บทที่ ๑๖ ผัวสั่งเซ็นเซอร์
‘เด็กเสี่ยอาการโคม่า หลังถูกรถปริศนาพุ่งชน’ พาดหัวข่าวจากเพจดังในโลกออนไลน์ กำลังลือกันไปต่างๆนานากับตัวย่อที่รายละเอียดข่าวใช้
“ใช่เคสที่เรารับหลังผ่าตัดมาเมื่อคืนไหมแก?”
“น่าจะนะ...เพราะเคสนี้ มีหุ้นส่วนท่านหนึ่งในโรงพยาบาลเราออกค่าใช้จ่ายให้หมดเลยด้วย”
“ดีนะที่ไม่เสียโฉม ไม่พิการ...ว่าแต่เป็นฝีมือใครอ่ะ”
“เขาว่า...น่าจะเป็นเด็กในสังกัดเสี่ยที่อิจฉากันมั้ง อันนี้อ่านจากคอมเม้นมาอีกทีนะ”
พยาบาล ICU จับกลุ่มคุยกันแบบกระซิบกระซาบ...หากแต่คนที่ทำเป็นไม่สนใจ กลับได้ข้อมูลไปมากโข...
แล้วไอเดียดีๆก็ปรากฏแวบขึ้นมาในหัว...จนต้องเผยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ตายแล้ว! ข่าวบ้าอะไรของคนพวกชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านเนี่ย!” โพนี่โวยวายลั่น จนพลุแตกต้องวิ่งมาดูข่าวที่เธอกำลังถืออ่านอยู่
“มีข่าวเสียหายมากกว่าที่ยัยเพลินเป็นเด็กเสี่ยอีกเหรอ?”
“หนักกว่านั้นอีก...หาว่าเจ้พิกเคยเป็นนางเอกหนังโป๊ แถมรูปที่เอาลงก็เป็นสมัยที่เจ้แกไปเต้นโคโยตี้แทนยัยเพลิน เพราะว่ายัยเพลินไม่สบายอีก”
“แต่นั่นมันก็แค่ครั้งเดียวเองนะเว้ย นี่มันกะขุดพวกเราทั้งวงเลยนี่” พลุแตกคว้าโทรศัพท์เพื่อนไปอ่านรายละเอียดข่าวทันที
“นี่ขนาดพวกเราไม่ได้ดังนะ ยังทำให้น่าสนใจได้ขนาดนี้”
“พวกมันต้องการอะไร?”
“หรือว่า...คนที่ตั้งใจจำร้ายยัยเพลิน คือคนเดียวกับพวกปล่อยข่าว” สองสาววิเคราะห์เรื่องราวไปมาด้วยความสับสนหนัก เมื่อวงดนตรีลูกทุ่งเล็กๆอย่างพวกเธอ ไม่เคยมีปัญหาเดือดร้อนกับใคร
ยิ่งเพลินเพลงยิ่งแล้ว...เธอไม่เคยมีปัญหากับใคร เสี่ยที่ใครๆพูดถึงก็คือคนที่ตามจีบเธออยู่ แต่เธอไม่ได้สนใจ...แม้เขาจะเป็นเสี่ยที่ร่ำรวยและยังหล่อเหลาอยู่ก็ตาม
หากจะมีใครสักคนตั้งใจทำร้ายเธอ...ก็คงจะเป็นพวกเด็กเสี่ยคนอื่นๆที่อิจฉาริษยามากกว่า
แต่...ถึงกับต้องทำกันถึงตายเลยเหรอ!
“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้มาใหม่ถามเสียงเรียบ
“เจ้!!” สองสาวประสานเสียงอย่างพร้อมเพียง
พวกเธอไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ‘เจ้’ ต้องมารับทราบเรื่องเครียดเพิ่มอีก เพราะว่าเธอเพิ่งจะช็อคเรื่องข่าวอุบัติเหตุของลูกน้องในวงที่เธอรักที่สุดไป
“ดูอะไรกันอยู่ ขอเจ้ดูหน่อย” น้ำเสียงทรงพลังนิ่งนี้ มักจะทำเสมอเวลาที่เรื่องงานในวงมีปัญหา แล้วเธอก็สามารถแก้มันได้สำเร็จในทุกครั้ง
เจ้าของเล็บสีชมพูเข้มที่เพิ่งจะทามาใหม่ๆ รับกับสีลิปสติกที่ทาเข้ากัน ยื้อแย่งโทรศัพท์ในมือของคนที่ไม่ยอมตอบ
อย่างถือวิสาสะ!
“คือว่า...” โพนี่มองตามโทรศัพท์ที่เพิ่งถูกแย่งไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
ฤๅชัชไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว ก็เลยมาส่งเธอถึงที่นี่ เพื่อหวังให้มีคนอยู่เป็นเพื่อน เพราะตอนนี้เพลินเพลงยังไม่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมไข้
“บ้าที่สุด ใครเป็นคนปล่อยข่าวบ้าๆนี่!”
“พวกเราไม่อยากให้เจ้เครียด ก็เลย...”
“คิดจะปิดบังเจ้ อย่างนั้นน่ะเหรอ?”
“โถเจ้ พวกเขียนข่าว...ก็เขียนมั่วไปเรื่อย หากินบนปัญหาคนอื่น เจ้อย่าไปสนใจเลยนะ” พลุแตกรีบพยามเกลี้ยกล่อม คนที่กำมือแน่นขึ้นอย่างโมโห
“คิดเหรอว่าวงโนเนมอย่างพวกเรา จะบังเอิญถูกขุดข่าวขึ้นมาลอยๆ เล่นๆ?” ส่ายหน้าตอบให้อย่างพร้อมเพรียง
“มันต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องราวบ้าๆนี่อย่างแน่นอน” พิลาเรศขบคิดอย่างเดือดดาล
“แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงล่ะเจ้ ว่าใครที่มันอยู่เบื้องหลัง!” โพนี่ลั่นคำถามออกมาอย่างลืมตัว จนพลุแตกต้องดึงแขนเตือนสติ
“ฮัลโหล อีพีชเหรอ...กูมีงานให้มึงช่วย” แล้วอยู่ๆอีกสองสาวก็ฉายแววตาดีใจออกมาอย่างนึกได้ เมื่อได้ยินหัวหน้าวงต่อสายถึงคนชื่อนี้
“อือ ดีมากที่แสนรู้...งานนี้ กูอัดฉีดไม่อั้น” ครานี้ หัวหน้าวงสาวสวมคราบเจ้ใหญ่เข้าไปเต็มที่ หึมาเล่นกับใครไม่เล่น...มาเล่นกับพิลาเรศ แห่ง ‘วงพริกร้อยเม็ดว่าเผ็ดแล้ว’
“เจ้ เจ้มีเงินเหรอ?” โพนี่ขมวดคิ้วโพล่งคำถามที่ไม่ทันไตร่ตรอง จนพลุแตกต้องตักเตือนเข้าให้อีกรอบ
“ไม่มีหรอก”
“อ้าว แล้วไหนบอกว่าไม่อั้นไง?” เป็นฝ่ายพลุแตกซะเองที่ต้องโพล่งถามออกมาอย่างตกใจแทน
“แต่ผัวเจ้มี” แล้วคนที่สามีให้เงินเดือนใช้ และวงเงินบัตรเครดิตและบัตรเงินสดให้ไว้ใช้จ่ายแบบมากโข ก็ยืดอกภูมิใจ...จนเหล่าลูกน้องสาวต้องคุกเข่าสั่นมือใหญ่ อย่างเต็มสเต็ป! และพากันหัวเราะลั่น จนลืมไป...ว่ากำลังทุกข์เรื่องอะไรกันอยู่
“บ้าจริง!” ฤๅชัชมองภาพที่ถูกส่งมาให้ดู พร้อมถอนหายใจซ้ำๆ ตอนนี้ข่าวที่เพิ่งถูกปล่อยเกี่ยวกับภรรยาสาว กำลังได้รับความสนใจ...และขุดคุ้ยหาภาพยนตร์โป๊ที่ในข่าว
อ้างว่าเธอเคยถ่ายมาก่อน!
“ภรรยาลือนี่ไม่ไหวเลยนะคะ ทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ได้...แล้วนี่ จะเสียหายมาถึงนามสกุลที่เขาใช้หรือเปล่า?” คนที่ทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจคาบข่าวมาบอก ว่าอย่างเป็นห่วง...ระคนไม่สบายใจ แม้ในตากำลังจะพราวระยับ
“เรื่องมันนานมาแล้ว ถ้าไม่มีหลักฐานจริงๆ คนปล่อยข่าวอาจจะถูกฟ้องได้” คำพูดมั่นคงนั้น...ทำเอาแววตานิ่งกระตุกวูบ
แทนที่เขาจะโกรธหรือรังเกียจเหมือนที่เคยแสดงออก กลับทำเหมือนจะหาทางปกป้องภรรยาเข้าเสียอย่างนั้น!
“แล้วถ้ามันมีหลักฐานขึ้นมาละคะ?”
“เห้อ มีแต่เรื่องจริงๆ” เขาถอนหายใจพร้อมลุกขึ้นจนเต็มความสูง โชคดีที่วันนี้เขาไม่มีตรวจคนไข้ช่วงบ่าย...ไม่งั้นอาจไม่มีสมาธิที่จะทำงานต่อแน่ๆ
ข้อความจากภรรยาสาวที่บอกว่าไม่ต้องไปรับ เพราะเธอจะไปธุระเรื่องลูกน้องต่อ ทำให้เขาใจจดจ่อ...ที่อยากจะรู้ว่าเธอจะจัดการปัญหาที่เขาเองก็ไม่มั่นใจว่า เธอเคยสร้างเอาไว้ในอดีตเป็นความจริงหรือไม่
เขายอมรับ...ว่าเขาเชื่อ ว่าเธอคงจะไม่เคยไปถ่ายภาพยนตร์โป๊มาจริงๆ แต่ถ่ายแบบนู๊ด...เขาไม่มั่นใจ
‘หุ่นเมียแกเนี่ย เซ็กซี่มาแต่ไหนแต่ไรจริงๆเลยนะเว้ย’ ทศพลส่งข้อความพร้อมภาพถ่ายหลักฐาน มาให้
จนสันกรามขาวๆขบแน่นราวกลับจะทัดทานอารมณ์ใดๆเอาไว้ไหว
เขาไม่ได้อับอาย...หากแต่เขากำลังหวง!
แม้ภาพที่กำลังแพร่อยู่ตอนนี้ จะเป็นภาพเซ็กซี่ กับคลิปที่เต้นโคโยตี้ นั่นเขาก็ไม่พึงพอใจที่จะให้ใครมาเห็นภรรยาของเขาในสภาพนี้
มนกานต์คาดหวังว่า...ข่าวเสียหายนี้ จะทำให้ฤๅชัชนำเหตุผลนี้ไปเสนอขอหย่าขาดจากภรรยาที่เขาไม่อยากจะแต่งงานด้วย
หากแต่...เขาไม่ยอมทำเช่นนั้น!
“ทำบ้าอะไรของลือเนี่ย!” พิลาเรศผู้เหนื่อยล้าจากการวิ่งเต้นเรื่องข่าวโครมๆในโลกออนไลน์ กลับเข้ามาถึงห้องนอนแล้วก็ต้องใจหายวาบ
เมื่อเสื้อผ้าเต็มตู้ของเธอกำลังถูกจับออกมาโยน...พร้อมยัดใส่ถุงเตรียมที่จะเอาไปทิ้งลงถังขยะ ซึ่งคนที่กำลังกระทำการไม่ปราณีชุดเซ็กซี่ทั้งหมดอยู่นั้น
ไม่ใช่ใครที่ไหน
นายแพทย์ฤๅชัช! สามีตามกฎหมายของเธอนั่นเอง!
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ใบหน้าคมขาว หันมองใบหน้าตกใจของผู้มาใหม่เพียงครู่ ก่อนคว้าเศษผ้าในสายตามายัดลงถุงต่อแบบไม่สนใจ
“บอกให้หยุดไง!” เธอโน้มศีรษะของเขาลงมาจูบเข้าที่ริมฝีปากหวังจะขู่
หากแต่ผู้ถูกกระทำ...กลับสนองด้วยการจูบตอบแบบจาบจ้วง ริมฝีปากที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด เพื่ออธิบายเหตุผลแห่งการกระทำ
ขบเม้มริมฝีปากเธอรุนแรงอย่างลงโทษ!
คนที่ตั้งใจจะเป็นฝ่ายหยุดการกระทำของเขา...ต้องเป็นฝ่ายชะงักถอยแบบตกใจแทน
“อื้อ!” เธอประท้วงลั่น...เมื่อเรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาในโพรงหวาน ช่างดุดัน ดูดดุนและเผ็ดร้อน
ไรฟันขาวขบเม้มลงบนความอ่อนนุ่มและบางเฉียบของริมฝีปากสีชมพูสดของเธอแบบไม่ปราณีปราศรัย
นี่โชคดีนะที่ลิปสติกที่เธอใช้...ติดทนจนอยากจะไปเป็น พรีเซ็นเตอร์เอง ไม่ได้หลุดติดริมฝีปากเขาไปด้วย!
“ใครกันแน่ที่ทำบ้า!” เขาตอบให้ หลังจากที่จูบจนเธออ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอด พิลาเรศหูอื้อไม่อยากจะเชื่อ...ว่าตอนนี้สามีผู้อบอุ่นในค่ำคืนที่ผ่านมา
ได้กลายเป็นพระเอกจำเลยรักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
“ช้าก่อนค่ะผัวขา...ดิบได้ใจเมียมาก แต่ว่าเมียยังไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าผัวโกรธอะไรเมีย?” คนที่ทำเป็นติดตลก...ลูบไล้ใบหน้าแดงกร่ำโกรธขึ้นของเขาอย่างค้นหา
แววตากลมโตจากการแต่งแต้มด้วยอายไลเนอร์ยี่ห้อดัง ทำเอาเขาต้องถอนหายใจ พร้อมผลักเธอออกเล็กน้อย
“ไปสร้างเรื่องอะไรไว้ล่ะ” เขาเฉลยแบบไม่ยอมมองหน้า ก่อนเดินหันหลังไปจัดการกับเสื้อผ้าน้อยชินของเธอต่อ ซึ่งมันมากมายเหลือเกินสำหรับเขา
“หือ? สร้างเรื่อง...สร้างเรื่องอะไรคะ?”
“อยู่บนเขาเหรอ สัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงมือถือหรือยังไง?”
“อ้อ นึกว่าเรื่องอะไร...ถ้าเป็นข่าวโครมลอยนั่นเนี่ย เมียอธิบายได้ค่ะ ถ้าผัวจะถาม... แต่เหล่าชุดเซ็กซี่ของเมียพวกนี้ มาเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ?” เธอรีบไปยื้อจีสติงลายเสือที่อยู่ในมือเขา ออกมาทันควัน
“ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีกต่อไป ฉันไม่อนุญาต!”
“โอ้ โนว...ใครขออนุญาตไม่ทราบคะ!” ลั่นตอบแบบไม่ยอมแพ้ เธอโตมากับชุดแบบนี้ ถ้าเธอไม่ได้ใส่เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกันเล่า!
“ถึงขอ ก็ไม่ให้ใส่...มีปัญหาอะไรมั้ย?”
“ร้อยวันพันปี ไม่เคยมาสนใจ...อยู่ๆมาสนใจเพราะว่าข่าวที่ถูกนั่งเทียนเขียนเนี่ยนะคะ!”
“ภาพและเสียงที่แสนจะยั่วเย้าขนาดนั้น...ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็จะมีแต่คนมองความนุ่งน้อยห่มน้อยของเธอเป็นตาเดียวกันหมด เธอไม่อายแต่ฉันอาย!”
“ช่างพวกมันประไรสิ พิกไม่แคร์อยู่แล้วค่ะ”
“แต่ฉันแคร์!” ด้วยความโมโหที่ทวีคูณขึ้นรวดเร็ว ทำให้เขาเขวี้ยงเสื้อซีทรูของเธอทิ้งไปแบบไม่รู้ทิศ ก่อนย่างสามขุมเข้ามาหา
ถึงเธอจะดูเผ็ดแค่ไหน...แต่เมื่อความรุนแรงกำลังทำท่าจะมาเยือนเข้าให้ เธอก็ถอยกรูดทันที
“จะทำอะไรของลือคะ?” พิลาเรศที่อยู่ในชุดกระโปรงสั้นจู๋ กับเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อบางเบา จนเห็นบราเซียสีชมพูเข้มเลือนราง เปิดไหล่ข้างเดียว ดูสบายๆแต่แอบเซ็กซี่...ถูกจดจ้องมองไม่วางตา จนเธอแอบใจหาย
“เก็บเสื้อผ้าคนไปทิ้ง” สิ้นเสียงนั้น...เขาก็เข้าประชิดตัวเธอเสียแล้ว!
