บทที่ 3 กล้าได้กล้าเสีย
ทว่าขณะที่ร่างบางเดินมาถึงรถของไทม์แล้วนั้น ท่ามกลางสายตาของหนุ่มๆ สาวๆ หลายร้อยคู่จับจ้องมายังมาคัส ไทม์ เรนิส ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนๆของเธอ ต่างสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเธอ ระหว่าง ไทม์ มาคัส เรนิสเป็นเด็กของใครกัน ด้านไทม์ที่เดินมาถึงรถแล้วนั้น
“เชี่ย...มาคัส พวกไอ้ฟรอสต์ แม่งรอกูที่ร้านแล้ววะ จะไปกับพี่ไหมเรนิส” ไทม์หันมาชวนเรนิส พี่ฟรอสต์ไปด้วยกันเหรอ ไปกับพี่ไทม์ก็ซวยน่ะสิฉัน
“เรย์ไม่ไป ดีกว่าค่ะ”
“งั้นมาคัส กูฝากน้องด้วย เรนิสกลับกับไอ้มาคัสมันก่อนนะ” เอ่ยจบไทม์ก็เดินไปยังรถ โดยที่ทิ้งฉันไว้กับพี่มาคัส ให้ตายสิ อะไรของพี่ไทม์เนี่ย ถึงฉันจะรู้จักพี่มาคัส แต่ก็ไม่ถึงขั้นสนิทไม่เหมือนกับพี่หมอภีม
“ไม่เป็นไรค่ะ เรย์กลับกับเพื่อนก็ได้” ทว่าขณะที่เรนิสจะเดินไปหาเพื่อนๆของเธอนั้น ร่างบางสบตากับนัยน์ตาคมคู่ดุคู่นั้น หน้าขรึมแบบนี้ใครจะนั่งรถไปกับเขา ถึงจะอยากเจอพี่มาคัสมาก แต่แบบนี้ก็ไม่เอาหรอก เรนิสที่จะซิ่งหนีมาคัส
!! หมับ !! ทว่ากับถูกมือหนาของมาคัส คว้าเอาไว้เสียก่อน นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน
“หูหนวกหรือไง ไม่ได้ยินที่ไอ้ไทม์สั่ง มีนให้เธอกลับกับฉัน...” เสียงนิ่งปนดุเอ่ยกลับมาเช่นนั้น เรนิสถึงกับหน้าเหวอ คนหน้าขรึมดุชะมัด
“ไปขึ้นรถ อย่าทำให้ฉันต้องหงุดหงิดไปมากกว่านี้” เสียงนิ่งเอ่ยมาเช่นนั้น ร่างบางกับรีบเปิดประตู สาวเท้าขึ้นรถ แต่เธอไม่ได้นั่งหน้าข้างคนขับ ทว่ายัยเด็กดื้อตัวแสบกับนั่งข้างหลัง
“หึ...” นี้เธอเห็นเขาเป็นคนขับรถของเธอหรือไง ท่าทีของเรนิส นั้นกับยิ่งทำมาคัสหงุดหงิดหัวเสียหนักไปอีก นอกจากไอ้ไทม์จะยัดเยียดให้เด็กแก่แดดกลับกับผมแล้ว
“เออ กูยังเป็นคนขับรถ ให้เด็กนี้อีก”
ด้านเรนิสเมื่อขึ้นรถของมาคัสมาแล้วนั้น ทว่าคนที่บอกเธอขึ้นรถ ยังยืนอัดบุหรี่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อะไรของเขา” ชิ คนบ้า ชอบทำหน้าขรึมหน้าดุไปได้ ฉันรู้ว่าพี่มาคัส เขาไม่ค่อยชอบหน้าฉัน เพราะเรื่องในอดีต ฉันไปสารภาพรักเขาต่อหน้าคุณป้ามิวา ยังไงละ ตอนนั้นฉันยังเด็กแค่ 13-14 ปีเอง เด็กยังไม่รู้ความมาก ก็ถูกพี่มาคัสปฏิเสธหน้าแหกมาเลยสิ และโดนป้ามิวา น้ามิริณต่อว่าที่ไม่รักษาน้ำใจฉัน เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้ว นี้เขายังไม่ลืมอีกเหรอ
!! ฟู่...!! ร่างสูงยืนอัดบุหรี่เพื่อผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิด แต่นั้นคนที่ทำเขาหงุดหงิดยังไม่รู้ตัว แต่เธอกับนั่งเปิดกระจกทำตาแป๋วใส่เขา
“ลงมา...” มาคัส เอ่ยเสียงนิ่งปนดุ นั้นไงคิดไว้ไม่มีผิด ฉันรู้มาตลอดแหละว่าพี่มาคัส ไม่ชอบหน้าฉัน พอคอยหลังพี่ไทม์เขาจะไล่ฉันไปให้พ้นๆ ทางเขาน่ะสิ ร่างบางลงมาจากรถ
“มานั่งข้างหน้า ฉันไม่ใช่คนขับรถเธอ” ชักจะคุณหนูเกินไปแล้ว ที่เขาแข่งรถ คว้าแชมป์มาได้วันนี้ ไม่ได้แข่งมาเพื่อเป็นคนขับรถของเด็กแก่แดดแก้มแดงตาใส แถวนี้หรอกนะ
เรนิสที่คิดว่ามาคัสไล่ตนนั้น กับไม่เป็นอย่างที่คิด ร่างบางยอมเปลี่ยนที่นั่ง ทว่าขณะที่มาคัสนั่งประจำคนขับแล้วนั้น
!! พรึ่บ !! ร่างสูงกับโน้มตัวเข้าหาคนตัวเล็กขณะที่เรนิสไม่ทันตั้งตัว ในจังหวะที่มาคัสหันมา จมูกโด่งคมสันกับปักเข้าพวงแก้มแดงๆ ของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
!! อึก !! เรนิสตัวแข็งทื่อ ราวกับคนโดนสาป กลิ่นน้ำหอมจางๆ บนตัวพี่มาคัส ห้อม หอมมาก มากซะใจฉันเต้นโครมครามอย่างไม่เป็นจังหวะ นัยน์ตาคมคู่ดุสบตาคนตัวเล็กอย่างไม่ตั้งใจ
‘ใช่เหรอ ยัยนี้คือเรนิส เด็กที่เอาแต่วิ่งตามตื้อเขาเมื่อหลายปีก่อน ใช่คนเดียวกันงั้นเหรอ’ มาคัสกระตุกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ได้แต่ถามตัวเองภายในใจ แก้มกลมๆที่เคยเห็นกับหายไปไหนหมด เหลือเพียง ใบหน้าเรียวกรอบสวยได้รูป ปากอวบอิ่มอมชมพูจมูกปลายเชิด พอรวมอยู่บนตัวของคนตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้ ว่ายัยเด็กดื้อแก่แดดตรงหน้าผมนี้ ตรงสเปคไปเสียหมด มาคัสเพียงแค่เข้าใกล้เรนิส คนฟอร์มจัดเสียอาการไปชั่วขณะ
“เป็นไร หรือเปล่าคะ” เสียงหวานทำให้มาคัสได้สติ
“รถฉันมันแรง ขึ้นรถฉันทุกครั้ง เธอต้องคาดเบลท์” คนหน้าขรึมไม่พูดเปล่า แต่กับยื่นสายคาดเบลท์คาดให้กับเธอ หน้าของฉันกับพี่มาคัสใกล้กันมากๆ ซะจมูกเขาแตะที่แก้มของฉันบางเบา แต่นั้นก็รู้สึกนะ
จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปยังสนาม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กระทั่งรถของมาคัสวิ่งออกจากสนามมาได้ประมาน 10 กิโล เรนิสนี้ฉันคิดถูกหรือคิดผิด ที่กลับกรุงเทพ พร้อมพี่มาคัส ภายในรถมีเพียงเสียงเพลงที่คลอมาเบาๆ ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ
‘อึดอัดโคตร’ ฉันนั่งตัวเกร็งมาตั้งแต่รถออก ไม่ไหวแล้ว อึดอัดชะมัด ตัวเกร็ง กลัวไปหมด กลัวทำอะไรไปจะไม่เข้าตาเขานะสิ
!! ฟู่...!!
“ไหนๆ พี่ไทม์ก็ไม่ตามมาแล้ว ข้างหน้ามีปั้มน้ำมัน พี่มาคัสจอดให้ฉันลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ พี่ไทม์ไปแล้ว พี่มาคัส พี่ไม่ต้องฝืนใจ ให้ฉันติดรถพี่กลับกรุงเทพก็ได้” เรนิสที่เอ่ยมาเช่นนั้น นั้นยิ่งทำไห้มาคัสนั้นรู้สึกหงุดหงิด เขาไม่ชอบให้ใครสั่ง
“ฉันพูดตอนไหน เป็นฉันหรือไง ถึงชอบคิดแทน” เสียงเข้มปนดุ เอ่ยกับคนตัวเล็ก ยิ่งเธอบอกให้จอด แต่นั้นคนถูกเด็กสั่งกับยิ่งเร่งเครื่องยนต์
“พี่ไปส่งฉัน ก็ลำบากใจเปล่าๆ ” เออ รู้ดีไปอีก
“ถ้าไม่อยากถูกปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ ก็นั่งเงียบๆ พูดมากน่ารำคาญ” มาคัสเอ่ยอย่างตัดบท เขาไม่ชอบที่เรนิสคิดแทนเขา
ด้านเรนิสที่มาคัสดุมาเช่นนั้น ร่างบางทำตัวลีบๆเล็กๆ เอาแต่นั่งเงียบๆ มีเพียงเสียงลมหายใจของฉันเท่านั้น
‘ไม่รู้จะดุ ทำหน้าขรึมกับฉันไปถึงไหน’ ดวงตากลมเล็ก จับจ้องไปยังถนน ในเมื่อเขาไม่ให้พูด เงียบเป็นอะไรที่ดีที่สุด
เรนิสแอร์บนรถเย็นๆ บวกกับจราจรติดขัด ท่ามกลางบรรยากาศสายฝนโปรยปราย เรนิสที่ฝืนเปลือกตาที่หนักอึ้งไม่ไหว ในที่สุดคนตัวเล็กก็เผลอหลับไปเพราะดูระยะทางยังอีกไกลพอสมควร
ด้านมาคัสเบนสายตามายังคนหลับลึก ไม่ว่าผมจะปลุกยังไง
“เรนิส เรนิส” มาคัสตบเข้าที่พวงแก้มใสอมชมพู เรียกคนหลับลึกเบาๆ เรนิสยัยเด็กดื้อไม่มีท่าทีจะตื่น อีกอย่างเขาจำทางไปบ้านเด็กนี้ไม่ได้ด้วยสิ
“เอาไงดี” มาคัส แหงนมองท้องฟ้าในเวลา 2 ทุ่มกว่าๆ ทว่าอีกไม่กี่นาที ฝนคงจะเทลงมา เมื่อเป็นเช่นนั้น จากที่จะไปส่งเรนิสที่บ้านทว่าเขากับพาเธอมาที่คอนโดแทน ไม่นานนัก ฝนยังเทลงมาราวกับฟ้าขาด และอีกอย่างขืนไปส่งเรนิสคงเสียเวลาบนท้องถนนหลายชั่วโมง อีกอย่าง วันนี้ผมเองก็มีงานให้เคลียร์ ถ้ามัวแต่ไปส่งตอนนี้ กลับมางานคงไม่เสร็จไม่ทันแน่
สายตาคมเข้มเหลือบมองคนตัวเล็ก มาคัสพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก ระหว่างทิ้งเด็กนี้ กับพาเธอไปหลับต่อในห้องผม ดูเหมือนว่าเขาจะเลือกอย่างหลังแทน
“เมียก็ไม่ใช่ น้องคนในครอบครัวก็ไม่ใช่ นี้เวรกรรมอะไรของกูวะ” เพราะไอ้เชี่ยไทม์คนเดียว ปากบ่น ตวัดแขนกับตวัดคนหลับลึกนอนน้ำลายยืดเข้าคอนโด สถานที่อันหวงแหนของเขา จะปล่อยให้เรนิสนอนในรถ ก็กลัวยัยเด็กแก่แดดปากแจ๋ว จะนอนขาดอากาศหายใจ ตายในรถผมเสียก่อน
หนุ่มหล่อใบหน้าเข้มขรึมที่ไม่เคยอุ้มสาวๆ คนไหนเข้าคอนโด ทว่าบัดนี้เขากับอุ้มสาวน้อยหน้าตาน่ารัก ใบหน้าเรียวสวย ผมยาวตากลม เข้ามาในเขตคอนโดของตน แทนที่จะไปส่งเธอที่บ้านของเธอแทน
