Bad Engineer 9 - การแข่งขัน
@สนามแข่ง
“ตั้งแต่หน้าทางเข้าสนามหนุ่ม ๆ รุมเข้าหาไม่หยุดเลยนะ” เฟมี่เอ่ยแซวยูกิขึ้น ในขณะที่ทั้งสามกำลังเดินขึ้นมาบนอัฒจันทร์เพื่อหาที่นั่ง เพราะตั้งแต่ลงจากรถยูกิก็เป็นเป้าสายตาของเหล่าบรรดานักศึกษาหนุ่มด้วยเพราะยูกิไม่เคยมาที่นี่
“ก็เพื่อนเราสวยขนาดนี้ ถ้าพี่ชายไม่หวงป่านนี้คนมารุมขายขนมจีบกันเยอะมากแน่ ๆ” นีน่าเองก็เอ่ยชมเพื่อน ในเมื่อเป็นอย่างที่เธอพูดจริง ๆ ยูกิเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่งทั้งมีผิวที่ขาวสมกับเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ยิ่งเธอไม่เคยมาที่แบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งเป็นที่สนใจของเหล่าบรรดาหนุ่ม ๆ ที่ก็เคยเห็นเธอเป็นครั้งแรกเช่นกัน
ในที่สุดทั้งสามก็ได้ที่นั่ง เฟมี่นีน่าตั้งใจให้ยูกินั่งติดกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
และเมื่อเขาได้เห็นยูกิก็ชะงักมองตาค้างไม่กะพริบตา ยูกิที่ทนต่อรังสีสายตาคมข้าง ๆ ไม่ไหว เธอจึงหันไปมองเพียงนิดให้ชายข้างกายได้รู้ตัวว่าเขานั้นจ้องมองเธอมากจนเกินไปแล้ว
“ขะ ขอโทษครับ” ชายหนุ่มก้มหน้ายิ้มอายพร้อมกับเอ่ยสั้น ๆ ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบพูดคุยกับเพื่อนชายอีกคนที่นั่งข้าง ๆ ให้หันให้หันมามองยังยูกิ
“สวยมากเลยว่ะ” สองหนุ่มด้านข้างจ้องมองมาที่เธอไม่ละพร้อมกับพากันเอ่ยชมเปาะไม่หยุด
“ได้เวลาแข่งแล้วใช่ไหม” ยูกิทำเป็นไม่สนใจชายหนุ่มด้านข้างทั้งสอง เมื่อเธอเห็นรถแข่งกำลังถูกขับเข้ามาประจำที่เพื่อรอแข่ง
“ใช่ ออกมากันแล้ว” และเป็นเฟมี่ที่เอ่ยพูดเมื่อเห็นนักแข่งเดินออกมา
“แมตซ์แรกเป็นของไฟและตามด้วยพายุ” นีน่าเอ่ยบอก
เมื่อไฟเดินออกมาตามด้วยพายุ ทั้งสองสวมชุดนักแข่งเต็มชุด
กรี๊ด ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัวเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาว ๆ ในสนามดังขึ้นโดยพร้อมเพรียง
“ไฟนี่ก็ฮอตไม่ตกเลยเนาะถึงจะมีแฟนแล้วก็เถอะ สาว ๆ ก็ยังกรี๊ดให้ลั่นสนั่นสนามแข่งอยู่เลย” นีน่าเอ่ยพูดพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปยังไฟที่ทำตัวนิ่งไม่สนใจเหล่าบรรดาสาว ๆ ที่กำลังกรี๊ดกร๊าดให้เขาไม่หยุด
กรี๊ด
และเสียงกรี๊ดเชียร์ก็ดังลั่นสนั่นยิ่งกว่าเดิมเมื่อเจอกับพายุที่เดินเข้ามาใกล้อัฒจันทร์พร้อมกับยกมือโบกไม้โบกมือ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังส่งจุ๊บขยิบตาส่งให้สาว ๆ ตามประสาคนขี้เล่นและกะล่อน
“นี่สนใจคนนี้ดีกว่าโสดชัวร์แต่สาวก็เยอะสุด” เฟมี่เอ่ยพูดในขณะที่สายตาก็จ้องมองพายุไม่ละสายตา
ใคร ๆ ก็หลงเสน่ห์ในความหล่อ ความขี้เล่นและเฟรนลี่ของพายุกันทั้งนั้น
“ยูกิว่าไง คนนี้พอเข้าตาบ้างไหม” นีน่าหันมาเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตอนนี้ทำหน้านิ่งจ้องมองพายุไม่ละสายตา
ยูกิในตอนนี้ เธอนิ่งงันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งมีความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากหญิงสาวทุกคนตรงนี้ ที่มองว่าเขาหล่อและแพรวพราวมีเสน่ห์เอามาก ๆ มากกว่าตอนม.ปลายที่ทั้งคู่คบกันเสียอีก
แต่ทว่า...
“ไม่” ยูกิเอ่ยพูดขึ้นทันทีอย่างทันควัน ถึงแม้ความคิดจะไปอีกแบบ แต่เธอก็มีสติพอที่จะจำความแค้นและเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาได้ดี
และในจังหวะนั้นเอง
“พายุ” เฟมี่ที่นั่งอยู่ติดข้างขอบอัฒจันทร์โบกไม้โบกมือเรียกพายุ
ยูกิสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง เพราะกลัวว่าพายุจะเห็นเธอเข้า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่พ้นสายตาคมของพายุไปได้อยู่ดี
“พายุสู้ ๆ นะ” นีน่าและเฟมี่ตะโกนให้กำลังใจพายุด้วยความสนิทสนม แต่พายุกลับไม่ได้สนใจสองคนเธอที่ยิ้มหน้าบานตื่นเต้นให้ เขากลับสนใจหญิงสาวที่คุ้นสายตาเขาเหลือเกินที่นั่งอยู่ข้างนีน่ามากกว่า
และ...เมื่อเขาเห็นว่าเป็นยูกิ รอยยิ้มร้ายก็ผุดขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกับความคิดในใจที่เธอมาดูการแข่งขันวันนี้ก็เพราะคำพูดที่เขาพูดไว้กับเธอ
“ขอบใจนะครับ” เขาพูดทิ้งท้ายด้วยความอารมณ์ดี ก่อนจะเดินจากไป
ยูกินรอจนกระทั่งพายุเดินจากไป และเมื่อหันกลับเข้าไปยังสนามอีกครั้ง รถของไฟเพื่อนของเขาก็เคลื่อนตัวออกจากจุดสตาร์ท ก่อนจะเร่งเครื่องแข่งโดยมีเสียงเชียร์จากเหล่าบรรดานักศึกษาที่ต่างก็ลุ้นไปกับการแข่งขันครั้งนี้
“ไฟเริ่มแข่งแล้ว” ทั้งเฟมี่และนีน่าต่างก็พากันมองรถแข่งของไฟในสนามนิ่งอย่างใจจดจ่อ
“พนันว่าชนะเหมือนเดิม” ก่อนที่เฟมี่จะเอ่ยพูดขึ้นในขณะที่สายตาก็กำลังมองรถที่แล่นด้วยความเร็วบนสนาม
“อือ” นีน่าที่กำลังลุ้นไปกับรถแข่งของไฟที่กำลังจะวิ่งเข้าสู่เส้นชัยในอีกไม่กี่วิ และในที่สุด เสียงเชียร์โห่ร้องในสนามกดังสนั่นลั่นทั่วบริเวณเมื่อไฟเป็นฝ่ายเข้าเส้นชัยได้ก่อนอย่างที่ทุกคาดกันเอาไว้ ทั้งสองสาวอย่างเฟมี่และนีน่าต่างพากันตบมือด้วยความชื่นชม
“ฝีมือไม่ตกก็ยังเก่งเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือมีเมียแล้ว” สองสาวทำตาละห้อย พลางพูดออกมาด้วยแววตาเสียดายติดเล่นกันอย่างไม่ได้คิดจริงจังอะไร
“แต่เสียดายเนอะวันนี้ไม่มีคู่เพลิง”
“นั่นสิ แต่ว่าออกจากโรงพยาบาลหลังพี่บากิแค่วันเดียว พรุ่งนี้ก็น่าจะได้ลงแข่งนะ”
“งั้นพวกเราถามเฟียร์ดูดีกว่า แต่ว่า วันนี้ไม่มาเหมือนกันแฮะ”
“ก็น่าจะอยู่กับเพลิงนั่นแหละ”
“ไอ้พวกไม่รู้ใจตัวเอง”
ยูกิที่นั่งฟังเพื่อนสาวสองคนพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ แต่ทว่าสายตากลับชะเง้อมองหาบากิพี่ชายของเธอ เพราะวันนี้เป็นการแข่งระหว่างพายุและบากิ เธอถึงได้มาที่นี่
และในตอนนั้นเอง
“กรี๊ด พายุลงสนามแล้ว”
“แพรวพราวสุด ๆ ไปเลย”
เฟมี่และนีน่าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นพายุเดินออกมาหลังจากที่เข้าไปด้านในกับไฟที่แข่งชนะเสร็จ
“และก็เฟรนลี่อะไรได้ขนาดนั้น” นีน่าเอ่ยออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นพายุดินมาโบกไม้จับมือกับสาว ๆ บนอัฒจันทร์อย่างเป็นกันเอง
แต่ในสายตาของยูกิที่นั่งนิ่งเงียบมองเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า เธอมองว่าเขากำลังหว่านเสน่ห์จนน่าหมั่นไส้ เธอเห็นพายุกำลังโบกไม้โบกมือส่งจูบใหกับบรรดาสาว ๆ ที่ส่งเสียงคอยเชียร์เขาอยู่ทั้งที่ขอบสนามและบนอัฒจันทร์
“แต่เอ๊ะ นั่นใช่พี่บากิหรือเปล่า” เสียงของเฟมี่ทำเอายูกิที่เบนสายตาหนีไปทางอื่นหันขวับกลับไปมองยังจุดสตาร์ทรถแข่ง
เมื่อยูกิเห็นพี่ชายเดินเข้ามายังรถแข่งของตัวเอง หัวใจดวงเล็กก็พลันเต้นแรงเพราะกลัวว่าพี่ชายจะเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง ที่สำคัญเมื่อรู้ว่าพี่ชายต้องแข่งกับคนอย่างพายุแล้ว เธอกลัวใจของเขาเอามาก ๆ
พายุคนนี้ไม่ใช่คนเดิมอย่างที่เธอเคยรู้จักด้วย เธอเดาใจเขาไม่ได้เลย
“อย่าบอกนะว่าพี่บากิแข่งกับพายุเหรอ” นีน่าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังเดินขึ้นรถแข่งของตัวเองที่ถูกเตรียมไว้
“เพราะสาเหตุนี้ใช่ไหมยูกิถึงมาดูวันนี้” เฟมี่ชะโงกหน้าถามเพื่อนสาว
ยูกิพยักหน้าตอบเบา ๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังจ้องมองพี่ชายที่กำลังขึ้นรถไปด้วยใจเต้นระรัว
“ว้าว น่าตื่นเต้นสุด ๆ” นีน่าเอ่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ตื่นเต้นอย่างที่พูด
“อยากรู้แล้วว่าใครจะชนะ” เฟมี่เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
“เฟมี่แกเชียร์ใคร” นีน่าพูดขึ้น
“ฉันเหรอก็ต้องเชียร์พี่บากิสิ”
“งั้นฉันเชียร์พายุ”
“ใครพนันแพ้คนนั้นต้องเลี้ยงชาบู”
“โอเคดีล”
สองคนพูดจากันอย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้เลยว่ายูกิกำลังมีสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด
?
