ep3
“ให้ฝนช่วยอะไรไหมคะ”
“ช่วยหยุดตกได้ไหมครับ” อัฒกรล้อเลียนขำๆ
“เอ่อ..”
“เราเดินเข้าไปอีกไม่ไหลจะมีบ้านคนรู้จักของผมอยู่ คืนนี้ผมอยากให้คุณไปพักที่นั่นกับผมก่อน เพราะคงเราเดินทางกันไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ถ้าฝนหยุด ผมจะกลับมาแก้ปัญหาเอารถขึ้นจากหลุม แล้วยังไงผมจะพาคุณกลับเข้าเมืองนะครับ”
“รถคุณโฟร์วีลไม่ใช่หรือคะ” พิรุณทิพย์ถามอย่างหวาดๆ
“ใช่รับ แต่หลุมมันกว้างและลื่นเกินไปตะกายไม่ขึ้นครับ ดินอ่อนเพราะน้ำขังด้วย”
“เหตุสุดวิสัยนะคะ ฝนแล้วแต่คุณก็แล้วกัน”
พิรุณทิพย์ยอมรับกับโชคชะตาที่เกิดขึ้นตรงหน้า รอบข้างมืดไปหมดจนไม่เห็นว่าจะมีบ้านใครอยู่ ส่วนอัฒกรลงจากรถเข้าไปเปิดท้ายรถค้นหาอะไรกุกกักอยู่ชั่วครู่ก็เดินมาเปิดประตูข้างหญิงสาว
“มาเถอะครับ นี่ครับไฟฉาย ผมมีไฟฉายสองกระบอกแต่มีร่มคันเดียว คุณถือร่มกับไฟฉายเดินตามผมมานะครับ”
“งั้นคุณก็เปียกคนเดียวสิคะ”
“คุณจะเปียกเป็นเพื่อนผมหรือครับ”
อัมกรยิ้มร่า แล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวแดงซ่าน แม้ในความสลัวๆ กับแสงจากไฟฉาย
“ลงมาเถอะครับ เดี๋ยวผมจะดับเครื่อง ปิดไฟหน้ารถแล้วไม่ต้องห่วงนะครับ เดินไปไม่ไกล”
“ค่ะ” พิรุณทิพย์รับร่มกับไฟฉาบมาถือไว้ เธอกางร่มแล้วเดินตามเขาไปเพื่อบังฝนให้ด้วย แม้เนื้อตัวของเขาจะเปียกโชกแล้วก็ตาม
อัฒกรดับเครื่องยนต์ ล็อครถเรียบร้อยแล้วหันกลับมามองหญิงสาวที่ยืนคอยอยู่ในระยะใกล้ชิด เพราะเธอต้องการกางร่มให้เขาด้วย ชายหนุ่มยิ้มอยู่ในหน้าด้วยความสุขเล็กๆ ก่อนจะพยักหน้าให้เธอเดินไปพร้อมกับเขา
อัฒกรพาหญิงสาเดินลัดเลาะมาตามเส้นทางเล็กๆ ท่ามกลางฝนที่หล่นพรำลงมาไม่ขาดระยะ เพียงอึดใจเดียวก็เห็นเงาตะคุ้มๆ ของบ้านไม้ใต้ถุนสูงอยู่หลังหนึ่งตรงหน้า เขารีบพาหญิงสาวเข้าไปหลบฝนอยู่ใต้ถุนก่อนตะโกนเรียกเจ้าของบ้าน
“พี่โย่งครับพี่โยง”
เขาตะโกนเรียกเจ้าของบ้านเหมือนรู้จักดี
“ใครวะ มาตะโกนเรียกดึกๆ ดื่น”
เสียงตะโกนตอบลงมาอย่างขุ่นเขียว แสงไฟจากหลอดกลมแรงเทียนน้อยสว่างพรึ่บขึ้นจากใต้ถุนบ้าน ก่อนที่เจ้าของบ้านจะส่องหน้าลงมาจากบันไดพร้อมปลายกระบอกปืนลูกซองยาว
“ผมเองครับ อัฒกร”
ชายหนุ่มรีบรายงานตัวกลั้วเสียงหัวเราะ
“อ้าวคุณอัฒเองหรอกหรือ? มายังไง ไปยังไงครับ แล้วเอารถไปจอดไว้ที่ไหนเสียล่ะ”
พี่โยงหรือนายโย่งรีบลงมาจากบันไดแล้วยกมือไหว้อัฒกร สีหน้าแววตาตื่นเต้นที่ได้พบ
“จอดติดหล่มอยู่บนถนนโน่นล่ะ ฝนท่าจะตกอีกนานเลยว่าจะมาขออาศัยพี่โย่งนอนพักสักคืน พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่”
“ไม่มีปัญหาเลยครับ ว่าแต่คุณอัฒจะไปไหนละครับ ทำไมถึงมาทางนี้”
นายโย่งสอดสายตามองไปยังหญิงสาวและเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น รู้อยู่ว่าฝนตกหนัก หากแต่ถ้าฝนตกหนักขนาดนี้ก็ไม่ควรจะมาเส้นทางนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะลำบากกว่าถนนลาดยางด้วยซ้ำ ทั้งยังเสี่ยงกับการติดหล่มกับดินลูกรังอ่อนๆ และชุดที่หญิงสาวสวมใส่ก็ดูหรูหราเกินกว่าจะมาเที่ยวธรรมชาติที่ควรแต่งกายทะมัดทะแมงกว่านี้
“ผมจะเข้าตัวเมือง แต่บังเอิญว่าสะพานเส้นหลักมันทรุดตัวเพราะน้ำป่ามันพัดท่อนไม้ไปกระแทกคอสะพาน เขาห้ามผ่านผมก็เลยต้องมาเส้นนี้”
“อ้อ แล้วนั่นพาใครมาด้วย เมียคุณอัฒหรือเปล่า แหม...ไม่เจอกันนาน ผมไม่ยักรู้ว่าคุณอัฒมีเมียแล้ว”
“ด้วยนายโย่งใส่ผ้าขาวม้าผืนเดียว เปลือยท่อนบนอยู่แล้วลอบมองหญิงสาวไม่วางตา ทำให้พิรุณทิพย์หวาดกลัวจนต้องแอบเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังของอัฒกรแถมเอามือเกาะแขนของเขาไว้แน่น
“ครับ”
อัฒกรรับสมอ้าง พร้อมเอื้อมมือมากุมมือหญิงสาวไว้อย่างปลอบประโลม
“แหม...สมกันเลยนะครับ คนหนึ่งสวย คนหนึ่งก็หล่อ เชิญครับเชิญ ขึ้นบ้านก่อนแล้วนี่กินข้าวกินปลามาหรือยัง?”
“คุณหิวไหม?” เขาหันมาถาม
“ไม่ค่ะ”
หญิงสาวปฏิเสธ ทำให้ชายหนุ่มปฏิเสธเจ้าของบ้านไปด้วย
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอกครับพี่โย่ง ผมขอชุดสำหรับให้แฟนผมเปลี่ยนสักชุดก็พอ ใส่อย่างนี้นอนเดี๋ยวจะไม่สบาย”
อัฒกรหันไปบอกเจ้าของบ้านระหว่างที่เดินขึ้นไปด้านบน เขาไม่ได้ละเลยหญิงสาว จับสังเกตกระทั่งว่าตัวเธอก็เปียกปอนพอๆ กับเขา เพราะร่มที่มีอยู่คันเดียวแต่ก็ยังเผื่อแผ่มาถึงเขาที่ตัวโตและสูงกว่า ทำให้ทั้งเขาและเธอต่างเปียกปอนไปด้วยกันทั้งคู่
“ขอบคุณค่ะ”
พิรุณทิพย์พึมพำขอบคุณเบาๆ อาการครั่นเนื้อครั่นตัวเริ่มเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็เกรงใจเจ้าของบ้าน หากจะขอยาแก้ไข้ทานอีก จึงได้แต่ฝืนไว้
