บท
ตั้งค่า

คืนหนังสือ

ตอนที่7 เอาหนังสือมาคืน

ก๊อก ๆ

“คืนนี้เธอทำคนเดียวไปก่อนได้มั้ย พี่เรากลับมาจากเชียงใหม่น่ะจะไปอ้อนซื้อเสื้อผ้าสักหน่อย”           อชิรญาชะงักเล็กน้อย เธอเปิดประตูเพราะนึกว่าแสนดีจะเข้ามาทำรายงานด้วยซะอีก

           “หรือเธอจะไปด้วยกันมั้ย”

           “แสนไปเถอะ นาน ๆ พี่จะกลับมาหา”            พี่ชายของแสนดีเป็นหมออยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และชอบกลับมาแบบไม่บอกล่วงหน้า เธอจึงไม่อยากแทรกแซงเวลาครอบครัวของแสนดีในเวลานี้ ที่พวกเขาควรจะอยู่ด้วยกัน

           “แต่ถ้าเธอยังงง ๆ เอาไว้เรามาตายเอาดาบหน้าด้วยกันนะ”

           “บ้า เดี๋ยวเราทำรอก็ได้ ยังไงก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วล่ะ”

           “หรือเธอจะคุยกับพี่เจเลอร์จนกกว่าเราจะกลับมาก็ได้นะ แล้วค่อยทำพร้อมกัน”

           “เลิกแซวแล้วรีบไปได้แล้วแสนดี”        แสนดีกลั้วขำก่อนจะออกไปหาพี่ชายตัวเองด้วยความดีใจ ส่วนคนที่ไม่ได้ออกไปไหนก็รีบกลับเข้าไปนั่งหน้าโน๊ตบุ๊คเพื่อเร่งรายงานที่ไปไม่ถึงไหนให้มันเสร็จ

“เรายังมีหวังนะแสนถ้าเธอกลับไม่ดึก”           เพราะไม่ได้หนังสือที่เป็นใจความสำคัญอชิรญาจึงต้องงมเข็มในอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมาตลอดว่ามันน่าจะมีทุกอย่างบนโลกใบนี้ แต่มันก็ยังเข้าไม่ถึงในสิ่งที่หนังสือเล่มนั้นมี

ติ๊ง ติ๊ง

Jayler.

           “สนใจเอาหนังสือเล่มนี้มั้ย”    หัวใจดวงน้อยเต้นถี่เร็วเหมือนคนวิ่งมาเป็นร้อยเมตร วันนี้เขาไม่น่าจะส่งผิดเพราะในข้อความนั้นมันแนบรูปถ่ายหนังสือของเธอมาด้วย

           “ว่าไง”

           “พี่เจเลอร์อยู่ที่ไหนเหรอคะ”

           “หน้าห้องเธอ ออกมาสิ”      หญิงสาวเพ่งสายตาของเธอไปที่ประตูทันที เขาหลอกหรือเปล่า หรืออยู่จริง ๆ

ติ๊ง

           อชิรญาตาโตยิ่งกว่าไข่เมื่อเขาส่งรูปหน้าประตูห้องของเธอมาจริง ๆ ก่อนจะตามด้วยเสียงกริ่งยืนยันว่าเขาอยู่ที่นี่

กริ๊ง

แอด...

           “พี่เจเลอร์...”

           “เอามั้ย”          ชายหนุ่มชูหนังสือเล่นนั้นขึ้นต่อหน้าคนตัวเล็ก พยายามยกสายตาไม่ให้มองต่ำยังเนินอกล้นเสื้อนอนสายเดี่ยวที่เธอสวมอยู่

           “ถามว่าเอามั้ย”

           “อะ..เอาค่ะ อื้อ....”     จู่ ๆ ร่างบางก็ต้องเซถลากลับเข้ามาในห้องเมื่อถูกกระโจนใส่อย่างรวดเร็ว แผ่นหลังของเธอแนบกับผนังเย็นเฉียบ และเขาก็กักขังเธอไว้ด้วยวงแขนในที่สุด

           “พะ..พี่เจเลอร์คะ”

           “ตัวสั่น? ไม่เคยใกล้ผู้ชายแบบนี้เหรอ”

           “ก็จู่ ๆ พี่เจเลอร์ก็เข้ามาแบบนี้... อายตกใจค่ะ”         เธอตอบโดยไม่สบตา เดี๋ยวเป็นลมก่อนที่เขาจะกลับซะก่อน

           “กลัวฉันมั้ยล่ะ”          อชิรญารีบพยักหน้าตามความจริง ถึงเขาจะเป็นผู้ชายที่ลักษณะใกล้เคียงกับไอดอลที่ชอบก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้

           “อย่ากลัวฉันสิ ฉันมาดีนะ”

           “ขยับออกไปได้มั้ยคะ อาย.. อายหายใจไม่ออก”

           “ฉันไปทำอะไรให้เธอหายใจไม่ออก”

ตึก ๆ ตึก ๆ

           หัวใจเต้นแรงจนคิดว่าเขาน่าจะรู้สึก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าเขาไม่คืนอิสระให้เธอ

           “ร้อนเหรอ เหงื่อแตกเต็มเลย”

           “เปล่าค่ะ พี่เจเลอร์อย่าแกล้งอายแบบนี้ได้มั้ยคะ”

           “เป็นอะไร”      ใบหน้าของเขาก้มลงต่ำจนกลับปากแทบจะสัมผัสถูกหน้าผากมน แต่กลิ่นหอมของเส้นผมก็ลอยเตะจมูกจนทำให้อยากสูดกลิ่นให้สุดปอดสักฟอด อยากรู้ว่ามันกลิ่นของแชมพูหรืออะไรกันแน่

           “พี่เจเลอร์...ใกล้ไปแล้วนะคะ”

           “ฉันอยากใกล้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ”        อชิรญากระพริบตามองคนตัวสูงอย่างงุนงงที่เขาเอาหนังสือในมือมาวางแตะที่กลีบปากของเธอ ก่อนจะทำในสิ่งที่แทบทำให้เธอล้มทั้งยืนด้วยการแตะกลีบปากของเขาที่หนังสืออีกฝั่งโดยที่สายตายังจ้องมองเธอวาวระยับ ‘เขาจูบเธอโดยมีหนังสือกั้นกลาง!!!’

พรึ่บ

    เจ้าของห้องทรุดลงกองกับพื้นหลังจากทนให้หัวใจเต้นระส่ำนานเกินไป เจเลอร์ตามลงมาย่อตัวลงนั่งชันเข่าเบื้องหน้าเธอก่อนจะจู่โจมเธอโดยไม่มีหนังสือคั่นกลางอีกต่อไป

“อื้อ…”

กลีบปากเรียวบางสั่นระริกถูกเซาะเล็มอย่างอ่อนโยน เธอไม่เหลือสติมากพอที่จะเบี่ยงหน้าหนี แถมยังถูกชักจูงมอมเมาจนยากจะถอนตัว

จ้วบ…

“อื้ม…”  เจเลอร์เผลอหลุดเสียงครางต่ำอย่างลืมตัว เขาผละออกแต่ปลายจมูกยังลากไล้ที่แก้มนิ่มไม่ห่างออกเหมือนแกล้งคนที่สั่นโยนตรงหน้าอย่างนึกสนุก

“เอาหนังสือมาคืนให้แล้วนะ”

“…”

“ได้ยินที่ฉันพูดมั้ย” อชิรญายังควบคุมสติไม่ไหวจึงยังไม่มีคำพูดใดจากปากของเธอ และมันทำให้เขาจูบเธออีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ

“อื้อ…”

“ฉันคุยด้วย อย่าเงียบใส่”

“พี่... เจเลอร์”

“จูบ”

“จูบ…จูบอายทำไมคะ”

“ฉันชอบเธอ” คำพูดของเขาทำใจเธอสั่นไม่แพ้จูบแสนหวานก่อนหน้า เธอก้มหน้างุดรู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวคิดว่ามันต้องแดงมากแน่ ๆ แล้ว

“สำหรับอะไรที่มันถูกใจ ไม่มีคำว่าเร็วไป”

“เธอคิดเหมือนกันมั้ย”

“…”

“เงียบ?”

“เปล่านะคะ อายกำลังคิดอยู่ว่าจะพูดอะไร”    อชิรญารีบพูดด้วยความรวดเร็ว เธออยากจะเอาผ้าห่มคลุมตัวเองแล้วกรี๊ดออกให้ดังระบายอาการแปรปรวณของท้องไส้

“ไม่พูดก็แค่ฉันโดนจูบ”

“พี่จูบอายไม่ได้นะคะ!”

“อยาก...มากกว่าจูบซะอีก รู้ไว้ด้วย”  ชายหนุ่มลากนิ้วโป้งไล้กลีบปากที่เขาเพิ่งได้ครอบครองมันเป็นคนแรกไม่กี่นาทีที่ผ่านมาอย่างหลงไหล ‘เธอไร้เดียงสาขนาดนี้ เขาชักอยากจะเป็นครูของเธอซะแล้วสิ’

“ฉันชอบเธอได้มั้ย”

“คะ!”

“เธอนี่ความจำสั้นจัง ฉันบอกหลายทีแล้วว่าชอบ”     อชิรญากลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่าที่มากที่สุด คนบอกเธอด้วยคำนี้มากมายแต่ไม่เคยมีใครบ้าเข้ามาจูบ...

“ฉันเป็นจูบแรกของเธอหรือเปล่า”

“พี่เจเลอร์...”

“เธอเป็นจูบแรกของฉันนะ”    มือที่เคยสัมผัสริมฝีปากอวบอิ่มก่อนหน้าลูบศีรษะของเธอ หญิงสาวหลงคิดว่าเขาอ่อนโยน หารู้ไม่ว่าเจเลอร์กำลังใช้วิธีเดียวกับที่เขาชอบทำสุนัขแสนพยศให้เชื่อง และยอมสยบ

“อาย...”

“เวลาที่ฉันสนใจใครฉันสนใจแค่คนเดียว”

“...”

“ถ้าเธอรู้สึกแบบเดียวกัน ก็ตัดคนอื่นออกจากชีวิตของเธอ...ให้เหลือแค่ฉัน”  

           “เรายังไม่รู้จักกันเลยนะคะ”

“อยากรู้จักฉันแค่ไหนล่ะ จะเล่าให้ฟัง”

“อายว่าเราค่อย ๆ รู้จักกันเถอะนะคะ”           หัวใจไม่เคยได้หยุดทำงานหนักเมื่อกลีบปากหนาประทับลงบนเส้นผมหอมกรุ่นของเธอ ก่อนจะหยัดตัวขึ้นเต็มความสูงและยังทอดสายตามองที่ใบหน้าจิ้มลิ้มอยู่

“ฉันเป็นคนใจร้อน แค่นี้ยังช้าไปด้วยซ้ำ”

           

       

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel