ตอนที่ 4 รักผิดบาป 3
ไอศิกามองไปที่นาฬิกาที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอเองอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่กระวนกระวายใจเพราะว่าตอนนี้เริ่มดึกมากแล้ว นาฬิกาที่อยู่บนหน้าจอมือถือบอกเวลาอยู่ที่เกือบสี่ทุ่ม บรรยากาศภายนอกหอพักเริ่มเงียบลงทุกขณะ
‘จะมาไม่มาเนี่ย เจ้าเนตร’ หญิงสาวเจ้าของห้องเริ่มบ่นกับตัวเองเบา ๆ เมื่อเห็นว่ามาช้าจนเกินไป อีกอย่างหอพักของเพื่อนคนนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากหอพักของเธอมากนัก
ก๊อก...ก๊อก...ก็อก
ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ได้ดังขึ้นเบา ๆ ทำเอาผู้ที่อยู่ในห้องถึงกับเป่าลมหายใจออกมาทางปากอย่างโล่งอก ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงนอน เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับเพื่อนสนิท
“ไอ..” เพื่อนสาวร้องเรียกชื่อของเจ้าของห้องทันทีที่เธอเปิดประตูออกมา พลางโผเข้ากอดคนตรงหน้าอย่างคนหมดแรง
“แล้วมายังไง ทำไมมันนานจัง?” ไอศิกาสอบถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“เราเดินมา” คู่สนทนาตอบพลางใช้นิ้วของตัวเองปาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอดวงตากลมคู่สวยอีกครั้ง
“ตายแล้ว..เดินมา ดึก ๆ ดื่น ๆ เนี่ยนะ ไม่กลัวอะไรเลยเหรอ” เจ้าของห้องสาวร้องบอกด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อน
“ก็…เดินคิดอะไรมาเรื่อยๆ” เนตรชนกตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“เออ..นะ เข้ามาในห้องก่อน นี่ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาด้วยเลยใช่ไหม?” ไอศิกาเอ่ยถาม เมื่อมองไปที่สองมือของผู้มาเยือนแล้วไม่เห็นว่าได้ถือกระเป๋าหรือพกอะไรมาสักอย่าง
เนตรชนกพยักหน้ารับช้า ๆ
“หัวเรามันตื้อ ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก” เธอพูดพลางนั่งลงตรงขอบเตียงนอน “เรารู้แค่ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“อืม..” ผู้ฟังพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง หรือว่าเนตรอยากจะอาบน้ำนอนเลย ไอจะได้เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน เอาไหม?”
“ยังไม่ได้กินอะไรเลย” เนตรชนกตอบอย่างอายๆ “พอดีเราทะเลาะกันช่วงหัวค่ำที่ร้านข้าวน่ะ”
“อืม..” ไอศิกาตอบรับคำในลำคอ เธอเดินไปที่ตู้เย็นขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมผนังด้านในติดกับระเบียงห้อง พลางเปิดมันออกมาดูกลับกลายเป็นว่าด้านในนั้นมีแต่องุ่นแดงที่แช่เย็นเอาไว้เพียงอย่างเดียว
“เออ..ขอโทษด้วยนะ พอดีว่าในตู้เย็นมีแต่องุ่นน่ะ กินรองท้องไปก่อน เดี๋ยวไอลงไปซื้อบะหมี่ข้างหอมาให้ เนตรรอแป๊บนึงนะ”
พูดจบไอศิกาก็หยิบเอาจานใส่องุ่นออกมาจากตู้เย็น วางลงบนโต๊ะญี่ปุ่นขนาดเล็กที่ใช้สำหรับนั่งทานข้าวภายในห้อง
“ขอบใจมากนะไอ”
“ไม่เป็นไร” พูดจบไอศิกาก็หยิบเอากระเป๋าสตางค์ใบเล็กของตนที่วางทิ้งเอาไว้บนหัวเตียง ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่ได้ล็อคประตู ด้วยเห็นว่าร้านบะหมี่ที่จะไปซื้อนั้นอยู่ที่ข้างหอพักซึ่งพอออกจากหอแล้วเดินไม่ไกล เธอจึงตัดสินใจทิ้งให้เนตรชนกเฝ้าห้องตามลำพังคนเดียว
หญิงสาวเดินออกจากหอพัก ‘ร่มไม้ ชายน้ำ’ ตรงไปยังร้านบะหมี่ ‘ชายสี่ หมี่เกี๊ยว’ เจ้าอร่อยที่ขายอยู่ข้างหอและขายถึงเที่ยงคืนในทุกวัน แต่วันนี้เมื่อเดินมาถึงกลายเป็นว่าร้านปิด เธอจึงตัดสินใจโบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังตลาดโต้รุ่งที่อยู่ไม่ไกลทันที
หลังจากที่ไอศิกาออกจากห้องไป เนตรชนกทำได้แค่เพียงเขี่ยผลองุ่นแดงที่อยู่ในจานไปมา ก่อนตัดสินใจที่จะเก็บผลไม้จานนั้นเอาไว้ในตู้เย็นดังเดิม
เสียงเปิดปิดประตูห้องดังขึ้นอีกครั้งอย่างเบามือ เนตรชนกหันหลังไปมองตามเสียงนั้นเพราะเธอเข้าใจว่าเป็น ไอศิกาที่ลงไปซื้อบะหมี่จากร้านที่อยู่ข้างหอขึ้นมาให้ หากแต่ในความเป็นจริง คนที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องนั้นกลับกลายเป็นกรวิทย์ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั้งตัว ทำเอาหญิงสาวถอยกรูจนแทบจะติดกับประตูเลื่อนกระจกที่กั้นระหว่างระเบียงกับตัวห้อง
“ทำไม..ไอไม่รับสายวิทย์เลย วิทย์โทรมาตั้งหลายสายแน่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า วิทย์เป็นห่วงนะ?” ชายหนุ่มพูดเสียงอ้อแอ้ใส่คนตัวเล็กที่ตอนนี้ยืนชิดติดประตูกระจกด้วยความกลัว กลิ่นของแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งออกมาตามลมหายใจของเขา
“วะ..วิทย์ ใจเย็น ๆ ก่อน นี่เนตรนะ ไม่ใช่ไอ ดูดี ๆ สิ”
กรวิทย์มองไปยังหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของตนอย่างเพ่งพิศ ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ผมยาวที่รัดผมเอาไว้อย่างลวกๆ หากแต่ใบหน้าของเธอคนนี้กลับพร่าเบลอ มองเห็นไม่ชัด
