17 ไม่อยากอยู่คนเดียว
“ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้” พาลินกล่าวขอบคุณเมื่อเขาขับรถมาจอดที่หน้าปากซอย
“แล้วไปดูหนังกันอีกนะ ครั้งหน้าพี่จะรีบมาให้ตรงเวลา”
“ครับ พี่อยากดูเรื่องอะไรนัดมาเลยครับ ช่วงนี้ผมว่าง”
“ไม่ไปทำงานเหรอ”
“ไม่ครับ สัปดาห์หน้าก็เปิดเทอมแล้วครับ เลยอยากพักสักหน่อย”
“งั้นค่อยนัดกันอีกทีละกันนะ”
“ครับ พี่โดมอย่าลืมไก่หลังรถนะ” พาลินรีบเตือนเพราะถ้าเขาลืมพรุ่งนี้มันคงได้กลายเป็นไก่เน่าแน่ๆ
“อือ”
พาลินลงจากรถแล้วเดินไปยังหอพักวันนี้มีหลายคนเริ่มกลับมากันบ้างแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม บรรยากาศก็เลยดูครึกครื้นเป็นพิเศษ พอเขาเดินมาถึงก็โบกมือให้ดลธรรมเพื่อให้ชายหนุ่มจะได้กลับคอนโดของตัวเอง
“ลิน ไปไหนมา กลับดึกเชียวนะ” เจหรือเจษฎาเพื่อนร่วมหอพักที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนทักทายขึ้น
“ไปดูหนังมา มึงล่ะ เพิ่งมาวันนี้เหรอ”
“อือ เพิ่งมาถึงขนของเพิ่งเสร็จกำลังจะขึ้นห้องก็เห็นมึงเดินมา พี่กันต์มาส่งเหรอ” เจษฎาเป็นรุ่นน้องคณะวิศวะจึงรู้จักกับกันต์ธีร์เป็นอย่างดี
“ไม่ใช่พี่กันต์หรอก กูเลิกกันแล้ว”
“งั้นแฟนใหม่เหรอหาได้เร็วดีนี่”
“แฟนใหม่ที่ไหนล่ะ เขาเป็นน้าชายของเด็กที่กูไปสอนพิเศษช่วงปิดเทอม ว่าแต่มึงเถอะยังไง ไหนว่าปิดเทอมจะกลับไปช่วยพ่อกับแม่ทำงาน กูเห็นนะว่ามึงอยู่กับแฟนตลอด”
“กูก็ช่วยพ่อกับแม่ไง แต่เป็นพ่อแม่แฟน”
“กตัญญูจริงๆ เพื่อนกู แล้วไปไหนแล้วล่ะแฟนมึงอะ”
“นู่นไง” เจษฎาชี้ที่หน้าปากซอยก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินถือถุงอะไรสักอย่างเข้ามา
“งั้นกูขอตัวก่อนนะ”
“อือ”
พาลินรีบเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเองเพราะไม่อยากให้เจษฎากับแฟนมีปัญหา เนื่องจากครั้งหนึ่งมีข่าวลือว่าเจษฎาเคยคิดจะจีบพาลิน พอแฟนรู้ก็เลยไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่
“พี่เจ เมื่อกี้คุยกับใคร”
“ไอ้ลินไง”
“อะไร ยังไง ไหนว่าไม่ได้ชอบแล้ว หรือรู้ว่ามันโสดเลยคิดจะจีบอีกครั้ง”
“อ้าวนี่มะเหมี่ยวก็รู้เหรอว่ามันโสด”
“คนเขารู้กันทั้งนั้นแหละ ก็พี่เขาลบรูปคู่กับพี่กันต์ออกจนเกลี้ยงไอจีขนาดนั้น ตอบคำถามมะเหมี่ยวมาก่อนว่ายังไงจะจีบใช่ไหม”
“ไปกันใหญ่แล้วพี่ก็มีมะเหมี่ยวแล้วจะไปสนใจไอ้ลินมันทำไม มะเหมี่ยวก็รู้ว่าพี่ชอบกินนมกินหอย”
“พี่เจอย่ามาทะลึ่งนะ ขึ้นห้องได้แล้ว อย่าให้มะเหมี่ยวเห็นนะว่าแอบคุยกันอีก”
“จะบ้าเหรอ หึงไม่เข้าเรื่องเลย” เจษฎาส่ายหัว เขาไม่เคยคิดอะไรกับเพื่อนคนนี้เลยสักนิด แต่ที่ลือกันไปอย่างนั้นเพราะมีช่วงหนึ่งที่เขาสนิทกับพาลินมากกว่าใคร
ดลธรรมขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดหยิบถุงไก่จากหลังรถ เดินมาจุดที่เคยเจอเจ้าสุนัขจรจัดเคยอยู่ ดีดนิ้วเรียกไม่กี่ครั้งเจ้าขนปุยก็วิ่งออกมาจากพุ่มไม้เตี้ยๆ
“ว่าไง จมูกไวเชียวนะขนุน อะพี่ซื้อมาฝาก” เขาเอากล่องไก่วางตรงพื้น แอบถ่ายรูปขณะที่มันกำลังดินอย่างเอร็ดอร่อย นั่งรอจนกระทั่งเจ้าขนุนกินจนเกลี้ยงจึงหยิบกล่องและถุงพลาสติกไปทิ้ง ดลธรรมรู้ว่ามันผิดที่แอบเอาอาหารให้กับสุนัขจรจัด แต่เขาก็อดสงสารไม่ได้
“พี่ไปก่อนนะ” เจ้าสุนัขกระดิกหางครางหงิงๆ ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในซอย
ดลธรรมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็นึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เขาเพิ่งรู้ว่าปณิชญากับภูวินทร์กำลังจะเลิกกันแล้ว ตั้งแต่เพื่อนกับอดีตคนรักแต่งงานกันไป เขาก็ไม่ได้สนใจข่าวคราวของทั้งคู่อีกเลย
ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดจะจริงจังกับปณิชญาถึงขั้นแต่งงานเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองต้องฝืนใจมากแต่ไหน ทุกครั้งที่นอนกับเธอเขามีความสุขก็จริง แต่ในใจกลับไม่เคยอิ่มเอมเลยสักนิด
มีอยู่หลายครั้งที่แอบนอกกายเธอไปนอนกับคนอื่นที่เป็นชายแต่พอตัวเองถูกนอกกายบ้างกลับรับไม่ได้ ตอนนั้นเขาจมอยู่กับความทุกข์ถึงสามเดือนเต็ม ทุกข์เพราะไม่คิดว่าคนที่เธอเลือกจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ถ้าลองกลับไปบทวนตัวเองอีกทีก็ถือว่าตัวเองมีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ซื่อสัตย์กับเธอก่อน
ดลธรรมคิดว่าตัวเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เมื่อคบกับปณิชญาแต่มันก็เป็นเรื่องยากและที่ไม่คิดจะเลิกกับเธอก็เพราะความเห็นแก่ตัวบวกกับกลัวว่าพี่ปรานต์จะไม่พอใจ
หลังจากที่ปณิชญาแต่งงานไปแล้วเขากลับมาเป็นตัวของตัวเองเต็มร้อยอีกครั้ง เขาไม่เคยคบหากับผู้หญิงคนไหนอีกเลย แต่ไม่จริงจังกับผู้ชายหรือคู่นอนคนไหน เพราะอยากใช้ชีวิตให้สนุกอย่างเต็มที่
แต่หลังจากได้เจอกับพาลินความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เขาอยากจริงจัง อย่างอยู่ใกล้อยากใช้ชีวิตร่วมกัน เหมือนว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างในตัวพาลินที่ทำให้เสืออย่างเขาอยากหยุด
เขานั่งไถมือถือไปเรื่อย เข้าไปดูว่าพาลินอัพรูปอะไรบ้างในแต่ละวันส่องทั้งเฟซบุ๊กทั้งไอจี แล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าพาลินอัพรูปตั๋วหนังที่ไปดูมาวันนี้
เห็นข้อความที่เพื่อนๆ ของพาลินมาเมนท์แล้วก็ยิ้มเพราะมีหลายคนยินดีที่พาลินมีคนรู้ใจคนใหม่ซึ่งเมื่อเจ้าตัวไม่ออกมาปฏิเสธต่างก็คิดว่ามันคือความจริง
ยิ่งเห็นแบบนั้นก็ยิ่งดีใจเพราะดูแล้วพาลินก็คงไม่ได้รังเกียจตนเอง แต่ที่ยังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะตัวเองไม่เคยบอกพาลินว่าเป็นเกย์และกำลังจีบอยู่ อีกคนก็เลยปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นพี่ชายเสียมากกว่า
ความสัมพันธ์ครั้งนี้เขาไม่อยากให้มันไปเร็วเพราะรู้ว่าอีกคนเพิ่งเจ็บมา จึงอยากให้พาลินพร้อมมากกว่านี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย เขายังเหลือเวลาใกล้ชิดกับพาลินอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะเปิดเทอม
