บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ชะตากำหนด (1/4)

ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเมื่อเหล็กเนื้อแข็งกระทบกับร่างของบัวชมพู เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่รวดร้าวไปทั่วร่าง เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดใดๆ

ภาพความทรงจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลั่งไหลเข้ามาสู่ความคิด และคำขอสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติไปในอุบัติเหตุครั้งนี้

“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะไม่มีวันรักคุณ”

ร่างของบัวชมพูถูกรถกระบะคันสูงชนจนกระเด็นไปกระแทกที่พื้น เลือดไหลทั่วร่างแล้วแน่นิ่งไปโดยที่มีสามีอย่างภควัฒน์ที่วิ่งตามเธอมาแต่ช่วยเอาไว้ไม่ทัน

วิญญาณของบัวชมพูยืนมองสามีที่ร้องไห้กอดร่างของเธอเอาไว้ และหญิงสาวอีกคนที่เดินตามมา เธอยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ

วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน บัวชมพูกลับมาที่บ้านพบว่าสามีกำลังจูบอยู่กับทาริกา อดีตคนรักของเขาที่เคยทิ้งเขาไปแต่งงานกับคนอื่น

ทั้งสองยืนกอดจูบกันในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา บัวชมพูทำขวดไวน์ในมือหล่นลงพื้นแล้ววิ่งออกมาจากบ้านอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความเสียใจ

ภควัฒน์และทาริกาที่ยืนจูบกันอยู่ก็รีบวิ่งตามเธอมา เขาเห็นตอนที่ภรรยาถูกรถชนร่างกระเด็นต่อหน้าต่อตา มันทำให้ภควัฒน์เจ็บปวดที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายนี้ขึ้น

ไม่คิดเลยว่าจูบลาครั้งสุดท้ายที่ทาริการ้องขอให้เขาทำ จะทำให้ภรรยาเสียใจจนวิ่งออกมาให้รถชนได้แบบนี้ หากเขาหักห้ามใจไม่เป็นบ้าตามทาริกาพูดเพื่อตัดปัญหาการตามตื๊อของเธอ ทุกอย่างก็คงไม่จบลงแบบนี้

“หากย้อนอดีตได้ ผมจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจ” เขากระซิบข้างหูของภรรยา ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด

แสงสว่างวาบที่ขึ้นมาที่กลางวิญญาณของเธอ และมีช่องมิติสีรุ้งที่เปิดอยู่ตรงหน้า บัวชมพูรู้สึกว่าทุกอย่างหมุนรอบตัวแล้ววิญญาณของเธอลอยละล่องเข้าไปในช่องมิติที่เปิดขึ้นมา รู้แล้วว่าตนเองคงไม่มีโอกาสได้มองโลกที่โหดร้ายใบนี้อีกแล้ว

**********************

“ตื่นได้แล้วบัว วันนี้ทำงานวันแรกไม่ใช่หรือไง” เสียงของมารดาที่คุ้นเคยปลุกให้บัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีตื่นขึ้นมาจากหลับใหล

เธอลืมตาขึ้นมองไปรอบๆห้อง พบว่ามันเป็นห้องเดิมของเธอที่อยู่บ้านของมารดา พลางคิดว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ แล้วทำไมหนูไม่มีแผลอะไรเลย” เธอถามมารดาแล้วยกแขนขึ้นมาตรวจดูบาดแผลจากรถชนเมื่อคืนนี้ ทำให้มารดาของเธองุนงงเล็กน้อย

“ฝันอะไรเป็นตุเป็นตะอีกแล้วละสิ ไปทำงานได้แล้ว ไปสายตั้งแต่วันแรกเดี๋ยวเจ้านายจะไม่เอ็นดูเอา”

“ทำงาน...วันแรกอย่างนั้นเหรอคะ”

“ก็ใช่นะสิ งงอะไรอยู่ รีบลุกได้แล้ว” หญิงวัยกลางคนท่าทางอ่อนหวานบอกแก่บุตรสาวแล้วลงไปเตรียมอาหารเช้าที่ครัวต่อ

บัวชมพูมองดูเวลาที่โทรศัพท์มือถือ แล้วตกใจที่ตอนนี้ตัวเองย้อนเวลามาถึงห้าปี แล้วยังอยู่ในร่างเดิมของตัวเอง เหมือนกับว่าสวรรค์ให้โอกาสเธอในการแก้ตัวอีกครั้ง

“เราไม่ได้ฝันไปแน่ๆ ความทรงจำระหว่างเรากับเขามันยาวนานและชัดเจน นี่คงเป็นความต้องการของสวรรค์ที่ทำให้เราได้กลับมาใช้ชีวิต ที่ไม่ต้องมีเขาอีกต่อไป” เธอพึมพำออกมา นึกถึงคำขอสุดท้ายก่อนตายของตนเอง

เธอลงไปทานอาหารเช้าฝีมือของมารดาแล้วขับรถออกไปทำงานด้วยความสบายใจ ใช้ความทรงจำที่เคยมีหลบเลี่ยงเส้นทางที่รถติดเพื่อไปทำงานแต่เช้า

ภควัฒน์ที่มาถึงพร้อมๆกับเธอ เขาเดินเข้าลิฟต์เดียวกันกับบัวชมพู เธอเบือนหน้าหันไปมองทางอื่น พยายามบอกตัวเองว่าเธอยังไม่รู้จักกับเขา ไม่จำเป็นต้องพูดคุยหรือเสวนาด้วย การที่เธอได้กลับมาแก้ไขเรื่องราวในอดีต เธอต้องใจแข็งเข้าไว้ ไม่ใจอ่อนหลงรักเขาแล้วพบจุดจบอย่างที่ผ่านมา

เธอเดินออกจากลิฟต์ชั้นเดียวกับเขาแล้วเดินตามเขาไปยังบริษัทของตนเองที่อยู่ชั้นเดียวกันกับเขา มาทำงานวันแรกเธอไม่มีคีย์การ์ดเข้าไป อย่างไรก็จำเป็นต้องพึ่งพาเขา

“เอ่อ ฉันขอเข้าไปด้วยนะคะ พอดีพึ่งมาทำงานวันแรก” เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ

“อืม ตามเข้ามาสิ” เขาบอกเธอแล้วรูดประตูให้เปิดแล้วเดินนำเธอเข้าไป

หญิงสาวไหว้ขอบคุณเขาตามมารยาท ก่อนจะเดินไปรายงานตัวกับฝ่ายบุคคล ทำเอาภควัฒน์สงสัยที่เธอรู้ว่าแผนกบุคคลอยู่ตรงไหน ทั้งๆที่ตอนสมัครและสัมภาษณ์นั้นทุกอย่างทำที่สำนักงานใหญ่ที่อยู่อีกตึกแท้ๆ

บัวชมพูวางตัวดีและเข้ากันได้กับเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ เพราะเธอรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไรและชอบหรือไม่ชอบอะไร นึกโชคดีที่การย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ทำให้เธอใช้ชีวิตง่ายขึ้น ทำงานง่ายขึ้น และเป็นที่เอ็นดูของหลายๆคน

เธอรู้ดีว่าอีกไม่กี่วันนี้ภควัฒน์จะเลิกกับคนรักของเขา เขาจะอกหักแล้วซึมอยู่สักพัก ก่อนที่จะมีสาวๆหลายคนเสนอตัวไปดามใจให้เขา แต่ว่าภควัฒน์ไม่สนใจใคร

เขาใช้เวลาอยู่นานเกือบสองเดือนถึงจะเริ่มเปิดใจ และคนที่เขาเลือกเดินเข้าหานั่นก็คือบัวชมพูนั่นเอง

“เมื่อถึงตอนนั้น เราต้องไม่ใจอ่อนไปทำดีเพื่อปลอบใจเขาอย่างตอนนั้น เราจะได้ไม่ต้องมีใจให้กัน”

“บ่นอะไรอยู่คนเดียว” ภควัฒน์ที่เดินเข้ามาชงกาแฟข้างๆเธอเอ่ยถามขึ้นมาแล้วส่งยิ้มให้

“ไม่มีอะไรค่ะ แค่เพ้อไปงั้นๆ” เธอบอกเขาอย่างสุภาพในฐานะรุ่นน้องในบริษัท ในใจพลางนึกค่อนขอดเขาอยู่

‘ทำหน้าระรื่นไปเถอะ อีกไม่กี่วันคุณต้องอกหักจากผู้หญิงคนนั้น แล้วจะยิ้มไม่ออกไปอีกนานเลย…งั้นทำดีกับเขาหน่อยก็แล้วกัน’

“เดี๋ยวฉันชงกาแฟให้นะคะ” เธออาสาชงกาแฟให้เขา แล้วเปิดตู้วางแก้ว นำแก้วกาแฟของเขาออกมาชงกาแฟให้กับเขา

เธอตักกาแฟสองช้อนครึ่ง ตามด้วยน้ำตาลอีกสองช้อน และนำครีมเทียมมาเทใส่อีกสามช้อน ทำให้ภควัฒน์ประหลาดใจที่เธอรู้ว่าแก้วกาแฟของเขาคือใบไหน และชงสูตรที่เขาชอบ

“เสร็จแล้วค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” เธอบอกเขาแล้ววางแก้วกาแฟของเขาเอาไว้ ก่อนจะเดินจากไปโดยที่เขายังไม่ทันขอบคุณเธอเสียด้วยซ้ำ

“คุณรู้ได้ไงนะว่าผมชอบดื่มกาแฟสูตรนี้” เขาพึมพำด้วยความสงสัย แต่ก็คิดว่าเธอคงเป็นหนึ่งในคนที่แอบชอบเขาอยู่

หลังจากนั้นไม่นานภควัฒน์ก็เข้าสู่โหมดโสด เขามาทำงานด้วยท่าทางที่ซังกะตาย พยายามแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน แต่อาการหงุดหงิดและเซื่องซึมนั้นก็ทำให้คนอื่นดูออก

อีกทั้งสถานะในโซเชียลของเขาที่ถูกแฟนสาวลบรูปคู่ออกทั้งหมด แล้วในหน้าฟีดข่าวของอีกฝ่ายขึ้นสถานะกำลังคบหากับคนใหม่ เท่านี้ก็การันตีได้แล้วว่า ‘เขาโสดเพราะถูกเธอทิ้ง’

สาวๆในสำนักงานที่แอบชอบเขามาตั้งนานแล้วก็ถือโอกาสนี้ขายขนมจีบให้เขาเป็นการใหญ่ ยกเว้นบัวชมพูที่เธอไม่พยายามเข้าใกล้เขาในตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าในยามที่หัวใจเขาอ่อนแอ ความดีของเธอที่ห่วงใยเขาจะทำให้เขานั้นมีใจให้กับเธอ

**********************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel