บท
ตั้งค่า

บทที่ ๑ ชีวิตเมียหมอ

           เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของร่างสูงใหญ่ เคลื่อนขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แสงจันทร์นอกหน้าต่างที่ถูกเปิดม่านเอาไว้ลอดเข้ามาภายในจนเห็นเงาสองร่างเลือนราง

ศีรษะเรียวได้รูปค่อยๆ ขยับเคลื่อนไหวผงกขึ้นมามองร่างสูงเชื่องช้า เขาตะแคงข้างให้เธอแบบนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หากแต่ลมหายใจสม่ำเสมอของเขาและจังหวะเต้นของหัวใจ มิอาจรอดพ้นคนรอจังหวะอย่างเธอไปได้

พิลาเรศหรือพิกเล็ท ค่อยๆ เคลื่อนร่างเล็กในชุดนอนวาบหวิวออกจากผ้าห่มผืนบางเป็นมันวาวของตัวเอง เพื่อขยับเข้าสู่ผ้าห่มนวมหนาที่คลุมร่างสูงที่เธอปรารถนาจะกกกอดให้แนบชิดมาหลายหน หากแต่ก็เป็นฝ่ายผล็อยหลับไปก่อนเขาแบบตายสนิทจนน่าโมโหตัวเอง

“อืม...” เสียงคำรามจากลำคอแกร่ง ที่เธอสุดแสนจะอยากลูบไล้ลูกกระเดือกเขาเล่นทุกทีที่ได้เผชิญหน้า ทำเอามือสาวที่กำลังจะคว้าหมับเข้าที่บั้นเอวสอบ...ต้องกำชะงักเอาไว้เสียก่อน

ไม่เคยจะคาดคิด...หมับ!

“อื้อ...” ร่างสูงพลิกกายหันมาเผชิญหน้าตามประสาคนหลับใหลไม่รู้เรื่อง หากแต่คนตื่นดีกลับต้องหลับตาพริ้ม เมื่อระดับศีรษะของเธออยู่ในระดับเดียวกับลมหายใจสม่ำเสมอของเขาที่ราดรดจรดลงมาบนใบหน้า

“อื้ม...ลักจูบซะดีไหมเนี่ย” เธอแอบบ่นมุบมิบอยู่ในริมฝีปาก พร้อมหรี่ตามองว่า...เขาหลับจริงหรือเริ่มตื่นขึ้นแล้ว

“อื้อ...หอมจัง” แม่สาวทะเล้นแอบขโมยกลิ่นหอมจากคางเนียนนุ่มที่ขยับเล็กน้อย เมื่อถูกแตะต้องเบาๆ แล้วมือน้อยที่เฝ้าคอยจะสัมผัส...ก็ย่องไต่ทีละนิ้วไปบนเอวสอบที่มีกล้ามเนื้อแน่นซุกซ่อนอยู่

ฤๅชัชหรือหมอลือ สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ สวมชุดนอนเสื้อและกางเกงแขนยาวมิดชิด อย่างกับตัวเองเป็นนางเอกในละครที่กลัวว่าจะโดนพระเอกลักหลับ เหอะ...ขอโทษนี่มันยุคสมัยใหม่แล้วสินะ เป็นฝ่ายหญิงที่ต้องมาเป็นคนลักหลับฝ่ายชายเสียเอง

พิลาเรศไม่รอช้า...ค่อยๆ แทรกฝ่ามือนุ่มเข้าไปยังใต้เสื้อหนาชวนร้อนนั่นอย่างเบามือ

“ฟึบ!” มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่มือเล็กจนเธอเบิกตากว้าง เม้มริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้ส่งเสียงโพล่งออกไป

“อย่าซนสิ ลูกพ่อ” ฟู่ว...พิลาเรศพ่นลมหายใจอย่าง  โล่งอก

“เอาวะ ยอมเป็นหมาสักวันก็ได้” เธอหมายถึงสุนัขตัวโปรดที่เขาแสนรักนักหนา ซึ่งวันนี้เธอได้กีดกันให้มันออกไปนอนนอกห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่เดี๋ยวนะ...มือฉันเหมือนอุ้งตีนหมาขนาดนั้นเลยเหรอ! เธอแอบโมโหอยู่ในใจ หากแต่ก็ต้องหักห้ามใจ...มุ่งมั่นต่อเป้าหมายที่จะได้สัมผัสชายที่เธอฝันใฝ่คะนึงหามาตลอดตั้งแต่รู้ว่ามีคู่หมาย

ฤๅชัชผู้ลืมเลือนไปเลยว่า...มีใครบางคนร่วมเตียงกับตัวเองมาหลายเดือน ใช้ปลายเท้าเกี่ยวกวัดไปยังเอวบางเพราะคิดว่าคือหมอนข้าง

“อุ๊บ...” คนตกใจต้องรีบปิดปากตัวเองให้แน่น แรงเกี่ยวกวัดจากลำขาแกร่งนำพาให้เธอเข้าไปแนบชิดกับส่วนสัดของเขาแทบจะทุกส่วนแบบชิดใกล้

“แม่เจ้า...จะทนไม่ไหวแล้วหนา” เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความตั้งใจที่หมายจะแค่ลวนลามสัมผัสเขาตามที่เคยต้องการมาตลอด หากแต่...กลับต้องมาข่มใจเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวเลยเถิด

“หอม...” พลันแก้มใสที่ล้างเครื่องสำอางออกจนเกลี้ยงเกลาด้วยคลีนเซอร์แบรนด์ดัง ก็แดงระเรื่อขึ้นราวกับมีคนมาแต้มบรัชออนลงไปให้อีกหน หากแสงจันทร์ส่องถึงเตียงนอนจนชัดแจ่ม...แก้มแดงก็คงจะเด่นหราลอยเด่น แข่งกับแสงจันทร์จ้าไปเรียบร้อยแน่

           มือเล็กไม่รอช้าที่จะลูบไล้จากส่วนแน่นหนัดของคลื่นบริเวณหน้าท้องที่มีกลุ่มไหมปุกปุยสากระคายมือ เล็บเจลที่เพ้นท์ลายดอกชบาเอาไว้ถึงกับอดใจไม่ไหวที่จะจิกลงบนเนื้อแน่นนั่น... ก่อนลากกด กรีดกรายขึ้นไปอย่างเชื่องช้า

“อื้อ...อย่าข่วนพ่อ” คนที่ฝันว่ากำลังเล่นกับหมาตัวโปรดส่งเสียงพร้อมขยับเล็กน้อย

“ไอ้หมาพุดเดิ้ล...ขอสวมรอยวันหนึ่งนะ” แล้วเล็บเจล  ลายดอกไม้สีแดงกลีบใหญ่ ก็ลากผ่านไปจนถึงความชูชันเม็ดจิ๋วที่ประดับไว้บนกล้ามอกที่แสนจะเนียนและนุ่มมือ

“อ๊ะ...” แต่แล้วคนที่กำลังจะจัดการกับจุดเสียวของผู้ที่หลับใหลก็ต้องเป็นฝ่ายสะดุ้งเข้าเสียเอง เมื่อแรงกระทุ้งขนาดใหญ่พุ่งมาชนตรงกับต้นขาเรียว ที่ตอนนี้ชุดนอนวาบหวิวได้ร่นจนไปกองกันหมิ่นเหม่ที่เนินน้อยคอยรัก

“อูว...ทำไมของจริงมันยิ่งกว่าจินตนาการขนาดนี้” มือเล็กอีกข้างสร้างเป้าหมายใหม่ มายังความนูนเด่นชูชันที่แทบจะทะลุกางเกงนอนตัวหนาออกมา

ทันทีที่มือเล็กสัมผัสลงไปยังความแข็งขันของมัน...เจ้าสิ่งมีชีวิตใต้กางเกงนอนนั้น ก็โผล่ศีรษะขึ้นสู้หนักเข้าไปใหญ่ จนเจ้าของร่างที่ยังนอนหลับตาเบียดตัวเข้าหาคนตกใจจนต้องกางขาออก

“อู้ว...อีกนิดเดียว ก็จะได้ป๊ะกันแหมแล้ว” ถึงจะใจกล้าแค่ไหน...หากแต่คนที่ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน เพราะรู้ว่าสามีของตัวเองจะเป็นใครมาตลอดนั้น

ก็ทำให้เธอเก็บความแรดความร่านทั้งหมดในอุ้งกำหนัดสาว รอคอยเขามาแต่เพียงผู้เดียว ณ จนบัดนี้ความฝันของเธอกำลังอยู่แค่เอื้อมแล้ว...และมันก็เป็นฝันที่กำลังจะเป็นความจริงอีกด้วย

แม้ความจริงนั้น...จะคือการสวมรอยหมาก็เหอะ!

“อาห์...” เสียงครางจากลำคอแกร่งที่กำลังปวดร้าว เริ่มผ่อนคลายลงเมื่อมือเล็กค่อยๆ ขยับเคลื่อนไหว ลูบไล้บางเบาเสียยิ่งกว่าปุยนุ่น

ใบหน้าสาวถือโอกาสส่งจมูกโด่งปลายแหลมพุ่งรั้น ซุกเข้าไปยังกึ่งกลางเสื้อนอนที่มีกระดุมปริอยู่สองสามเม็ด ความสากระคายของกลุ่มขนที่เรียงไล้ขึ้นมาตามฉบับบุรุษเพศ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางสนามหญ้าเตียน

ที่มีลมเย็นสบายโบกพัด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องชำระกายที่เขาใช้...ช่างเหมือนอโรมาบริสุทธิ์มาไหลเวียนหล่อเลี้ยงลมหายใจเธอให้แช่มชื้น

“อื้อ...” พิลาเรศส่งเสียงบ้าง หลังจากสะกดกั้นมานาน...และมือเล็กเบื้องล่างก็ไม่ได้หยุดกระทำการลงแม้แต่น้อย

“อ๊ะ!” เธอสะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกผลักจับกดลงนอนราบกับเตียงทันที พร้อมสบตากับความคมกริบที่ลืมขึ้นมาแบบตกใจยิ่งกว่า ใบหน้าที่บ่งบอกความโกรธกร่ำ...ชัดเจนแม้แสงจันทร์จะส่องมาแค่รำไร

“ทำบ้าอะไรของเธอฮะ!” เขาตวาดลั่น ราวกับว่าเธอกระทำความผิดอะไรนักหนา

“ทำไมล่ะ ก็เป็นผัวเมียกัน...จะป๊ะกันแหมมันผิดตรงไหน!” เธอโวยวายตอบ พร้อมพ่นลมหายใจใส่อย่างแสนจะสุดเซ็ง

“มันผิดตรงที่...ฉันรังเกียจเธอไง!”

“รังเกียจทำไม มีอะไรให้น่ารังเกียจ...นมก็เด้งดึ๋ง ก้นก็งอนร่อนเก่ง ไม่เชื่อก็จับดูสิ” เธอว่าพร้อมจับมือเข้าหาสิ่งที่ตัวเองกำลังพรีเซนต์

“หึย ขยะแขยง” นายแพทย์หนุ่มผู้แสนจะสุภาพ ด่าทอคำหยาบออกมาใส่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายราวกับเธอเป็นคนพิเศษ ก็แน่นอนเพราะกิริยาหยาบคายนี้...เขามีไว้มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

“คนนะไม่ใช่กิ้งก่ากิ้งกือ มารังเกียจกันอยู่ได้” จะว่าไปเธอก็แอบน้อยใจและอิจฉาไอ้เจ้าหมาพุดเดิ้ลนั่นอยู่เหมือนกัน เพราะเขาเล่นกับมันทุกวัน...แถมยังกอดยังจูบอย่างไม่รังเกียจสักนิดอีกต่างหาก

“หึ เธอมันยิ่งซะกว่ากิ้งก่ากิ้งกือซะอีก...ผู้หญิงหยำฉ่า ฉันไม่กล้าจะแตะต้องหรอก”

“นี่ฉันทนเก็บความบริสุทธิ์มาไว้ให้หมอถึง 26 ปี เพื่อที่จะมาฟังคำคำนี้เนี่ยนะ?”

“หึ อมพระทั้งวัดมาพูดก็ไม่เชื่อ”

“ไม่เชื่อก็พิสูจน์สิ อ้ารอให้พิสูจน์ขนาดนี้...จะช้าอยู่ไยล่ะจ้ะพ่อมา เร็วๆ อย่าช้า...” เธอร้องเพลงใส่เขาในตอนท้ายตามสไตล์คนมักม่วน

“ทุเรศ!”

“ขอกันดีๆ ไม่ยอมใช่ไหม ได้...แม่จะสวมบทพระเอกจำเลยรักให้ดู!” ว่าแล้วคนเลือดขึ้นหน้าก็จับคนตัวใหญ่พลิกคว่ำลง พร้อมขึ้นขี่คร่อมร่าง...คนตกใจแต่ไม่ทันได้ปัดป้อง ทัดทานแรงม้าจากผู้หญิงอย่างเธอไม่ไหว

“อย่า!” เขาร้องลั่น...พร้อมผลักไสหน้าอกนุ่มเด้งดึ๋งที่กำลังเบียดเสียดมากดทับหน้าอกเขาแบบจงใจ แต่การผลักไสนั้นเหมือนเขากำลังขยำมันเล่นซะมากกว่า

“อาห์...แรงๆ เลยจ้า ผัวจ๋า” เธอว่าอย่างแกล้งๆ เมื่อเขาทั้งผลักทั้งบีบเธอระคนกันไป

“อี๋ อย่ามาครางเสียงน่าเกลียดให้ได้ยิน!” มือใหญ่รวบรวมพลังและหัวใจให้ผลักออก แม้จะยอมรับว่าความนุ่มหยุ่นนี้ก็ทำเอาเขาแอบจะรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยก็ตาม

“ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด...” อยู่ๆ เสียงเรียกเข้าก็เหมือนมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เธอผู้กำลังโมโหได้ที่ผละออกให้เขาได้รับโทรศัพท์ยามวิกาลได้ถนัด

“ว่าไงนะครับ...ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” เขาโยนโทรศัพท์ออกจากตัวทันทีที่ตัดสินใจว่าจะรีบไป ก่อนถอดเสื้อนอนโยนทิ้งตามไปแบบไม่ไยดี แทบจะเดินกึ่งวิ่งคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ

“มีเคสด่วนเหรอ?” คนที่อยู่กับเขามาจนเริ่มเข้าใจเวลาชีวิตหมอ รีบช่วยเหลืออย่างรู้งาน...แม้เธอจะไม่ทราบหรอกว่า  ไอ้กระเป๋าถือที่เขายกไปยกมาระหว่างบ้านกับที่ทำงานทุกวัน คืออะไร แต่เธอก็รีบจัดแจงมาเตรียมไว้ให้เขาอย่างรู้หน้าที่ แม้เขาจะไม่ได้สนใจตอบคำถามเธอเลยก็ตาม

           “ไม่ต้องมายุ่ง” เขาว่าเมื่อเข้าสู่โหมดงานจริงจัง คนเตรียมเสื้อผ้าไว้รอ หน้าจ๋อยลงเพียงคู่...แต่ก็หาได้ถือสาคำด่าจากเขาไม่

“ทาครีมไปเหอะ เดี๋ยวช่วยใส่เสื้อให้” คนแสนดื้ออย่างเธอ ก็ไม่ยอมทำตามที่เขาบอกเช่นกัน...ด้วยความรีบทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะมาต่อล้อต่อสู้กับเธอได้เต็มที่นัก ก็เลยปล่อยให้เธอช่วยไปอย่างที่ตั้งใจ

“ดื่มกาแฟซะหน่อย จะได้สดชื่น...แล้วก็ขออาสาขับรถไปส่งเอง จะได้งีบระหว่างทางไปด้วยได้”

“ไม่ต้องยุ่ง” เขาย้ำอีกหน

“คุณหมอคะ ถ้าคุณขับรถเองมันจะไม่ปลอดภัยและอาจจะไปช่วยเหลือคนไข้ไม่ทัน เพราะฉะนั้น...ดิฉันจะทำหน้าที่เป็นสารถีให้เอง” แววตามุ่งมั่นของเธอ ทำให้เขารู้ดีว่า คงจะขัดความยุ่งยากนี้ไม่ได้

“ไปเปลี่ยนชุด”

“ไม่ต้องหรอก ใส่ชุดคลุมไป ไม่ลงรถไปไหนอยู่แล้ว...รีบไม่ใช่เหรอไปกันเหอะ!” แล้วเขาก็ปลิวตามแรงเธอไป แบบที่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดกระป๋องกาแฟ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel