EP10 เสน่ห์แรง
EP10
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ต้องย้ายไปอยู่กับเขาอย่างไม่มีทางเลือก หากไม่ยอมทำในสิ่งที่นายนั้นต้องการ ฉันรู้ดีว่าเขาไม่ใช่แค่ขู่แต่มันคือการพูดจริง ทำจริง และตอนนี้ฉันก็พาร่างกายของตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องของต้นนํ้าโดยที่ดีไวน์ยืนรออยู่ข้างล่างล็อบบี้
ฉันขอร้องให้ปล่อยฉันมาเจอเพื่อนแต่ดีไวน์ไม่ยอม เขาตามติดฉันไม่ห่างแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัว ถามว่าอึดอัดไหมแน่นอนชีวิตที่ไม่มีอิสระเป็นของตนเองมันก็เหมือนตายทั้งเป็น
ก็อก ก็อก ก็อก!
"อาย มึงเป็นไงบ้างวะ" พอมันเปิดประตูออกมาสีหน้าขอต้นน้ำก็ดูเป็นห่วงฉันมาก แขนเรียวดึงร่างเขาไปกอดพร้อมกับปิดประตูห้องก่อนที่มันจะผละออกแล้วไล่สายตาสำรวจร่างกาย
"เกือบตาย"
"กูแจ้งตำรวจให้ตามหา แล้วทำไมมึงบอกแบบนั้น"
"กูไม่มีทางเลือก ตาบ้านั้นขู่กูทุกอย่าง ตอนนี้มันก็รอกูอยู่ข้างล่าง"
"อย่าบอกนะว่ามึงจะกลับไปกับมันอีก…"
"แล้วกูทำอะไรได้บ้างวะ" พูดจบร่างกายก็ทรุดลงพื้น หลังจากที่ดีไวน์ทำแผลให้ฉันเสร็จมันก็ผ่านมาสามวันแล้ว เรื่องเรียนก็ยังไม่จัดการ ไหนจะเรื่องดีไวน์ปล่อยในอีก ฉันไม่รู้เลยว่าต้องจัดการอะไรก่อน
"ลุกขึ้นก่อนอาย ตั้งสติแล้วค่อยคิด" ต้นน้ำพยุงตัวฉันลุกขึ้นแล้วพาไปนั่งบนปลายเตียง มันบีบมือฉันเบาๆแล้วเดินไปหยิบยาคุมออกมาเป็นแผงยัดใส่มือพร้อมเอกสารการเรียน
"กูรู้ว่ามันคงรังแกมึงแน่ มึงรีบกินยาคุมก่อนแล้วมาเล่าให้กูฟัง" พูดจบมือบางก็คว้าขวดนํ้าพลาสติกที่ตั้งข้างหัวเตียงมาให้ ฉันรับมาแล้วแกะยาออกจากแผงแล้วกรอกลงไป
"กูต้องย้ายไปอยู่กับมันว่ะ แม่งจะอะไรนักหนาก็ไม่รู้"
"มันขู่จะฆ่ามึงหรอ"
"อือ"
"นี้มึงต้องยอมไปจริงๆใช่ไหม กูไม่อยากให้มึงไปเลยว่ะอาย" สีหน้าต้นน้ำดูกลุ้มใจมาก ฉันจึงยกมือขึ้นเช็ดนํ้าออกจากมุมปากแล้วถอนหายใจออกมา ตอนนี้บ้านของดีไวน์ยังคงมีกระเป๋าเดินทางและเอกสารสำคัญหลายอย่างจะหนีอีกคงต้องกลับไปเอาของพวกน้ั้นแต่การหนีครั้งนี้ของฉันคือการไปแล้วจะไม่กลับมาอีก
"คงต้องอยู่ ดีให้เวลากูแค่ห้านาทีกูต้องกลับไปหามัน"
"มันคุมทุกอย่างเลยงั้นดิ"
"กูไม่มีอิสระอะไรแล้วตอนนี้" ฉันตัดพ้อออกมากับความฉิบหายครั้งนี้แล้วเพ่งสายตามองนาฬิกาข้อมือซึ่งเวลาก็ใกล้เข้ามาทุกที
"เดี๋ยวนะอาย ทำไมผมมึง?" ต้นน้ำยื่นมือมาจับตามเส้นผมปลอมด้วยแววตาไม่เข้าใจ ใช่…ตอนนี้ฉันสวมวิกอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าสภาพผมของฉันมันเป็นยังไง "กูขอดูได้มั้ย"
"…" ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปพร้อมกับก้มหน้าหลบสายตา ต้นน้ำจึงค่อยๆถอดวิกออกอย่างเชื่องช้าภาพที่เห็นทำให้ต้นน้ำอ้าปากค้างมือยกขึ้นปิดปากตัวเองไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น ฉันจึงเปิดหน้าท้องให้มันดูด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวตรงขอบตา
"อาย…"
"กูไม่เหลืออะไรแล้ว" เหมือนมันจะรู้ว่าฉันเริ่มทนไม่ไหว ต้นน้ำดึงฉันเข้าไปกอดสัมผัสจากมือเล็กคอยลูบหลังให้กำลังใจเพียงเท่านั้นแหละอายแคร์ที่ภายนอกดูเข้มแข็งก็ปลดปล่อยความอ่อนแอออกมา
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตนับต่อจากนี้จะเป็นยังไง รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันโชคดีมากที่มีต้นน้ำอยู่ข้างกาย อย่างน้อยๆแค่ไม่กี่นาทีให้ฉันได้หลุดพ้นจากเขาบ้างก็ยังดี
"…นํ้า โคตรแย่เลยว่ะ ความรู้สึกกูตอนนี้"
"ร้องไห้ออกมา ใครมาอยู่จุดนี้คงไม่มีใครรับได้หรอก มึงไม่ต้องห่วงนะเรื่องงานกูจะเคลียร์แทนว่ามึงไม่พร้อมรับงาน ถ้ามึงมีปัญหาเรื่ิิองเงินให้มาหากู" ฉันกอดมันแล้วร้องไห้อยู่แบบนั้นจนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีจึงผละกอดออกแล้วหยิบเอกสารการเรียนขึ้นมา ป่านนี้ดีไวน์คงไม่พอใจแล้ว
"กูไปก่อนนะ ไว้เจอกันที่มหาลัย"
"อืม หาทางติดต่อมาหากูบ่อยๆถ้ามีอะไรที่มันเกินไปก็อย่าไปทน"
"อืม" ลํ่าลากันเสร็จฉันก็พาร่างกายตัวเองลุกขึ้นจากปลายเตียงแล้วเดินออกมาหน้าห้อง พลันสายตาก็เห็นเข้ากับร่างหนาในชุดวิศวะที่กำลังยืนพิงผนังข้างประตูห้องอยู่ ทำให้ฉันแอบสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
"ดีไวน์ ไหนนายบอกจะรอข้างล่าง อ๊ะ!?" ไม่ทันที่จะถามจบ มือหนาก็คว้าหมับแล้วลากฉันมาที่ลิฟต์ นายนั้นไม่ตอบอะไรสักคำจนมาถึงรถคันหรูเขาก็ยัดฉันเข้าไปข้างใน
ฉันได้แต่นั่งตัวเกร็งลอบมองคนข้างกายเป็นระยะภายในรถมีเพียงความเงียบ ไม่รู้สิฉันไม่อยากคุยกับนายนี้เพราะไม่รู้ว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน อีกอย่างเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเป็นผู้ชายที่ฉันไม่สามารถคาดเดาได้
.
.
.
MMU. (มหาลัย)
ผ่านมาหลายนาทีรถเฟอร์รารี่คันหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดในมหาลัยชื่อดังเป็นที่จับตามองของเหล่านักศึกษา ดีไวน์เปิดประตูลงมาจากรถตามมาด้วยอายแคร์ที่เปิดลงตามมาติดๆ เธอเว้นระยะห่างเพื่อจะเลี่ยงไปลงทะเบียนเรียนด้วยความแผ่วเบาทำให้ใบหน้าเรียบนิ่งหันมามองแล้วหรี่ตามองอย่างต้องการคำตอบ
"?"
"ฉันจะไปลงทะเบียนเรียน เราต้องแยกกันตรงนี้"
"…" ดีไวน์ไม่ได้ตอบอะไร เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วพยักหน้าตอบ "อืม"
"แล้วมือถือฉันขอคืนด้วย" พอได้ยินคำพูดของอายแคร์มือหนาก็ล้วงหยิบมือถือของหญิงสาวคืนเจ้าตัว มือเรียวจึงรับมันมาพร้อมกับจะหมุนตัวเดินไปคณะนิเทศ
พอห่างกันออกมาพอสมควรเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปที่ตึกอำนวยการเพื่อทำเรื่องลงทะเบียนเรียน ในตอนที่เธอเดินไปนั้นเสียงนักศึกษาผู้หญิงก็ซุบซิบกันใหญ่สายตาจ้องมองมาที่ร่างของหญิงสาวในชุดนักศึกษาธรรมดา
'นั้นใช่อายแคร์นางแบบรึป่าววะมึง นางลาออกไปแล้วไม่ใช่หรอ'
'นางดรอปไว้สองปีแล้วกลับมาเรียนปีสี่ใหม่ ช่างกล้าเนาะหน้าไม่อาย" ใบหน้าที่ไร้เครื่องประทินโฉมเหยียดยิ้มกับคำนินทาพวกนั้นเธอไม่ได้สนใจแล้วเดินไปติดต่อกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปกติแล้วการลงทะเบียนเรียนจะเริ่มช่วงต้นเทอมซึ่งที่นี้เปิดเรียนมาแล้วสักพักเพราะติดถ่ายแบบแล้วเป็นการกลับมาเรียนใหม่อายแคร์จึงช้ากว่าคนอื่น
"มาติดต่อลงทะเบียนเรียนค่ะ" ไม่พูดเปล่าเธอก็ยื่นเอกสารให้ รอไม่นานก็มีใบข้อมูลรายวิชาและข้อมูลส่วนตัวมาให้กรอก เธอไม่รอช้าหยิบปากกาขึ้นมากรอกข้อมูลให้ครบ
"ดรอปมาสองปี ทำไมถึงกลับมาเรียนใหม่ล่ะ"
"อยากเรียนให้จบค่ะ"
"มีข่าวว่าเธอเคยท้องไม่ใช่หรอ ไม่นึกอายกับสายตาของคนอื่นบ้างรึไง" ถึงปากจะถามแต่ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรก็ก้มจัดการกับอะไรบางอย่าง
ทำให้อายแคร์นิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรจนเธอกรอกข้อมูลเสร็จแล้ววางปากกาลงอย่างแรงทำให้สายตาของเธอคนนั้นไปที่ิอายแคร์ไม่พอใจนัก
"จะอายทำไมคะในเมื่อคนพวกนั้นไม่ได้อิทธิพลอะไรกับชีวิตอาย อยากจะพูดอะไรก็เชิญ ไร้สาระสิ้นดี" พูดจบเธอก็เดินสะบัดร่างออกมาคำตอบของอายแคร์ทำให้คนที่ได้ยินยิ่งไม่ชอบเธอเข้าไปใหญ่
"พี่ครับ" ในตอนที่เดินออกมาจากตึกเสียงของใครบางคนก็ทักขึ้น อายแคร์หยุดเดินแล้วมองไปที่รุ่นน้องปีหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาเธอฉีกย้ิมให้คนตรงหน้าที่มีท่าทีขวยเขิน
"น้องมีอะไรรึเปล่าคะ"
"คือ ผมขอถ่ายรูปกับพี่ได้ไหม"
"น้องไม่…"
"ไม่ครับ ผมเป็นแฟนคลับพี่แล้วก็เป็นกำลังใจให้ด้วย" ชายหนุ่มผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเดือนคณะของปีนี้พูดขึ้นตัดบทเธอ ทำให้อายแคร์รู้สึกดีขึ้นมาบ้างมีคนเกลียดก็ต้องมีคนรักคำนี้มันจริง
"โอเคค่ะ"
"งั้นผมขอจับกล้องนะครับ"
"ได้สิ" อายแคร์พยักหน้าตอบเป็นจังหวะเดียวกันที่เดือนคณะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเพื่อที่จะถ่ายรูป
แฉะ!
"ขอบคุณนะครับพี่อาย" เด็กหนุ่มหน้าใสก้มหน้าขอบคุณใหญ่ เขาเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบอายแคร์ เขาชอบที่เธอสู้ชีวิตและยืนหยัดในอาชีพที่ตนเองรักไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรมากมายเข้ามาก่อกวน
"พี่ไปนะ"
"เดี๋ยวครับพี่อาย"
"คะ?"
"ผมดีใจนะครับที่พี่กลับมาเรียน โชคดีมากเลยที่เข้ามาเจอพี่พอดี"
"พี่ก็ดีใจค่ะ ที่มีคนรักอยู่ นึกว่าจะมีคนเกลียดซะแล้ว"
"พี่จะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะรบกวนให้พี่พาทัวร์หน่อย" เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับยกมืิอขึ้นเกาท้ายทอยหลบสายตา อายแคร์ที่เริ่มรู้สึกเหงาจึงพยักหน้าตอบ
"เอาสิ เดี๋ยวพี่พาทัวร์" พูดเพียงเท่านั้นร่างเล็กก็เดินนำคนตัวโต ทำเอาเขายิ้มไม่หุบในตอนที่พาทัวร์เสียงซุบซิบของคนในคณะก็ดังขึ้นอีก พวกเขามองว่าอายแคร์กำลังหลอกฟันเดือนคณะที่พวกเขาหมายปองทั้งที่ผู้ชายคนนั้นเป็นฝ่ายเข้าหาอายแคร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
"นี้มันเดือนคณะนิเทศกับพี่อายนิ เพจคิ้วบอยเอาลงด้วย"
"ไหนเอามาดูหน่อย"
"โห พี่อายฮอตจัง มาเรียนวันแรกเดือนคณะก็มาขอถ่ายรูป"
"จริงด้วย" เสียงของสาวพูดคุยกันในตอนที่นั่งอยู่ร้านอาหารของคณะวิศวะในช่วงพักเที่ยง ทำให้คนที่นั่งฟังอยู่หัวโต๊ะอย่างดีไวน์รีบกดเข้าไปในเพจ พอเห็นรูปอายแคร์กับเด็กผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาร่างหนาก็ลุกจากเก้าอี้ในทันใด
"ไปไหนคะพี่ดิน"
"อ้าว…" กระถินหน้าเหว๋อทันใดเมื่อดีไวน์ไม่ตอบคำถามแต่กลับเดินออกไปพร้อมความเงียบแล้วแบบนี้พวกเธอจะบอกแฟนตัวเองยังไงว่าดีไวน์ไปไหน?
ด้านอายแคร์ที่พักเที่ยงเธอเลือกจะมานั่งที่โรงอาหารมุมลับตาคนและมีเดือนคณะคนเดิมอาสามานั่งด้วยเป็นการขอบคุณที่พาทัวร์รอบคณะ
"พี่อายมานั่งคนเดียวแบบนี้ไม่เหงาหรอครับ"
"เหงาแล้วทำอะไรได้คะ" เธอตอบแล้วเค้นหัวเราะออกมา เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกายเธอจึงอังคางมอง
"หาแฟนสิครับ"
"คงมีคนชอบพี่มั้ง" อายแคร์ตอบปนตลก คนข้างกายจึงกลั้วหัวเราะออกมาแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด
"จะว่าไปพี่อายตอนหน้าสดก็น่ารักอีกแบบนะครับ เหมือนเด็กปีสองปีสามเลย"
"ชมพี่เกินไปแล้วนะ"
"ก็พี่น่ารักไง…สวยด้วย"
เคล้ง!
เจ้าที่แถวนี้มันแรงแปลกๆ55555555555555555555555
จะมีเรื่องกลางโรงอาหารไหมนะ?
