11 ผู้หญิงของฉัน
‘เธอเป็นของฉันคนเดียวโรสสิริน ถ้าฉันไม่ให้ใครก็มาเอาเธอไปจากฉันไม่ได้เพราะถ้ามันกล้า ฉันจะส่งมันลงนรกเอง’
ด้านวิศรุตที่ยืนสังเกตการณ์อยู่แล้วรีบก้าวเท้ายาวๆเพื่อ เดินตรงไปหาเพื่อนรักก่อนจะเคาะกระจกรถอย่างแรง
“ปัง ๆ ๆ ๆ” เขาเห็นสีหน้าของหญิงสาวดูแปลกๆ คล้ายจะร้องไห้หลังจากที่ลงจากรถของภีมภวัต และเมื่อกระจกรถเลื่อนลง เขาจึงไม่รอช้ารีบถามไถ่ถึงสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวมีอาการเช่นนั้นทันที
“แกทำอะไรน้องโรสวะไอ้ภีม” วิศรุตถามแววตาเอาเรื่อง
“ฉันเปล่า” ภีมภวัตตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่รับรู้ถึงน้ำเสียงอันหงุดหงิดของผู้ถามแม้แต่น้อย
“แกเปล่าเหรอ ฉันรู้นะว่าแกทำอะไร นั่นมันน้องสาวแกนะโว้ยแกทำอย่างนั้นไม่ได้” วิศรุตเริ่มโมโหเนื่องจากเจ้าตัวไม่มีทีท่าจะสะทกสะท้านกับข้อกล่าวหาของเขาแม้แต่น้อยและความโมโหก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อได้ยินคำตอบอันแสนเย็นชาของเพื่อนรัก
“แค่แกล้งเล่น แล้วแกมายุ่งอะไรด้วยนี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน” น้ำเสียงนั้นเจือหงุดหงิดเล็กน้อย
ปกติแล้ว เขาไม่เคยต้องปกปิดเรื่องส่วนตัวกับวิศรุต แม้แต่ผู้หญิงยังสามารถแบ่งกันใช้ได้ แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักดูจะเป็นห่วงเป็นใยน้องสาวตัวแสบของเขาอย่างออกนอก หน้าทำให้เขาพลั้งปากออกมาด้วยความหึงหวงอย่างไม่รู้ตัว
“ฉันจะไม่ยุ่ง ถ้ามันไม่เกี่ยวกับน้องโรส ฉันขอว่ะเพื่อน ฉันจริงจังกับน้องสาวแกจริงๆ นะ”
“แกหมดเรื่องพูดรึยังฉันต้องเตรียมตัวส่วนเรื่องโรสแกไม่ต้องยุ่ง ผู้หญิงของฉันฉันจัดการเองได้!”
ชายหนุ่มจงใจเน้นหนักตรงประโยคสุดท้ายแทนที่จะใช้คำว่าน้องสาว เหมือนจะบอกวิศรุตเป็นนัยๆว่า เขาเริ่มคิดไม่ซื่อกับน้องสาวแสนสวยคนนี้เข้าแล้ว
“เรื่องนี้ฉันไม่ยอมให้แกแน่ แกไม่ใช่เจ้าชีวิตของเธอ และเรื่องนี้ น้องโรสจะเป็นคนตัดสินใจเองไม่ใช่พี่ชายอย่างแก” วิศรุตตอบกลับด้วยแววตาและน้ำเสียงจริงจังเขาจงใจเน้นหนักตรงคำว่าพี่ชายเหมือนจะเตือนเพื่อนรักให้รู้ฐานะตัวเองว่ามันก็ไม่มีสิทธิ์คิดเช่นกัน งานนี้เขาไม่ยอมลงให้ภีมภวัตอย่างแน่นอนถึงอย่างไรก็ต้องตามจีบโรสสิรินให้ได้ กระจกที่ถูกติดฟิล์มหนาแน่นจะเลื่อนปิดอย่างสนิท โดยที่วิศรุตเองก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อนรักกำลังคิดจะทำอะไร
รถสองคันทะยานออกจากจุดปล่อยรถอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับสัญญาณ พร้อมกับเสียงโห่เชียร์ที่ดังมาจากข้าง สนามซึ่งเหมือนเป็นการเพิ่มอรรถรสในการชม ทุกคนที่เข้าชมต่างรู้จักฝีมืออันร้ายกาจที่ไม่แพ้ความหล่อของภีมภวัตเป็นอย่างดี ส่วนปานเทพทุกคนรู้จักเขาในนามดาวรุ่งคนใหม่ของวงการรถยนต์แต่ก็อดลุ้นไม่ได้ว่าใครจะได้ชัยชนะในครั้งนี้ไปครอง ที่สำคัญพวกเขาแข่งไปเพื่ออะไร
การแข่งขันอันดุเดือดผ่านไปได้สักพักแต่สำหรับโรสสิรินแล้วมันเหมือนกับว่าเวลามันผ่านไปเนิ่นนานเหลือเกิน ในขณะที่ผู้ชมข้างสนามต่างก็ลุ้นใจจดใจจ่อว่าใครจะเข้าเส้นชัยก่อนกัน
เว้นเสียแต่วิศรุตซึ่งไม่มีความกังวลเลยแม้แต่นิดเพราะเขารู้จักฝีมือของภีมภวัตเป็นอย่างดีพลันสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวมีสีหน้าเครียดจนคิ้วผูกเป็นโบว์ จึงเดินเข้าไปหาก่อนจะจับไหล่มนของเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจให้เธอแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่สนใจเขาสักนิด สายตาของเธอมัวแต่จับจ้องรถคันที่เพื่อนรักของเขาขับอย่างกระวนกระวายใจ
ภีมภวัตปล่อยให้ปานเทพนำอย่างใจเย็นแต่เขาก็ไม่ได้ทิ้งระยะห่างมากนักซึ่งเป็นวิธี ที่ใช้มักจะใช้ทำให้คู่แข่งตายใจและมันก็ได้ผลตลอด เมื่อมาถึงโค้งสุดท้าย ภีมภวัตที่ตามหลังปานเทพมาติดๆ ตบเกียร์แล้วหักพวงมาลัยพร้อมเหยียบคันเร่งจนมิดเพื่อดริฟท์ก่อนจะขึ้นนำปานเทพอย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยฝีมือที่ฝึกฝนมานาน และเมื่อนำได้แล้วชายหนุ่มไม่รอช้ารีบกดปุ่มหัวฉีดเพื่อเร่งเครื่องเข้าเส้นชัยไปอย่างสวยงามโดยมีปานเทพตามหลังมาไม่ห่างมากนัก ปานเทพสบถพร้อมใช้มือฟาดพวงมาลัยรถอย่างหัวเสีย
“บ้าเอ๊ย!”
ถึงแม้ภีมภวัตจะมั่นใจในฝีมือของตน แต่ก็เขาก็ยอมรับว่าฝีมือ ของปานเทพนั้นร้ายกาจไม่เบาทีเดียว ที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาแข่งรถเพียงเพราะเรื่องบ้าบอพรรค์นี้ เพียงเพื่อกันชายอื่นให้ออกห่างน้องสาวของตน แต่เขาก็ทำไปแล้วทำแบบสับสนไม่เข้าใจในตัวเองซึ่งทำให้เขาไม่มีสมาธิตลอดระยะเวลาในการแข่งขันเพราะ มัวแต่นึกถึงแต่ใบหน้าหวานของยัยตัวแสบ
เมื่อการแข่งขันจบลงทั้งภีมภวัตกับปานเทพต่างก้าวลงจากรถของตน ปานเทพจำได้เป็นอย่างดีว่าสไตล์การขับแบบนี้เป็นวิธีการของนักแข่งนิรนามที่ไม่เคยเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามในการลงแข่งขัน เขาเคยแอบชื่นชมนักแข่งคนนี้มาตลอด แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนคนเดียวกับภีมภวัต วิริยะพงษ์ไพศาล
ปานเทพพอจะมองสายใยบางๆ ระหว่างพี่น้องคู่นี้ออกว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องเหมือนคนทั่วไป เพราะภีมภวัตลงทุนลงแข่งด้วยตัวเองทั้งที่ชายหนุ่มแทบไม่ต้องลงแรงก็สามารถเขี่ยเขาให้พ้นทางได้ นั่นก็แสดงว่าเขาต้องการที่จะกันผู้ชายที่เข้าหาผู้เป็นน้องสาวอย่างลูกผู้ชายนั่นเอง
“ผม รู้ว่าคุณเป็นใคร ผมมีสัจจะพอ ผมจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเธอ
อีกแต่ผมขอเตือนคณไว้อีกอย่างหนึ่งว่าคุณกับเธอเป็นพี่น้องกัน คุณเปลี่ยนมันไม่ได้และนั่นจะนำความเจ็บปวดมาสู่เธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าคุณยังไม่ยอมหยุด” ปานเทพพูดจ้องตากับคู่แข่งเพื่อแสดงความจริงใจ
“ฉันไม่ได้คิดอย่างที่แกพูด แต่ถึงอย่างไรฝีมือแกก็ไม่เลว ไว้มีโอกาสเจอเรามาแข่งกันใหม่” ภีมภวัตพูดน้ำเสียงเรียบโดยไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย
“คนอัจฉริยะอย่างคุณไม่น่ามาตายน้ำตื้นด้วยเรื่องแบบนี้เลย ผมเตือนคุณได้แค่นี้แหละ” ปานเทพกล่าวจบพร้อมเดินกลับไปยังจุดพักรถของตัวเองก่อนจะทำมือเพื่อสั่งลาเป็นครั้งสุดท้ายโดยไม่หันกลับมาอีก
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ภีมภวัตสบถอย่างหงุดหงิดที่ถูกรุ่นน้องหลอกด่า ทันใดนั้นก็มีร่างบางเซ็กซี่เย้ายวนอย่างอรปรียาเดินเข้าไปหาชายหนุ่มพร้อมกับมอบจูบเป็นรางวัลให้ชายหนุ่มอย่างเร่าร้อนอวดสายตาร้อนให้สาวหลายคนที่อยู่บริเวณนั้นอิจฉา และไม่ได้สังเกตุเห็นว่ามีใครบางคนกำลังแอบมองภาพบาดตานั้นอย่างเสียใจ ‘ตัวจริงของเขามาแล้ว’ หมดเวลาของน้องสาวนอกไส้อย่างเธอ
