ตอนที่ 5
เสือขับรถด้วยความเร็วผ่านช่องเขาลัดเลาะเข้าทางลัดเพื่อจะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาสก เขาตั้งใจว่าจะพาเธอไปสงบสติอารมณ์ และตกลงอะไรบางอย่างที่นั่น ที่ที่เขาและเธอเคยขับรถมาเมื่อตอนที่เสือสอบได้ใบขับขี่เมื่ออายุครบสิบแปดปี เขาขับพาเธอมาเที่ยวสองต่อสอง ซึ่งตอนนั้น อิงฟ้า มีอายุแค่สิบสามปีเท่านั้นเอง ความผูกพันรักใคร่เหมือนเป็นพี่น้อง
นายปรัญช์ เพชรรัชตะ คุณพ่อของอิงฟ้า และนายเพชร โรจนกรณ์ คุณพ่อของเสือ เพชรเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณปรัญช์ ทำงานด้วยกันตั้งแต่คุณปรัญช์เริ่มบุกเบิกธุรกิจสถานบันเทิงที่หาดป่าตอง ยังไม่มีทรัพย์สินมากมายเหมือนตอนนี้
ความที่ซอยบางลาเป็นที่หมายตาของนักธุรกิจหลายต่อหลายคนและวงการมาเฟียหรือวงการเจ้าพ่อต่างชิงดีชิงเด่นแก่งแย่งกันเพื่อความเป็นหนึ่ง
ด้วยความเป็นหนุ่มไฟแรง กล้าชนทุกคนเพื่อความเป็นหนึ่งของคุณปรัญช์ ทำให้เป็นการสร้างศัตรูโดยแท้จริง แต่ท่านก็ได้เพชรอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ จนถึงเมื่อคราวที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
วันนั้นคุณปรัญช์และเพชร เดินทางไปดูที่ดินที่จะสร้างตึกเลี้ยงนกนางแอ่นแถวอำเภอโคลกกลอย จังหวัดพังงา เขาสองคนอยู่คุยธุรกิจกันจนค่ำ
ขากลับวันนั้นเพชรไม่สบายมากและได้ทานยาแก้หวัดก่อนขึ้นรถ กะว่ามาถึงป่าตองจะได้เข้าทำงานดูแลดิสโกแทนคุณปรัญช์เลย เจ้านายจึงเป็นผู้อาสาขับรถให้เอง
เมื่อทั้งสองคนกลับข้ามฝั่งมายังภูเก็ต ยังไม่พ้นหมู่บ้านท่าเรือ แถวอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี มีรถยนต์คันหนึ่งตามประกบด้านข้างฝั่งของเพชร คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กระหน่ำยิงคนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับมากกว่าสิบนัด ทำให้เพชรเสียชีวิตคาที่ทันที
คุณปรัญช์ได้หักหลบวิถีกระสุนจนรถตกข้างทาง แต่โชคยังดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากวิถีกระสุน แค่เฉียดผิวหนังไปบางส่วนของหัวไหล่และหน้าท้อง แต่ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน เพราะศีรษะแตก แขนและไหปลาร้าหัก
วันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่เสือพาอิงฟ้าไปเที่ยวที่เขาสก ซึ่งวันนั้นคุณเอมอรเป็นคนอนุญาตให้เสือพาอิงฟ้ามาเที่ยวเอง เพราะเธอกับสามีไม่มีเวลาในส่วนนี้ที่จะดูแลอิงฟ้า เนื่องด้วยกิจการที่กำลังรุ่งเรืองเดินไปข้างหน้า
ทั้งคู่นอนพักที่บังกะโลเล็ก ๆ ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่มีชื่อว่า ทรีท็อปบังกะโล ซึ่งมีบ้านพักอยู่บนต้นไม้ ทั้งสองมีความสุขในฐานะพี่ชายพาน้องสาวมาเที่ยว ความสนิทสนมเหมือนเป็นพี่น้อง เสือรักดูแลเธอตั้งแต่เล็ก ๆ จึงทำให้เป็นที่ไว้ใจของทั้งสองครอบครัว
เมื่อกลับมาจากเที่ยวครั้งนั้น การตายของพ่อเพชรทำให้เสือเงียบขรึมลง แต่ต้องยอมรับชะตากรรม ทั้งสามคนแม่ลูกต้องย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ที่บ้านอิงฟ้านับตั้งแต่วันนั้น และขณะนั้นสิงห์น้องชายเพิ่งจะอายุได้แค่เก้าปีเอง
จากที่โหมทำงานหนักของทั้งคุณปรัญช์และคุณเอมอร แต่คุณเอมอรผู้ซึ่งมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก และเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพขึ้นชัดเจนในช่วงนี้ ด้วยความดีและความสงสาร แล้วคุณเอมอรไม่สามารถมีความสัมพันธ์ทางร่างกายกับคุณปรัญช์ได้
เมื่อผ่านไปหนึ่งปีที่เพชรจากไป คุณเอมอรจึงเป็นคนเอ่ยปากขอร้องพะเยาด้วยตัวเธอเอง ให้ยอมเป็นเมียอีกคนของปรัญช์ เพราะผู้หญิงยั่วเมืองเต็มป่าตองต้องการจะมาเป็นเมียน้อยของเธอทั้งนั้น เธอเกรงว่าสามีจะไปมีเล็กมีน้อยที่อื่น ทั้งที่คุณปรัญช์ไม่ได้มีนิสัยเช่นนั้นเลย อีกทั้งร้อยเหตุผลที่คุณเอมอรยกมาพูดกับทั้งสองคน จนทำให้คุณพะเยายอมรับข้อเสนอที่ทางคุณเอมอรยื่นให้ อีกเหตุผลหนึ่งคือบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ตั้งแต่เพชรเสียชีวิตทำให้เธอไม่มีที่พึ่งอื่นแล้ว
อิงฟ้าคิดว่าที่แม่เธอป่วยและต้องเสียชีวิตด้วยวัยที่ไม่สมควรจากไป และเหตุผลที่ทั้งพ่อและแม่ไม่เคยบอกในตอนที่เธออายุสิบห้าปี คุณเอมอรได้เสียชีวิตลงกะทันหัน ทำให้คุณพ่อตัดสินใจส่งเธอไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลียและส่งเสือไปเรียนที่นั่นคู่กับเธอด้วย
ความรู้สึกของอิงฟ้าเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันที่แม่เธอจากไป ความน่ารักและความไร้เดียงสา เด็กสาวที่ว่านอนสอนง่ายของพี่เสือได้ตายไปจากโลกนี้ไปด้วย เธอมองพี่เสือและแม่ของเขาเป็นศัตรู หน้าของเขาเธอก็ยังไม่อยากจะมอง แต่การอยู่ด้วยกันเพียงลำพังสองคนที่ออสเตรเลีย พี่เสือคนที่ห่วงใยน้องอิงฟ้าเสมอ และต้องเป็นผู้ดูแลเด็กสาวที่เอาแต่ใจเพียงลำพัง เขาทำให้หนูอิงทุกอย่างที่เธอปรารถนา แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือคำพูดที่เชือดเฉือนและจิตใจที่หยาบกระด้าง พี่เสือที่หลงรัก เขารักเธอ เขาจึงยอมได้ทุกอย่าง เขาบอกตัวเองเสมอไม่ให้อาจเอื้อม แตะต้องเธอตามความต้องการข้างในใจของตัวเขาเองตลอดมา มีเพียงคุณปรัญช์ที่มองออกและรู้เห็นความจริงใจของเสือที่มีต่ออิงฟ้า
เมื่อวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เขาอยากประกาศให้โลกรู้ว่าเขารักเธอ เขาอยากเป็นเจ้าของตัวเธอและหัวใจของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
“เสือ ลุงจะยกอิงฟ้าให้เสือดูแล เสือจะว่ายังไง” เสียงคุณปรัญช์ถามเขาขึ้นมาเมื่อเย็นวันหนึ่งหลังจากกลับมาจากการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล คุณพะเยาร้องไห้อยู่ข้าง ๆ น้ำตาไหล
จากการสนทนาก่อนหน้าทำให้ทุกคนได้รู้ว่า คุณปรัญช์ด้วยวัยหกสิบห้าปี ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สาม แล้วเขาได้พูดคุยกับคุณหมอและได้รับการติดต่อมาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลเฉพาะทางที่ลำปางในเรื่องมะเร็งโดยเฉพาะ คุณปรัญช์ตัดสินใจเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับสำหรับอิงฟ้า
“อิงฟ้าไม่มีใคร นอกจากเสือ ลุงไว้ใจเสือมากนะ แต่ขอถามเสือสักคำ เสือรักหนูอิงไหม” ปรัญช์เอ่ยถามเขาตรง ๆ เพราะความที่เป็นผู้ใหญ่และอาบน้ำร้อนมาก่อน ช่างสังเกตและรับรู้ เห็นความรักและความห่วงใยที่เขามีต่ออิงฟ้าลูกสาวเพียงคนเดียว ไม่ว่าอิงฟ้าจะร้ายจะแรงแค่ไหน เสือก็ยอมเธอทุกอย่าง เสือพยักหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ครับ ผมรักหนูอิงครับ” คุณปรัญช์ยิ้มระบายออกมาเต็มหน้าแบบโล่งอก ก่อนจะเอื้อมมือไปจับคุณพะเยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มีอาการเจ็บจุกขึ้นมาที่กลางลำตัว คุณพะเยาตกใจรีบขยับเข้าดูอาการ
“เป็นไงบ้างคะคุณท่าน เจ็บมากหรือคะ” เธอเอ่ยถามสามีและยังคงเรียกเขาเหมือนที่เคยเรียก
“อืม... นิดหน่อย” ความเจ็บที่มาเป็นช่วง ๆ และจางหายไป
คุณปรัญช์พูดแต่กดความเจ็บเอาไว้คนเดียว ท่านขยับตัวให้นั่งสบายขึ้น
“เสือจัดงานแต่งงานภายในอาทิตย์หน้านี้เลยนะลูก เสร็จงานแต่งงาน ลุงกับแม่ของเราจะเดินทางไปลำปางเลย”
เสือขยับตัวเข้าใกล้เขาด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน สิ้นบุญพ่อก็มีลุงปรัญช์ที่ดูแลครอบครัวเขาเป็นอย่างดี และรักเขาเหมือนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคนหนึ่ง
คุณปรัญช์เรียกคุณสมบูรณ์ทนายเข้ามาใกล้ ๆ แล้วโบกไม้โบกมือให้เสือออกไปจากห้อง
งานแต่งจึงได้จัดขึ้นอย่างรีบเร่งโดยไม่ให้เจ้าสาวได้เตรียมตัว เพียงแค่บอกล่วงหน้าหนึ่งวันเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชุด รองเท้า หรือทุกอย่าง เสือเป็นคนจัดการให้หนูอิงทั้งหมด
เขาผ่อนลมหายใจ เมื่อเห็นสาวสวยที่นั่งอยู่ที่เบาะข้าง ๆ เงียบเสียงไป
‘คงจะเพลียและก็เหนื่อย’ ใจของเขานึกสงสาร แต่ก็อดอมยิ้มด้วยความอิ่มเอมในหัวใจไปด้วยไม่ได้
ชายหนุ่มตั้งใจขับรถให้ช้าลงและไม่เหวี่ยงตอนเข้าโค้งเหมือนตอนแรกที่อยากแกล้งเธอกลับ เพื่อให้เธอนอนหลับได้สบายขึ้น เขาจอดรถชิดข้างทาง ก่อนจะเอนเบาะลง เสือเอื้อมหยิบหมอนที่วางอยู่ด้านหลัง มาวางกันไว้ไม่ให้หน้าเธอชนกับกระจกรถอีกข้าง ร่างบางไม่ได้รู้สึกตัว สงสัยเมื่อคืน พี่เสือคงจะใช้งานตัวเธอหนักเกินไปแน่ ๆ
จากตรงนี้ไปอีกหกสิบกิโลเมตร เสือเลี้ยวหัวรถเข้าปากทางที่เขียนว่า อุทยานแห่งชาติเขาสก เขาขับรถเข้าไปจนเกือบสุดเขตแดนทางเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก
ทรีท็อป บังกะโล อยู่เบื้องหน้า เขาหักเลี้ยวเข้าไปในเขตบังกะโลที่ติดกับที่ตั้งสำนักงานของเขตอุทยาน เขาเอื้อมมือมาเขย่าที่ตัวเธอเบา ๆ
“หนูอิง ถึงแล้วครับ” เสือเอ่ยเรียกหนูอิง
มีเด็กผู้ชายที่ให้การต้อนรับ ออกมาเคาะที่กระจกรถเรียกเหมือนเป็นการทักทาย ก้มหัวลง
“สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยทักทายเมื่อเสือกดกระจกรถลง
“คุณเสือใช่ไหมครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามชื่อเขา ตามที่เสือได้โทรมาจองห้องพักไว้แล้ว
“ครับ เดี๋ยวช่วยยกกระเป๋าทั้งหมดลงด้วยนะครับ เอาที่เห็นเป็นถุง ๆ นั้นด้วย” เขาชี้ให้เด็กยกกระเป๋าทั้งสองใบที่วางอยู่หลังรถ และถุงใส่ของอีกสองสามถุง ที่เขาแวะซื้อที่ปั๊มระหว่างเติมน้ำมัน ซึ่งอิงฟ้ายังคงหลับไม่รู้เรื่อง
“ครับผม” เด็กหนุ่มกระวีกระวาดรับปาก
เสือเอื้อมมือไปกดปุ่มล็อก ก่อนที่เปิดประตูลงไปยืนข้างล่าง ชายหนุ่มเดินเข้าไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ด้านใน และสั่งให้ทำอาหารขึ้นไปเสิร์ฟที่ห้องพัก รวมถึงสั่งน้ำแข็งด้วย เขามองตามหลังเด็กหนุ่มที่เรียกเพื่อนอีกคนมาช่วยหิ้วกระเป๋าและข้าวของทั้งหมด ตรงไปยังห้องพักที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างครอบต้นไม้ใหญ่ในบริเวณของบังกะโล
“ดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย” เสือหมุนตัวมองความเขียวชอุ่มของอาณาบริเวณโดยรอบ
อิงฟ้าขยับตัว รู้สึกว่ารถไม่ได้เขยื้อน รู้สึกมึน ๆ หัวนิดหน่อย ได้ยินเสียงเสือเรียกแล้ว แต่ยังไม่อยากจะลืมตา ขยับตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง ยกมือขึ้นบิดขี้เกียจ เสือมาถึงด้านข้างฝั่งที่เธอนั่ง เปิดประตูรถและคว้าเอวบางลงมาจากรถทันที
“ไป เราสองคนขึ้นไปที่ห้องพักกันดีกว่า” เขาใช้มือที่แข็งแรงกว่า หนีบบังคับร่างบางให้เดินตามไปยังบ้านพักอย่างรวดเร็ว ความที่เธอยังคงงัวเงีย อิงฟ้าจึงไม่ได้มีแรงขัดขืนเขาแต่อย่างใด
เสือประคองร่างบางเดินขึ้นบันได หลังจากที่เด็กชายสองคนเดินลงมาถึงชั้นล่าง เขายื่นธนบัตรใบละหนึ่งร้อยให้คนละใบ เด็กสองคนรับไหว้ยิ้มร่า
ห้องที่เสือเลือกอยู่สูงกว่าเพื่อน หลังใหญ่ที่สุดในบังกะโลนี้ เขาดันหลังเธอให้เดินขึ้นไปด้านบน อิงฟ้าขาสั่นพั่บ ๆ หันมามองหน้าเขา
“ไปสิครับ อย่าบอกนะว่ายังกลัว” เขาเอ่ยถามเธอเพราะรู้ว่าอิงฟ้าเป็นโรคกลัวความสูง และที่เสือเลือกมาที่นี่ เธอจะได้ไม่หนีเขาไปไหนได้ เพราะความที่เธอไม่กล้าเดินลงบันไดที่สูงชันเพียงลำพังคนเดียว เขาใช้อีกมือประคองจับข้อศอกเธอไว้และอีกมือจับราวบันได เสือส่งยิ้มหัวเราะออกมาเมื่อเห็นกิริยาที่สั่นงันงกของหญิงสาวตรงหน้า
“หนูอิง ถ้าช้ามันก็ยิ่งน่ากลัวนะ รีบ ๆ เดินเร็วเข้า แล้วก็อย่ามองลงไปข้างล่างด้วยนะครับ” เขาเอ่ยบอกเธอ
อิงฟ้ากล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เหมือนจะฮึด ก่อนจะก้าวเท้าให้เร็วขึ้นตามคำแนะนำจากเขา แต่เธอก็รู้ว่าเมื่อขึ้นไปถึงข้างบนแล้ว มองไปทางไหนก็จะสวยงามไปหมด
