บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

บทที่ 5

ร่างโปร่งบางของหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงวอม เธอรวบผมยาวเป็นหางม้าขึ้นเหนือศีรษะกลมมนปล่อยไรผมคลอเคลียที่ใบหน้าเล็กน้อย ใบหม่อนเลือกหนังสือคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นมาหนึ่งเล่มก่อนจะแลหาที่นั่งพักพิงเพื่ออ่านหนังสือ

เธอเลือกนั่งพิงตรงชั้นหนังสือของร้านหนังสือที่เธอมักจะมาเป็นประจำจนเธอคุ้นเคยกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี

"พักนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลยนะใบหม่อน" เสียงลุงเจ้าของร้านเอ่ยแซวเด็กสาว รู้สึกเอ็นดูเหมือนลูกหลานคนนึง

"เมื่อกี้สอบปลายภาคจ้ะลุงเลยไม่ค่อยว่างมา ตอนนี้หนูปิดเทอมแล้ว ว่าจะมากวนลุงทุกวันเลย" ใบหม่อนเอ่ยพลางส่งยิ้มสดใส ใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นน่ามองยามเธอฉีกยิ้มกว้าง

"ฮ่าๆ ๆ มาเถอะ ไม่มีเอ็งลุงก็เหงา" ลุงสมเอ่ยทีเล่นทีจริง ก่อนจะเอาน้ำส้มครั้นมาวางตรงหน้าเด็กสาว

"ขอบคุณค่ะ" เธอยกมือไหว้ขอบคุณ ลุงสมมักใจดีแบบนี้เป็นประจำ

กรุ๊งกริ๊งๆ ๆ

เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าเข้าร้านมา ลุงสมจึงขอตัวไปดูแลลูกค้าต่อ ส่วนใบหม่อนก็นั่งอ่านหนังสือพลางท่องศัพท์ตาม หากคำไหนไม่แน่ใจเธอก็จะเปิดเสียงแล้วพูดตาม

ชายหนุ่มเดินเลือกหนังสืออยู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาตั้งใจจะมาหาหนังสืออ่านคลายเครียดเล็กน้อยแต่หนังสือที่เขาเลือกกลับเป็นหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจการลงทุนทั้งนั้น เธียเตอร์เลือกหนังสือมาสองสามเล่มก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์

"โอฮาโยโกไซมัส-สวัสดีตอนเช้า อะริงาโตะ- ขอบคุณ โก...แมง เอ้ย~ โกเม้งนาไซ้-ขอโทษ ออกเสียงแบบนี้ไหมนะ" เสียงหวานใสพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อลองสะกดเสียงตามคำอ่านแต่สำเนียงไม่ได้เสียที

"โกเมงนาไซ" เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองอัตโนมัติใบหน้าหล่อเหลาเด่นหราอยู่ตรงหน้าเธอ หน้าเขานิ่งสนิทไม่มีรอยยิ้มทักทายเลยแม้แต่น้อย

"ใช่ๆ โกเมงนาไซ" ใบหม่อนฉีกยิ้มกว้างเมื่อมีคนสอนออกเสียง เธอกล่าวขอบคุณเขาก่อนจะก้มหน้าไปอ่านหนังสือต่อโดยลืมสนใจชายหนุ่มตรงหน้าทันที

เธียเตอร์มองเด็กสาวเพียงแวบนึงก่อนจะเดินหันหลังกลับ ที่เขามาช่วยเธอเพราะเห็นว่าเด็กคนนั้นพยายามออกเสียงอยู่หลายครั้ง เธียเตอร์หยิบถุงหนังสือที่คิดเงินเรียบร้อยแล้วก่อนจะเดินไปยังประตู

"ใบหม่อน ลุงมีขนมอยู่ห่อนึงแน่ะ" ลุงสมเอ่ยเรียกเด็กสาวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงมุมห้อง

"ใบหม่อน" เธียเตอร์พึมพำเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไป

เสียงครึกครื้นในยามค่ำคืนของหนุ่มสาวที่กำลังโลดแล่นอยู่ในสถานบรรเทิงแห่งหนึ่ง บ้างก็มากับกลุ่มเพื่อน บ้างก็มานั่งดื่มเหงาๆ คนเดียว เป็นปกติของกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานที่จะมาผ่อนคลายในสถานที่แห่งนี้ รวมถึงสองพี่น้องที่กำลังดื่มเหล้าสีเข้มราวกับกินน้ำเปล่า

เคร้ง!

เสียงแก้วกระทบกันของสองพี่น้อง ธามไทลากพี่ชายมานั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วยรู้ว่าหากเธียเตอร์มาด้วยแม่เขาไม่มีทางบ่นแน่ๆ

"พี่เธียร์ดูไม่สนุกเลย มีอะไรหรือเปล่า" ธามไทเอ่ยถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าไม่มีความสุขของเธียเตอร์

"เปล่า ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะมาช่วยงานฉัน เรียนจบมาตั้งนานแล้วนี่" เธียเตอร์วางแก้วเหล้าลงก่อนจะยกขาขึ้นไขว่ห้างนั่งมองน้องชายตัวดีด้วยสายตานิ่งเรียบ

"โธ่ พี่ก็รู้ว่าผมยังไม่พร้อมนี่นา ผมยังอยากเที่ยวอยู่เลย" ธามไทเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน เขาก็เป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไรจนทุกคนเอือมระอากันหมด

"แกก็ยี่สิบหกแล้วนะธาม เมื่อไหร่จะหัดจับนั่นนี่บ้าง ระวังฉันจะหุบสมบัติไว้คนเดียวนะ" เธียเตอร์แสร้งเอ่ยขู่

"พี่ไม่ทำหรอกผมรู้ พี่รักน้องจะตาย" ธามไทเอียงหน้าซบไหล่พี่ชายทีเล่นทีจริงอย่างหยอกเย้า

"เฮ้ย ไปไกลๆ ขนลุก" เธียเตอร์ทำท่าขนลุกสยอง หากคนไม่รู้จักคงคิดว่าเขากับธามไทเป็นเกย์แน่ๆ

"ฮ่าๆ ๆ พี่ก็เขินเป็นนี่นา นึกว่าจะทำเป็นแต่หน้าเดียวซะอีก" ธามไทหัวเราะดังลั่นที่แหย่พี่ชายได้

"เดี๋ยวเถอะ!" เธียเตอร์ยกเท้าขึ้นหมายจะถีบน้องชายตัวดีให้สมใจแต่เจ้าตัวกระโดดหลบเสียก่อน ธามไทหันมาทำหน้าทะเล้นก่อนจะลุกออกไป

"ไปหาน้องมิ้วดีกว่า ฮ่าๆ ๆ " เธียเตอร์ได้แต่ส่ายหัวเอือมๆ ให้กับน้องชาย คงยากที่จะรบเร้าให้ธามไทยอมมาทำงานกับเขาได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel