6
Chapter 6
บ้านไม้ถูกสร้างอย่างแออัดในสลัมกรุงเทพ ผนังไม้ทาสีน้ำมันสีขาวซีดจาง เต็มไปด้วยรอยแตก ผนังบ้านแทบจะเป็นผนังเดียวกันกับบ้านข้าง ๆ ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไร คนข้างจะได้ยินเสียง
ผู้คนเดินไปมาตามพื้นปูที่ถูกทำเป็นทางเล็ก ๆ เด็ก ๆ วิ่งไล่จับตามทาง มีมอเตอร์ไซค์ขับผ่านตามทางปูน รถที่สวนมาต้องหลบตามมุมเพื่อให้รถอีกคันวิ่งผ่านไป รถคันที่หลบให้ถึงจะขับไปได้
ขวัญจิราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้อง เธอนั่งมองพระอาทิตย์ที่ใกล้ลาลับขอบฟ้าแล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ
ตะวันให้เงินเธอมาสองแสน ถ้าเขาให้มาอีก เธออาจจะไปหาบ้านหลังเล็ก ๆ ราคาไม่แพง ให้แม่กับยายได้ไปพักอาศัย ชีวิตจะได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่ถ้าหากจะพาท่านทั้งสองไปเช่าบ้านอยู่ พวกท่านไม่ไปแน่ เพราะการอยู่ที่บ้านไม้ที่สลัม ท่านไม่ได้เสียเงินเช่า ถึงจะไม่หรูหรา แต่ก็ไม่ได้เสียเงินเช่าเพื่อซุกหัว
(“จะให้ฉันไปรับ หรือจะมาเอง”) ขวัญจิราอ่านข้อความ
“ขวัญจะไปหาคุณเองค่ะ”
(“อืม ก็ได้ เจอกันที่คอนโด”)
“ค่ะ” ขวัญจิราเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้น
“แม่ทำอาหารเสร็จแล้ว ขวัญมาลองชิมแกงเลียงแม่ดู แม่เพิ่งทำเสร็จพอดี”
“พอดีขวัญมีธุระค่ะแม่”
“ธุระอีกล่ะขวัญ”
“วันนี้วันเกิดรุ่นพี่ที่แผนก ขวัญจะไปงานวันเกิดพี่เขา แม่คงไม่ว่าอะไรนะคะ ถ้าขวัญจะไป”
“ขวัญจะไปก็ไปเถอะ ขวัญโตแล้ว ดูแลตัวเองให้ดีให้ปลอดภัยก็พอ” ที่จริงก็อยากจะห้าม แต่ห้ามแล้วได้อะไร ในเมื่อลูกสาวโตแล้ว มีหน้าที่การงานที่ดี มีเพื่อนร่วมงานมีเจ้านายที่น่ารัก การที่ลูกสาวจะไปกินเลี้ยงวันเกิดกับเพื่อน ๆ ที่แผนก นางก็ไม่ควรขัดลูก
“ขวัญจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“จ้ะ” เอมมิกาพยักหน้ามองตามหลังลูกสาวอย่างห่วงใย นับตั้งแต่พ่อของลูกตาย ขวัญจิราก็เป็นทุกอย่างของครอบครัว เป็นโลกทั้งใบ เป็นดวงใจ เป็นของรักของหวงที่สุดในชีวิตของนาง ถ้าเป็นไปได้ นางอยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวมีชีวิตที่ดี
“พี่ตะวัน พวกไอ้เจษมันจ้องเล่นงานบ่อนเรา” พันแสงว่าแล้วสูบบุหรี่เข้าปอด พ่นควันขาวพวยพุ่งจนตะวันต้องเปิดกระจกรถ
“มึงรู้ได้ยังไง?”
“ลูกน้องของผมที่ให้ไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่มของพวกมันบอกมา ตอนนี้พวกมันกำลังหาทางเล่นงานบ่อนเรา เราต้องตั้งรับให้ดี”
“อืม” ตะวันพยักหน้า “มึงเตรียมตัวไว้เลย ถ้ามันซ่าข้ามถิ่นกูเอามันตายแน่ บอกไอ้ปุริมทร์ไอ้คเชนทร์คชินทร์เตรียมพร้อมเลย กูจัดการมันสิ้นชื่อแน่!” เขาว่าพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่เดินออกมาจากสลัม เป็นขวัญจิราไม่ผิดแน่ เธอมาทำอะไรที่นี่หรือว่าเธอมาหาญาติแถวนี้
“ครับพี่”
“ไอ้พันแสง คืนนี้แข่งรถไหมวะ”
“ก็ดีนะพี่ ผมคันตีนอยากแข่งมาก”
“คืนนี้ไปแข่งรถกัน”
“ครับ”
“งั้นมึงกลับไปก่อน กูจะไปหาลูกน้องแถวนี้สักหน่อย”
“ครับ” พันแสงพยักหน้ารับคำ ตะวันเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินไปอีกทาง พอรถน้องชายไปลับตาเขาก็เดินตรงไปหาขวัญจิรา
“มาทำอะไรที่นี่”
“คุณตะวัน” ขวัญจิราแปลกใจไม่น้อยไม่คิดว่าเธอจะได้เจอตะวันที่นี่
“ฉันถามว่ามาทำอะไรที่นี่ มาเยี่ยมญาติเหรอ?”
“เปล่าค่ะ บ้านขวัญอยู่ที่นี่” เธอตอบอย่างไม่อาย บ้านของเธออยู่ที่นี่ เธอโตมาจากที่แบบนี้ มีห่างไปบ้างก็ตอนไปเรียนมหาวิทยาลัย เธอต้องไปเช่าห้องอยู่ใกล้ ๆ เพราะระยะทางจากบ้านกับมหาวิทยาลัยมันไกล
“บ้านเธอ!” ตะวันอึ้งไม่น้อย ก่อนจะมองไปด้านใน สลัมที่ขวัญจิราอยู่เป็นสลัมขนาดใหญ่ มีทางปูนเล็ก ๆ เข้าไปด้านใน มีบ้านหลายหลังอยู่กันอย่างแออัด
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า “คุณตะวันให้ขวัญไปหามีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ก็ไม่มีอะไร ไปเถอะ ไปขึ้นรถ” เขาดึงแขนขวัญจิราให้เดินตามไปที่รถแท็กซี่ที่จอดว่างเอาไว้ เพราะผู้โดยสารเพิ่งลงจากรถ
“ไปคอนโดพีพิวครับ”
“ครับ” โซเฟอร์พยักหน้าแล้วขับรถพาทั้งสองไปส่งที่คอนโด
ขวัญจิราก้มหน้าเดินตามตะวันอย่างรักษาระยะห่าง เธอไม่ต้องการให้คนภายนอกรู้ หรือเป็นที่สังเกตว่าเธอกับตะวันมีความสัมพันธ์มากกว่าเจ้านายลูกน้อง
“หิวไหม?” ตะวันแตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้อง
“หิวค่ะ” เธอตอบตามตรง ก่อนออกมาเธอยังไม่ได้รับประทานอาหาร ตอนอยู่ข้างทางเธอกะว่าจะซื้ออะไรรองท้อง แต่ตะวันเรียกเธอเสียก่อน
“เดี๋ยวสั่งอาหารให้” ตะวันหยิบโทรศัพท์ออกมากดอาหาร ขวัญจิรามองเสี้ยวใบหน้าคมของชายหนุ่มอย่างแปลกใจ ตอนนี้เขาอบอุ่นอ่อนโยนแต่ตอนอยู่บนเตียง เขากลับเร่าร้อนรุนแรง บางครั้งเธอนึกว่าจะตายเพราะบทรักของเขา “อย่ามัวแต่จ้อง อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”
“อะ…อะไรก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดตะกุกตะกักอย่างเสียอาการ
“งั้นฉันสั่งให้เอง” มือหนากดหยิก ๆ ก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟา “เธอชอบดื่มไหม?”
“ปกติก็ไม่ชอบค่ะ” ขวัญจิรามองตะวันเทเหล้าใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มเพียว ๆ ราวกับน้ำเปล่าไร้รสชาติ
“ก่อนข้าวมา ทำอะไรสนุก ๆ กันไหม?”
“ไม่เอาค่ะ คุณตะวันหื่นตลอดเลย”
“ฉันก็หื่นกับเธอคนเดียว”
“แต่ขวัญหิวค่ะ”
“งั้นกินข้าวก่อนค่อยทำก็ได้ ฉันไปอาบน้ำก่อน ถ้าข้าวมาส่งก็ออกไปรับให้หน่อยนะ”
“ค่ะ” ขวัญจิราถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีที่เขาไม่อยากทำอย่างว่า ไม่อย่างนั้นช่องคลอดเธอไม่ได้พักเป็นแน่
ขวัญจิราเดินสำรวจห้อง เธอชอบการตกแต่งห้องของเขา ห้องพักของตะวัน ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบ ๆ แต่ดูแพง
ก๊อก ๆ ประตูถูกเคาะเบา ๆ ขวัญจิราเดินไปเปิดประตูเพราะคิดว่าอาหารมาส่ง แต่พอเปิดประตูออกไป ก็เจอทับทิมยืนกอดอกมองหล่อนอย่างไม่พอใจ
“แก!”
“….” ขวัญจิราไม่ทันได้พูดอะไร ทับทิมก็คว้าผมเธออย่างแรง
“กรี๊ดดดด!”
“ยุ่งกับพี่ตะวันเหรอนังร่าน ฉันจะตบแกให้ตายคามือเลย” ว่าจบก็ง้างมือขึ้น แต่ไม่ทันได้สะบัดมือลงใบหน้าสวย ๆ ข้อมือเล็กของทับทิมก็ถูกคว้าเอาไว้
“ทำบ้าอะไร!” ตะวันใช้มือบีบที่ข้อมืออีกข้างของทับทิม เขาบีบข้อมือเธออย่างแรงจนทับทิมต้องเบ้หน้าเพราะความเจ็บ
“โอ๊ย พี่ตะวันปล่อยทับทิมนะ!”
“ถ้าไม่อยากให้ฉันบีบแขนเธอให้กระดูกแตก ก็ปล่อยขวัญจิราแล้วไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้!”
