บทที่2 พงศ์พยัคฆ์ 1
โรงพยาบาลรักษ์บดินทร์
บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ตในชุดสำหรับผ่าตัดจะก้าวเดินออกมา สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายแต่มีความขรึมอยู่ในท่าที ร่างนั้นเดินตรงไปหาญาติของคนไข้ด้วยท่าทีเป็นมิตรก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
“การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น”
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ” หญิงสาววัยกลางคนกล่าวขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามีด้วยความตื้นตันใจ
นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์ สัตยบดินทร์หรือ หมอเสือ ศัลยแพทย์หนุ่มมือหนึ่งของประเทศที่เชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดระบบประสาท ทรวงอกและหัวใจ และการผ่าตัดทั่วไปจนสามารถเข้าผ่าตัดได้แทนได้ทุกเคสผ่าตัดยิ้มให้ญาติคนไข้เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ “มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”
พูดจบชายหนุ่มก็โน้มศีรษะลงทำความเคารพผู้สูงวัยกว่าก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้กล่าวชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอกันอย่างยินดี
การได้เห็นรอยยิ้มโล่งใจไร้กังวลของญาติผู้ป่วยคือความสุขหนึ่งของชายหนุ่มตลอดหลายปีมานี้...ยอมรับว่ารอยยิ้มของคนไข้และญาติๆ คือกำลังใจที่มีค่าสำหรับเขา เขาผ่าตัดมาแล้วนับร้อยเคสแต่ก็มีหลายเคสที่การผ่าตัดอย่างเดียวไม่อาจจะช่วยได้ จนบางครั้งเขาก็อยากจะเรียนเฉพาะทางเพิ่มเพื่อเข้าไปช่วยในงานด้านนั้น ๆ ...ถ้าหากว่า9ปีก่อนตัวเขาไม่ต้องสละสิทธิ์สำหรับโอกาสหายากนั้นและได้ไปตามที่ตั้งใจไว้ก็คงจะดี...มันคงจะดีกว่านี้ ในทุก ๆ เรื่อง
“การผ่าตัดคงเหนื่อยน่าดูเลยซินะคะคุณหมอ”น้ำเสียงสอบถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยของหญิงสาวในชุดพยาบาลที่เดินตามมาทำให้คนนึกเสียดายดึงสติกลับมาสนใจปัจจุบันอีกครั้ง ชายหนุ่มมองพยาบาลสาวที่เดินตามมาเพื่อมองหาจุดประสงค์ของอีกฝ่าย
“คุณบีเดินตามผมมาทำไมครับ” เขาถามกลับไปด้วยไม่เข้าใจสาเหตุที่พยาบาลฝึกหัดสาวนามว่าเบญจาหรือบีที่เดินตามเขามาทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องตามมา
“บีคิดว่าคุณหมอน่าจะเมื่อยคอน่ะค่ะ บีเลยตามมาอาสาจะนวดให้” พยาบาลฝึกหัดสาวเอ่ยบอกความประสงค์ออกไปพร้อมทั้งส่งสายตาเชิญชวนให้แก่หมอหนุ่มอย่างแพราวพราว สองอาทิตย์ที่ตัวเธอมาเป็นพยาบาลฝึกหัดที่นี่ยอมรับเลยว่าเสน่ห์ของเธอทำให้คุณหมอหลายคนมองตามอย่างหลงใหลแต่กับคนตรงหน้านี้เธอยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะเป็นเหมือนคนอื่น ๆ เลยและนั่นทำให้เธอสนใจอยากจะเอาชนะเขาให้ได้
“ไม่ต้องหรอกครับ เสียเวลาทำงานเปล่า ๆ” พงศ์พยัคฆ์ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่จะหันเดินเข้าห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สนใจจะรักษาน้ำใจหรือให้เกียรติอีกฝ่าย...เขาก็ไม่ใช่คนใจดีนัก เขาให้เกียรติแค่คนที่ควรให้เกียรติเท่านั้น ที่บ้านไม่ได้สอนให้สุภาพกับคนที่มีความคิดไม่ดีกับตัวเอง
“เย็นชานักนะ คิดว่าฉันจะง้อเหรอ เหอะ” คนโดนเดินหนีไม่ไว้หน้าเอ่ยอย่างโกรธแค้น...ไม่เคยมีใครไม่สนใจเธอได้ ไม่มีทาง
เที่ยง
ก๊อกๆ ๆ
“หมอเสือคะ” เสียงเรียกอันไพเราะดังขึ้นหลังจากเสียงเคาะประตูดังก่อนที่ร่างบางของแพทย์หญิงฟ้ารดา อัครวิทย์ หรือ หมอฟ้า กุมารแพทย์คนสวยที่ได้รับการโหวตว่าเป็นหมอที่น่ารักที่สุดของโรงพยาบาลจะปรากฏขึ้น เสียงของเธอเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอได้อย่างดี ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานด้วยความสงสัยขณะที่คนมาใหม่นั้นคลี่ยิ้มกับท่าทีนั้นของเจ้าของห้อง
“เที่ยงแล้วค่ะ ไปทานข้าวกันค่ะ”
“อ้าว นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมงอยู่เลย มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ” หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไม่ใช่แค่เที่ยงตรงแต่เลยเที่ยงตรงไปเกือบ30นาทีแล้วก่อนจะยิ้มอ่อนใจให้ตัวเอง เขามักทำงานจนลืมเวลาแบบนี้เสมอ...ทุกทีนั่นล่ะ
หมอสาวได้แต่ส่ายหน้าคล้ายเอือมระอาก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่เที่ยงนะคะแต่อีกครึ่งชั่วโมงจะบ่ายแล้วไปค่ะ ไปทานข้าวกันดีกว่า”
“เฮ้ยเสือ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน” เสียงแทรกดังมาจากหน้าประตูก่อนที่ร่างสูงสมส่วนของนายแพทย์ปัญจวัตร เกตทิวรากุลหรือ หมอปัญจ์ ศัลยแพทย์ทรวงอกและหัวใจฝีมือดีของโรงพยาบาลจะปรากฏตัวขึ้นทำให้พงศ์พยัคฆ์และฟ้ารดาหันไปมอง
“งั้นดีเลยไปพร้อมกันสามคนนี่แหละ...หมอฟ้าคิดว่ายังไงครับ?” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยทำลายความเงียบเมื่อฟ้ารดาหันควับไปมองปัญจวัตรอย่างไม่พอใจ เขารู้ดีว่าเพื่อนหนุ่มต้องการเข้ามาขัดขวางไม่ให้กุมารแพทย์สาวได้อยู่กับเขาสองต่อสองเพราะตั้งแต่ฟ้ารดามาทำงานที่นี่เมื่อสามปีก่อนก็มีข่าวลือว่าเขาคบหากับหญิงสาวในทางชู้สาว ศัลยแพทย์ทรวงอกหนุ่มผู้รักเพื่อนจึงต้องคอยกันข่าวลือในทางลบที่จะเกิดขึ้นโดยการแทรกกลางระหว่างเขากับเธออยู่บ่อยครั้งและเขาเองก็ไม่ทุกข์ร้อนอะไรที่มีเพื่อนคอยทำตัวราวกับเป็นเห็บเป็นหมัดอยู่ข้างๆ ออกจะคิดว่าดีซะอีกเพราะกุมารแพทย์สาวไม่ควรมีข่าวลือแย่ๆ กับเขาถึงแม้หลายคนอาจไม่รู้แต่ก็มีอาจารย์หมอบางคนในโรงพยาบาลที่ทราบว่าเขาแต่งงานแล้วอาจทำให้กุมารแพทย์สาวถูกมองไม่ดีในสายตาคนเหล่านั้นได้
“ก็ได้ค่ะ” แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้ไปกับหมอหนุ่มที่แอบชอบสองต่อสองแต่กุมารแพทย์สาวก็ไม่ปฏิเสธที่จะร่วมโต๊ะอาหารมื้อนี้ แม้จะขัดใจอยู่บ้างที่ตาหมอช่างขัดโผล่มาทั้งที่ก่อนมาห้องนี้เธออุตส่าห์เหลียวซ้ายแลขวาดูต้นทางก่อนแล้วแต่เรื่องอะไรเธอจะยอมยกธงขาวให้ตาหมอเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนี่ได้ยิ้มเยาะเธอล่ะ หึ เมื่อเธอไม่ได้กินข้าวสองต่อสองกับพงศ์พยัคฆ์ ตาหมอเกย์เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้ก็ต้องไม่ได้เช่นกัน
เธอจะพิทักษ์หัวใจตัวเอง และพิทักษ์อธิปไตยของพงศ์พยัคฆ์ไว้ให้ได้ “เราไปกันเลยดีกว่าค่ะ ฉันหิวแล้ว”
“งั้นไปรถผมแล้วกันผมจองโต๊ะกับสั่งอาหารไว้แล้ว” ปัญจวัตรเอ่ยบอกแก่ฟ้ารดาก่อนจะเดินนำออกจากห้อง หญิงสาวเดินตามหลังสองหนุ่มด้วยความเจ็บใจ พูดก็พูดเถอะ ถึงจะรู้ว่าปัญจวัตรคิดไม่ซื่อกับพงศ์พยัคฆ์จึงขัดขวางไม่ให้เธอได้ไปไหนมาไหนกับพงศ์พยัคฆ์ประจำก็เถอะ แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เธอไปทำให้อะไรให้ปัญจวัตรโกรธนักหนานะทำไมถึงได้ชอบขัดชอบขวางเธออยู่เรื่อย นายคนนี้น่ะไม่ใช่แค่ขัดเรื่องพงศ์พยัคฆ์หรอก เขาขัดเธอทุกเรื่องนั่นล่ะ แย้งกับเธอได้ทุกเรื่อง ทุกที่เลยล่ะตาคนนี้น่ะ
