสร้งยิ้มและทำท่าสดชื่นให้เขาสบายใจ เพราะเขารู้ว่าคุณท่านก็ห่วงเขาอย่างที่สุด ไม่อยากจะให้เสียสมาธิในการได้ทุนไปร่ำเรียนปริญญาโททางด้านการออกแบบอัญมณีจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ
“ แล้วเอ็งลาโรงเรียนมาหรือไง ” นายเทิดถามตามประสาคนบ้านนอกคอกนา
“ โรงเรียนที่ไหนล่ะลุง มหาวิทยาลัย นี่ผมเรียนปริญญาโทแล้วนะ ”
“ เออ ๆ นั่นแหละ ไอ้ลุงมันไม่ได้เรียนกับเขานี่หว่า พูดจาอะไรก็ไม่ค่อยจะถูก เขียนเลขหนึ่งถึงสิบได้ก็บุญแล้ว เคราะห์ดี วาสนาดีที่ได้มาเจอคุณท่านเข้า นั่นแหละ เอ็งลาเขาได้เหรอจะอยู่ได้นานแค่ไหน ”
“ จริง ๆ ก็จบแล้วแหละ ผมยื่นเรื่องจบพอดีลุง ก็เหลือแต่เซ็นต์โน่นเซ็นต์นี่จากทางอธิการ มีสัมภาษณ์งานสองที่ บริษัทใหญ่ด้วยแต่ก็คงไม่ใช่วันสองวันนี้ ”
“ ทำไมเอ็งไม่กลับมาช่วยงานบริษัทคุณท่านวะ จะไปใช้หัวให้ฝรั่งมังค่ามันทำไม ” แทนไทถอนใจเฮือก เขาเองก็ไม่ได้อยากไป ไม่อยากอยู่ที่โน่นนักหรอก แต่ก็ตอบไปตามน้ำ
“ เดี๋ยวผมก็กลับมา ขอทำงานเอาประสบการณ์สักปีสองปี ไม่งั้นคนอื่นเขาจะครหาเอาได้ หาว่าเป็นเด็กเส้น ไม่มีทักษะในการทำงานจริง ๆ ”
“ เออ มันก็จริงของเอ็ง การจะเป็นหัวหน้าคนมันก็ต้องทั้งเก่งทั้งฉลาด ทำได้ทุกอย่าง เอ้า แม่ประนอมเอ๊ย มาดูทีเร็ว หนุ่มที่ไหนมาหานี่ ” ท้ายประโยคลุงเทิดตะโกนเรียกแม่ของแทนไทโหวกเหวกเพราะเดินเรือนหลังเล็กอันเป็นที่พักของสองแม่ลูก
ร่างผอมบาง สวมเสื้อแขนกุดสีน้ำเงิน ผ้าถุงสีดำเรียบ ๆ ผมสีดำที่มีสีขาวแซมประปรายถูกมวยไปบนศีรษะ เดินออกมาจากในตัวบ้าน เมื่อเห็นว่าใครเป็นผู้มาเยือนก็ยิ้มกว้างอย่างที่สุด
“ แทนไท ! ”
“ แม่ครับ ! ” ร่างสูงใหญ่โผเข้าหาแม่ก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้า แล้วลุกขึ้นกอดร่างผอมบางของนางแนบแน่น
“ ผมคิดถึงแม่ ”
“ แม่ก็คิดถึงลูกที่สุด ” น้ำตาเจ้ากรรมพาลไหลออกมา หัวอกคนเป็นแม่ ไฉนเลยจะอยากให้ลูกไปอยู่ไกลห่าง แต่มันจำเป็น จำเป็นจริง ๆ
แทนไทดันตัวออกมาพร้อมยกสองมือขึ้นประคองใบหน้าผอมไว้
“ แม่ผอมลงมากเลยนะเนี่ย ”
“ จะไม่ผอมยังไง ข้าวปลาวัน ๆ ไม่อยากจะกิน บ่นแต่คิดถึงลูก ๆ ” ลุงเทิดเป็นคนเอ่ยฟ้อง นางส่ายศีรษะพลางแก้ตัวเพราะไม่อยากให้ลูกชายเป็นห่วง
“ พี่เทิดก็พูดเกินไป คิดถึงน่ะก็คิดถึงอยู่หรอก แต่ก็รู้ว่าต้องกินต้องอยู่ เขาไปเพื่ออนาคต เพื่อจะได้มีความรู้กลับมาพัฒนางานให้กับคุณท่าน ว่าก็ว่าพี่เทิดเองก็ผอมลงเหมือนกันนั่นแหละ ตั้งแต่คุณท่านล้มเจ็บ ” ลุงเทิดถอนใจยาว
“ ก็ใครมันจะไปกินลง คุณท่านแข็งแรงมาตลอด อยู่ ๆ มาล้มเสียอย่างนี้ ใจคอข้าก็ไม่ค่อยดีว่ะ ”
“ เอาเถอะ ๆ ผมกลับมาแล้ว ทุกคนไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลคุณท่านอย่างดีที่สุด ”
“ หิวไหมล่ะแทน ”
“ หิวนิดหน่อย แต่อยากขึ้นไปกราบคุณท่านก่อน เดี๋ยวเก็บกระเป๋าก่อนนะ เรื่องของฝากเดี๋ยวค่อยมารื้อกระเป๋าอีกที ” เขาตอบพลางยกกระเป๋าเข้าไปเก็บไว้ในบ้าน ยังไม่ทันจะออกมาก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านนอก
