พันธะสวาทสามีจำเป็น

29.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
18
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะอยากหนีจากนรกที่เรียกว่าบ้าน นั่นทำให้ดอกแก้วจัดฉากว่าเธอกับเจตน์มีอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแต่แล้วสามีจำเป็นของเธอก็ลุกขึ้นมาสอบสวนเหตุการณ์แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากสามีจำเป็นจึงกลายเป็นสามีทางพฤตินัย “หนูโกหก เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน” น้ำเสียงแหบพร่าของดอกแก้วดังขึ้น ในที่สุดก็สามารถสารภาพแต่ดูเหมือนทุกอย่างมันจะสายไปแล้ว “ฉันไม่ค่อยชอบคนโกหกเสียด้วยสิ” “หนะ…หนู” เวลานี้ดอกแก้วแทบไม่กล้าสบตากับเจตน์ รู้สึกผิดที่วางแผนทำเรื่องน่าอายแบบนั้นแต่เธอไม่มีตัวเลือกแล้วจริงๆ “ใจจริงก็อยากถามว่าเพราะอะไรเธอถึงต้องทำแบบนั้น แต่เก็บเอาไว้ถามพรุ่งนี้คงไม่เป็นไร” “คุณจะปล่อยหนูใช่ไหม” ดอกแก้วเอ่ยถามอย่างมีความหวังแต่เจตน์กลับส่ายหน้าให้ “ยังสาวน้อย เธอทำให้ฉันตื่นก็ต้องรับผิดชอบสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะทรมานจนตายเอาได้” “หนูเหรอคะจะทำให้คุณทรมานจนตาย” “ใช่ ไฟสวาทมันจะเล่นงานฉันแล้วก็เธอ ฉันสัญญาว่าคืนนี้จะทำให้เธอลืมทุกอย่าง สัญญาว่าจะดูแลเธอเพราะเธอคือเมียของฉัน” น้ำเสียงของเจตน์นั้นแหบพร่าเพราะอารมณ์ราคะที่กำลังลุกโชน เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทกินไม่เลือกแต่ถ้าได้เลือกที่จะกินก็ต้องจริงจังในระดับหนึ่ง

นิยายรักนอกใจพระเอกเก่งฟินๆเลือดร้อนดราม่า

บทที่ 1

เสียงร้องไห้ที่ดังอยู่ข้างหูทำให้คนบนเตียงเริ่มขยับตัว เจตน์ลืมตามองเพดานห้องพักก่อนจะกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว พอได้สติความรู้สึกปวดหัวตุบๆ ก็เล่นงาน สงสัยเมื่อวานเขาจะดื่มเหล้าจากคนในท้องที่มากไปหน่อย เหล้าดีกรีแรงๆ ผ่านการหมักแบบบภูมิปัญญาชาวบ้านแบบนั้นคนคออ่อนแบบเขาดื่มแค่ไม่กี่แก้วภาพก็แทบจะตัด

นอกจากอาการเมาค้าง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ปลุกให้เขาตื่นก็ยังคงดังอยู่ พิกัดมันไม่ใกล้ไม่ไกลเหมือนอยู่ข้างๆ นั่นทำให้เจตน์ที่นอนตะแคงอยู่ค่อยๆ เอี้ยวตัวมอง กระทั่งเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งเข้าโดยเวลานี้เธอนอนหันหลังให้พร้อมขดตัวร้องไห้อยู่บนเตียงและใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเขา

ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เจตน์ถึงกับสบถออกมาเล็กน้อยเพราะเขาไม่ใช่คนประเภทเมาแล้วหิ้วผู้หญิงมานอนด้วยแบบนั้น อีกอย่างพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากที่เขาเมา แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก

“ฮือ ฮือ” เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนนั้นทำให้เจตน์เริ่มลนลาน ชายหนุ่มรีบลงจากเตียงแล้วคว้าเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม ก่อนจะยืนเท้าสะเอวอย่างใช้ความคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงให้ละมุนละม่อมอย่างที่สุด

“หยุดร้องไห้แล้วมาคุยกันก่อนดีไหม” เสียงของเจตน์ทำให้หญิงสาวบนเตียงหยุดร้องไห้ได้จริงๆ แต่เขาก็ยังเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอไหวจากแรงสะอื้น เขาถึงกับยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกลงมาบริเวณหน้าผาก

ขณะนั้นดอกแก้วก็ค่อยๆ หยัดตัวจากท่านอนขดมาเป็นท่านั่งแต่ยังหันหลังให้อีกฝ่ายอยู่ เธอยังคงกอดตัวเองไว้แน่นเพราะเวลานี้บนตัวไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวทุกอย่างมันยังกองอยู่ที่พื้นและทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เจตน์ก็ถึงกับหน้าถอดสี

“แก้ว” น้ำเสียงของเจตน์นั้นแผ่วเบาเพราะตกใจ ไม่คิดจริงๆ ว่าผู้หญิงที่นอนร้องไห้อยู่จะคือดอกแก้ว ลูกสาวเจ้าของรีสอร์ตที่เขาเข้าพักเมื่อสามวันก่อน

ทำบ้าอะไรลงไปวะกู

“คุณทำร้ายหนู” น้ำเสียงแผ่วเบาเต็มไปด้วยความเสียใจและผิดหวังดังมาจากหญิงสาวที่นั่งกอดตัวเองอยู่บนเตียง ภาพที่เห็นยิ่งทำให้เจตน์สับสนแต่ภายใต้ความสับสนก็คือความสงสาร เพราะตั้งแต่เกิดมาต่อให้ไม่เมาหรือเมาเขาก็ไม่เคยทำเรื่องเลวทรามแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน

“ฉันเมาจนจำอะไรไม่ได้จริงๆ ว่าทำอะไรลงไปบ้าง” เจตน์อยากแก้ต่างให้ตัวเอง แต่หลักฐานมันแจ่มชัดจนเขาเองก็พูดไม่ออก

“แต่หนูจำได้” ขณะเอ่ยน้ำตาของดอกแก้วก็ค่อยๆ ไหลอาบแก้มนั่นยิ่งทำให้เจตน์รู้สึกผิด ก่อนจะพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์แต่ก็ยังจำอะไรไม่ได้อยู่ดี

“โอเคๆ เอาเป็นว่าฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง”

“คุณจะรับผิดชอบหนูยังไง”

“เธอเป็นเมียฉันแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ค่ะ” คำพูดของเจตน์ทำให้สาวน้อยที่ใสซื่ออย่างดอกแก้วตามไม่ค่อยทัน ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อย สถานการณ์ในตอนนี้ดอกแก้วเสียหายฉะนั้นเขาต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย เด็กสาวอย่างดอกแก้วไม่ควรต้องมลทินเพราะเขา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้นรัวๆ ทำให้สองคนที่อยู่ภายในห้องสะดุ้ง โดยเฉพาะดอกแก้วที่หน้าถอดสีเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาเห็นตัวเองในสภาพแบบนี้

“คุณอยู่ไหม ถ้าอยู่เปิดประตูให้หน่อย”

“เสียงแม่นี่คะ” สีหน้าของดอกแก้วเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกซึ่งก็ไม่แพ้เจตน์เลยแม้แต่น้อย

“แม่เธออย่างนั้นเหรอ”

“ค่ะ” ดอกแก้วเอ่ยรับ นั่นยิ่งทำให้เจตน์เกิดความสงสัยว่าทำไมถึงได้เหมือนฉากในละครนัก พระเอกนางเอกได้เสียกันแล้วผู้ใหญ่สักครอบครัวหนึ่งจับได้แบบคาหนังคาเขา สุดท้ายก็ลงเอยที่การแต่งงานล้างอายหรือเขายังเมาค้างจนคิดอะไรเพ้อเจ้อ

“เปิดประตูสิคุณ ถ้าไม่เปิดฉันจะพังมันเข้าไป” เสียงของสารภียังเอะอะโวยวายอยู่นอกประตู พร้อมกับเคาะส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ข้างในเปิด

“เธอรีบใส่เสื้อผ้าก่อน”

“ค่ะๆ” ดอกแก้วเอ่ยรับก่อนจะรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม แต่มันก็ทุลักทะเลเพราะเธอเลือกจะทำทุกอย่างอยู่ใต้ผ้าห่ม เจตน์เห็นภาพนั้นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าให้ กระทั่งดอกแก้วใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เจตน์จึงเปิดประตูออก

สารภีมองหน้าแขกของรีสอร์ตตาเขม็งก่อนจะมองเลยไปยังลูกสาวตัวดีที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาแล้วเงื้อมือขึ้นสูงก่อนจะฟาดลงไปบนใบหน้าของดอกแก้วเต็มแรง

เพียะ

เสียงตบฉาดใหญ่ดังก้องในห้องพัก ใบหน้าเล็กๆ ของดอกแก้วหันไปตามแรงตบจากผู้เป็นแม่ แต่เพียงแค่ครั้งเดียวดูเหมือนจะยังไม่สาแก่ใจจังหวะที่สารภีจะเข้าไปตบซ้ำเจตน์ก็ขวางทั้งคู่ไว้เสียก่อน

“หลีกไป นี่มันเรื่องของแม่ลูก”

“ผมว่าใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดกันก่อนดีไหมครับ”

“ใจเย็นๆ เหรอ ถามหน่อยเถอะจะให้ฉันใจเย็นๆ กับเรื่องทำนองนี้ได้ยังไงกันไม่ทราบ” สารภีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่ลูกสาวคนโตทำเรื่องงามหน้าขนาดนี้

“คือว่าผม…” เจตน์เกิดอาการอ้ำอึ้งเช่นกัน

“มานี่เลยนะนังแก้ว” สารภีกระชากตัวลูกสาวคนโตที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังเจตน์เต็มแรง จนดอกแก้วตัวปลิวตามแรงนั้น เมื่อคว้าตัวได้สารภีก็ใช้ปลายนิ้วจิ้มที่หน้าผากของเธอจนใบหน้าเล็กๆ หงายไปข้างหลัง “หัวสมองนะมีไหม ทำไมแกถึงไฝ่ต่ำคว้าคนแบบนี้มาเป็นผัว”

“หนูขอโทษ” ดอกแก้วยกมือไหว้แม่พร้อมเอ่ยคำขอโทษไปด้วย

“กองคำขอโทษของแกไว้ตรงนั้น”

“แม่”

“ความร่านของแกมันทำให้ค่าสินสอดแพงๆ ที่ฉันควรจะได้จากเสี่ยหายวับไปกับตา อีนังลูกไม่รักดี” เอ่ยจบก็ฟาดฝ่ามือใส่ดอกแก้วรัวๆ เจตน์ทนดูไม่ไหวจึงดึงเธอออกมาแล้วให้หลบอยู่ข้างหลังเขาอีกครั้ง

“คนอื่นก็อยู่ส่วนคนอื่น หลีกไป” สารภียังคงตามไปตบตีดอกแก้ว ต่อให้เจตน์จะคอยขวางไว้ก็ไม่ยอมหยุดมือง่ายๆ

“แต่ผมไม่ใช่คนอื่นนี่ครับ ผมเป็นผัวแก้ว” คำพูดของเจตน์ทำให้สารภีหยุดมือแล้วจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง

“ไอ้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า ผู้ชายแบบแกน่ะเหรอจะมาเป็นลูกเขยฉัน ไม่มีวัน” สารภีตะคอกคำหยาบคายใส่เจตน์อย่างเหลืออด