ทำไมมันใจหวิว
ตอนที่ 4
ทำไมมันใจหวิว
“นายรู้จักกับเดียร์ได้ยังไง”
วายุถามเพื่อนหลังจากที่นาวินคุยกับวิศวกรคนใหม่และพาเธอไปปฏิบัติหน้าที่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรทันทีก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้ามาในสำนักงาน
“ก็เธอมาสมัครงานที่นี่ไม่แปลกที่เราจะรู้จักเธอแต่ที่แปลกคือทำไมนายต้องทำท่าแบบนี้ทำเหมือนกับว่ามีอะไรพิเศษกับวิศวกรคนใหม่ของเราแล้วทำไมถึงไม่เข้าไปทักทายกันล่ะในเมื่อก็รู้จักกัน”
นาวินมองจ้องหน้าเพื่อนเพื่อรอคำตอบเพราะสิ่งที่วายุแสดงออกมันแปลว่าทั้งคู่ไม่ใช่แค่เพียงคนเคยรู้จักกันเท่านั้น
“เอาเป็นว่าเรากับนาเดียเคยรู้จักกันมาก่อนแต่เรื่องราวทั้งหมดเป็นยังไงเราก็ยังไม่เล่านะ นายต้องรับปากกับเราก่อนว่าอย่าเพิ่งให้เธอรู้ว่าเรากับนายเป็นหุ้นส่วนกันและตอนนี้เราก็อยู่ที่นี่”
นาวินยอมรับปากทั้งที่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเรื่องอะไรกัน ทำไมวายุต้องทำท่ากลัวกับการที่นาเดียจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของบริษัทนี้
“นายรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวิศวกรคนใหม่ของเราบ้าง”
วายุต้องการรู้ข้อมูลของนาเดียเพราะตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นเขาก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรของเธอเลยถึงแม้ชายหนุ่มจะพยายามขับรถไปดูที่บ้านของเธอหลายครั้งแต่ก็พบแค่เพียงพ่อและแม่ไม่เคยเห็นสักครั้งว่านาเดียจะกลับไปที่นั่นแต่วายุก็ไม่กล้าพอที่จะลงไปทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองเพราะกลัวจะทำให้พ่อและแม่ของนาเดียสงสัย
นาวินเล่าเรื่องราวของวิศวกรคนใหม่เท่าที่รู้ว่าเธอเป็น หญิงสาวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดมาหางานทำที่นี่ซึ่งก่อนที่จะมาทำที่บริษัทของเขาหญิงสาวได้ทำงานอยู่ที่บริษัทของฝรั่งที่นั่นให้เงินน้อยกว่านาเดียจึงตัดสินใจมาหางานทำใหม่ซึ่งทางบริษัทของนาวินเสนอเงินเดือนให้มากกว่าเกือบครึ่งเท่าเนื่องจากเธอมีประสบการณ์
“รู้แค่นี้เ...แล้วแบบเรื่องส่วนตัวของเธอไม่รู้เลยหรือไง”
คนถามเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้คำตอบไม่ตรงกับที่ใจอยากรู้เพราะสิ่งที่วายุต้องการไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานแต่เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่เขาตามหาเธอมานานตอนนี้เธออยู่ในสถานภาพไหนและเธอมีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง
“เราก็รู้จากใบสมัครที่เธอเขียนไว้แล้วก็สัมภาษณ์นิดหน่อยนายถามเหมือนอย่างกับว่าจะให้เราไปสัมภาษณ์ว่าคุณมีแฟนแล้วหรือยังมีลูกไหมฐานะทางบ้านเป็นอย่างไรมีเพื่อนที่ไหนบ้างอย่างนั้นเหรอ รับรองว่าได้โดนเธอแหกหน้ากลับมาแน่”
นาวินส่ายหัวให้กับท่าทางของเพื่อนที่ดูเหมือนต้องการจะได้คำตอบที่ล้วงลึกซึ่งมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะไปถามอะไรพนักงานใหม่แบบนั้น
นับตั้งแต่วันนั้นมาวายุก็มาทำงานที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรตลอดแต่เขาจะเลือกหลบอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นนาเดียได้แต่ไม่ยอมให้เธอมองเห็นเขา
“เดี๋ยวช่วงเย็นเราไปธุระพักนึงนะ”
วายุหันมาบอกนาวินเพราะวันนี้เขาตั้งใจว่าจะสะกดรอยตามนาเดียเพราะอยากรู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนหลังจากที่แอบดูเธอ ที่ทำงานมาได้เกือบสัปดาห์แล้ว
รถยนต์คันเก่าวิ่งออกจากหน้างานก่อสร้างตรงออกนอกเมืองซึ่งอยู่ไกลจากสถานที่ทำงานพอสมควรแต่แทนที่หญิงสาวจะขับรถตรงไปยังที่พักกลับขับแวะไปที่โรงเรียนที่เป็นเนสเซอรี่สำหรับเลี้ยงเด็กเล็ก
“มารับใครอย่าบอกว่าเธอมีลูกแล้ว”
วายุรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกเพราะการที่หญิงสาวมาจอดรถที่นี่หมายความว่าเธอต้องมีธุระอะไรกับที่โรงเรียนแห่งนี้ อดคิดไม่ได้ว่าอาจจะกำลังมารับลูกของเธอและนั่นก็หมายความว่าตอนนี้เธอเป็นคนที่มีครอบครัวไม่ได้โสดเหมือนอย่างที่วายุคิดไว้
“ใช่จริงๆด้วยแต่ก็อาจจะเป็นแค่หลานหรือไม่ก็ลูกเพื่อนหรือใครอาจจะฝากมารับ”
วายุมองเด็กน้อยที่นาเดียกำลังจูงมือแต่ด้วยเขาจอดรถอยู่ไกลจากโรงเรียนมากจึงไม่สามารถมองหน้าเด็กคนนั้นได้ชัดเจน
ชายหนุ่มพยายามพูดกับตัวเองว่าบางทีเด็กคนนั้นอาจจะไม่ใช่ลูกของผู้หญิงที่เขาตามหา
วายุยังคงขับรถตามไปเรื่อย ๆ แต่ก็พยายามเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้หญิงสาวรู้สึกสงสัยที่เห็นรถของเขาขับตามมาตั้งแต่ที่ทำงาน
บ้านหลังเล็กที่ค่อนข้างเก่าคือสถานที่ที่นาเดียและเด็กน้อยคนนั้นเปิดประตูรถและเดินลงไปด้วยกัน วายุจอดรอจนแน่ใจว่าที่นี่คงเป็นบ้านของทั้งคู่เพราะเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนาเดียก็ยังคงไม่ออกมา ชายหนุ่มจึงได้เดินทางกลับและตั้งใจว่าเขาจะสะกดรอยตามเธออย่างนี้จนกว่าจะได้รู้ว่าเธออยู่กับใครและเด็กน้อยคนนั้นใช่ลูกของเธอไหม
ระหว่างทางกลับมายังคอนโดวายุยังคงคิดถึงภาพ ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเขาเคยไม่สบายและมีนาเดียคอยอยู่ดูแลครั้งนั้นเขาเฝ้าบอกกับตัวเองตลอดว่าเขาจะไม่มีทางทำให้เพื่อนคนนี้เสียใจแต่สุดท้ายแล้วเขากลับทำความผิดที่ยิ่งใหญ่นอกจากจะไม่ได้ตอบแทนความเป็นเพื่อนที่แสนดีของเธอ เขากลับย่ำยีหัวใจและไม่เคยแม้แต่จะมีโอกาสได้ขอโทษและสิ่งที่เขายังค้างคาในใจคือเขาต้องการรู้ว่าทำไมนาเดียถึงตัดสินใจหนีเข้ามาแบบนั้ ทำไม ไม่อยุ่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน
