บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

บทที่ 1

กลิ่นกะเพราหอมโชยขึ้นเตะจมูก เสียงผัดตะหลิวดังกระทบกับกะทะบ่งบอกถึงความชำนาญของผู้ทำได้เป็นอย่างดี 'ใบบัว' ทำเช่นนี้ทุกวัน เพื่อรอบุตรสาวคนที่เหลือเพียงคนเดียวกลับจากโรงเรียน

"แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วจ้า" เสียงหวานใสดังแว่วเข้ามาในบ้านก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่มาเสียอีก

"กลับมาแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่าไป แม่ทำกับข้าวเสร็จพอดี" ใบบัวเอ่ยบอกบุตรสาวเสียงนุ่ม

"จ้ะแม่ หนูไปอาบน้ำก่อนนะ" เด็กสาวเข้ามาหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ก่อนจะวิ่งเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

'ใบหม่อน' เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโตสีดำสดใสอยู่ภายใต้แว่นกรอบใหญ่ จมูกไม่ถึงกับโด่งมากแต่เชิดรั้นนิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าตัวดื้อเอาการ ปากกระจับสีชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ เธออาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคน เดิมทีอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ แต่พ่อและพี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปเมื่อแปดปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในตอนนี้เธออายุได้สิบเจ็ดปีย่างสิบแปดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว

แม่เธอทำขนมไทยขายดำรงชีพและส่งเธอเรียน ครอบครัวเธอไม่ถึงกับลำบากเพราะได้เงินประกันจากบิดาที่เป็นข้าราชการ แม่เธอสอนให้เธอประหยัดและอดออม เงินมีได้ก็หมดได้เช่นกัน เธอเป็นคนน่ารักเรียนเก่งและเป็นเด็กดีเสมอมา จนบางครั้งแม่เธออดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ด้วยรู้ว่าบุตรสาวเป็นคนหัวอ่อนและเชื่อคนง่าย

"อื้อ หอมจัง" ใบหม่อนทำจมูกฟุดฟิดๆ ใกล้จานข้าวจนต้องถูกเอ็ด เธอหันไปยิ้มแป้นอย่างขอโทษขอโพย

"เรียนหนักไหมลูก" ใบบัวเอ่ยถามบุตรสาว ด้วยรู้ว่าช่วงนี้ใกล้สอบปิดเทอม เธอเห็นใบหม่อนอ่านหนังสือทุกครั้งในยามว่าง

"นิดหน่อยค่ะแม่ เอ้อ แม่จ้ะพรุ่งนี้หนูขอเงินไปจ่ายค่าชีสหน่อยนะจ้ะ" เธอเอ่ยอย่างเกรงใจ

"ได้สิ เดี๋ยวแม่วางไว้ให้หลังตู้เย็นนะ"

ในทุกๆ วันใบบัวต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อทำขนมไทยออกไปขายที่ตลาดในยามเช้า เธอจะแบ่งเงินไว้ให้ลูกเป็นสัดส่วนอย่างนี้ทุกวัน ถึงแม้จะเจอกันแค่ในตอนเย็นหลังเลิกเรียน ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวลดลงเลยแม้แต่น้อย

"วันนี้หนูขอนอนกอดแม่หน่อยนะ มะรืนนี้หนูก็จะสอบแล้ว" เธอคลี่ยิ้มสดใสให้ผู้เป็นแม่

"ได้สิจ้ะ"

เช้าในวันถัดมาใบหม่อนมาโรงเรียนตามปกติในทุกๆ วัน นับว่าเธอเป็นเด็กที่เรียนได้เกรดเฉลี่ยดีที่สุดในชั้นเรียน และเป็นที่รักของเพื่อนหลายๆ คน

"หม่อน! ทางนี้" หยกโบกมือเรียกเพื่อนสาวที่กำลังเดินตรงไปยังอาคารเรียน ใบหม่อนโบกมือตอบก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งจับกลุ่มอยู่

"ทำอะไรกันอยู่อะ" หญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งที่ไม้หินอ่อนอย่างคุ้นชิน

"หม่อน แกติวเรื่องนี้ให้ฉันหน่อยสิ ฉันอ่านหลายรอบแล้วไม่เข้าใจเลย" เบลล์ถอนหายใจราวกับเหนื่อยหน่าย

"ได้สิ"

"ไอ้หม่อน แกทำไมเก่งจังวะ ตอนเด็กแม่เอาอะไรให้กินเหรอ ฉันจะได้กินบ้างหัวฉันไม่แล่นเลยเนี่ย" โยบ่นพลางหยิบขนมกรุบกรอบขึ้นมาแกะกินหน้าตาเฉย

"โอ้ยย ก็แกเอาแต่เล่นกับกินแบบเนี่ย ตอนไหนจะฉลาดเล่า" หยกอดที่จะพูดเหน็บเพื่อนสาวไม่ได้ โยเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะเคี้ยวขนมต่อ

"มาๆ เดี๋ยวฉันติวให้พร้อมกันทีเดียวเลย พรุ่งนี้เราต้องสอบผ่านกันทุกคนนะ" ใบหม่อนคลี่ยิ้มสดใสก่อนจะเริ่มติวหนังสือให้กับเพื่อนๆ

"หม่อนๆ คุณครูเรียกหาน่ะ" เด็กผู้ชายใบหน้าจิ้มลิ้มวิ่งเข้ามาบอกเธอก่อนจะวิ่งหนีหายไป

"ครูเรียกแกทำไมอะ"

"ไม่รู้สิ งั้นเดี๋ยวฉันมานะ พวกแกติวไปก่อนเลย"

ใบหม่อนเดินขึ้นมายังห้องพักครูเธอเคาะประตูสามครั้งก่อนจะได้รับอนุญาต ครูวัยกลางคนกำลังนั่งเช็คเอกสารอย่างขมักเขม้น

"อ้าว มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ"

"คุณครูเรียกหนูมามีอะไรเหรอคะ" เธอไม่รีรอที่จะถามเข้าประเด็นในทันที

"ครูมีข่าวดีมาบอก อะนี่จ้ะ" คุณครูยื่นเอกสารใบหนึ่งให้กับเธอ ใบหม่อนรับมาอย่างงงๆ แม้จะไม่รู้ว่าข่าวดีคืออะไร เธอขยับแว่นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าอ่านผิดไปหรือเปล่า แต่เธอก็ลองอ่านอีกครั้งความหมายมันก็ยังคงเหมือนเดิม

"มะ..หมายความว่าไงเหรอคะ"

"ก็หมายความว่า ที่เธอสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นสำเร็จแล้วไงจ้ะ ครูดีใจด้วยนะ"

คุณครูเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม รู้สึกดีใจกับลูกศิษย์จากใจจริงเพราะเธอขยันและทุ่มเทกับการเรียนมาก ความฝันของใบหม่อนคือการได้เรียนต่อสูงๆ และเรียนที่ดีๆ เธอตั้งใจอ่านและสอบชิงทุนตามความฝันและวันนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้ว

"ขอบคุณนะคะครู หนูดีใจมากๆ เลยค่ะ" ใบหม่อนเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลออย่างดีใจ ความฝันเธอใกล้สำเร็จแล้วเธอจะตั้งใจเรียนให้สมกับที่แม่ยอมลำบากส่งเสียเธอเรียนจนได้ดี

"ครูดีใจด้วยนะใบหม่อน เธอเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียน ครูเชื่อว่าเธอจะต้องเรียนจบและมีงานที่ดีในอนาคตแน่นอนจ้ะ" ครูสวมกอดเธอแนบแน่นด้วยความรักความเอ็นดูเหมือนลูกหลานคนนึง

หลังจากเลิกเรียนใบหม่อนก็รีบปั่นจักรยานกลับบ้านในทันทีด้วยหัวใจเปี่ยมไปด้วยความสุข วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุด เธอยิ้มให้กับทุกคนที่ขี่รถผ่าน ทำไงได้ก็เธอมีความสุขนี่นา

"แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วจ้า แม่ แม่" ใบหม่อนวางกระเป๋าลงที่โต๊ะนั่งก่อนจะวิ่งหาผู้เป็นแม่

"อะไร เรียกเสียงดังทำไมหม่อน ฮึ" ใบบัวที่นั่งเก็บผักอยู่ที่สวนหลังบ้านดุลูกสาวเล็กน้อยเมื่อเธอตะโกนโหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่นบ้าน

"ขอโทษจ้ะแม่ ก็หนูดีใจนี่นา แม่ๆ ดูนี่" ใบหม่อนยื่นเอกสารไปให้แม่ได้ดู ก่อนที่ใบบัวจะคลี่ยิ้มออกมา

"จริงเหรอหม่อน หม่อนจะได้ไปเรียนต่อจริงๆ เหรอลูก" ใบบัวโอบกอดลูกรักด่วยความดีใจ เธอรู้ว่านี่คือความฝันของบุตรสาว แม้จะรู้สึกใจหายไปบ้างที่ต้องห่างไกลลูก แต่นี่คือความหวังเดียวที่เธอจะทำให้ลูกได้

"จริงสิจ้ะแม่ ครูบอกว่าอีกสองเดือนหนูก็ต้องไปดูโรงเรียนที่ญี่ปุ่นแล้วจ้ะ หนูจะได้เรียนรู้และปรับสภาพตัวได้ง่ายไงจ้ะ แม่ดีใจกับหนูไหม หนูดีใจมากๆ เลยนะ"

ในขณะที่ใบหม่อนบรรยายความรู้สึกของเธอ ใบบัวเองก็หูดับไปตั้งแต่ที่ลูกบอกว่าต้องไปในอีกสองเดือนข้างหน้า มันเร็วไปสำหรับเธอ เธอและลูกไม่เคยห่างกันไกลมากขนาดนี้ ลูกจะอยู่ยังไงจะอยู่ได้ไหม คำถามมากมายสารพัดในหัวเธอ ใบบัวคว้าลูกเข้ามากอดไว้แน่น ลูบผมนุ่มสลวยของเธออย่างอ่อนโยน

"แม่ แม่ร้องไห้ทำไมจ้ะ หรือว่าแม่ไม่อยากให้หนูไป หนูไม่ไปก็ได้นะแม่" ใบหม่อนร้องอย่างตกใจ เมื่อผละกอดแล้วเห็นแม่ร้องไห้

"เปล่าหรอกจ้ะ แม่แค่ดีใจมากและ...ใจหาย แม่เป็นห่วงลูก"

"โธ่แม่ หนูดูแลตัวเองได้น่า แม่ไม่ต้องห่วง" เธอกอดมารดาอย่างปลอบใจ ขอใหแม่มั่นใจในตัวเธอ เธอจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังเด็ดขาด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel