ตอนที่ 2 ดินเนอร์สุดพิเศษ 2
รถเลี้ยวเข้าจอดที่โรงแรมหรูที่อยู่ไม่ห่างมากนัก คนขับรถลงมาเปิดประตูรถเพื่อให้บริณัยและอารียาลงจากรถได้สะดวกขึ้น บริณัยเดินนำอารียาไปที่ห้องอาหารฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ด้านใน ส่วนอารียาที่มัวแต่มองสำรวจความหรูหราของโรงแรมอยู่ก็ค่อย ๆ เดินตามอีกฝ่ายไปช้า ๆ ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
ห้องอาหารที่บริณัยเลือกนั้นถูกจัดแยกออกมาเป็นส่วนตัว บนโต๊ะเป็นหินอ่อนสีดำสนิทที่ปิดกั้นด้วยกระจกติดฟิล์มทึบชนิดที่บุคคลภายนอกไม่สามารถมองผ่านเข้ามาได้
“นั่งเลยอาย” บริณัยเรียกเลขาฯ สาวที่มัวแต่มองสำรวจโดยรอบให้นั่งลง
“เอ่อ…ค่ะ” เธอตอบแล้วรีบพาตัวเองไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเจ้านายหนุ่ม
แม้ภายนอกจะเห็นว่าเธอทำตัวเป็นปกติ แต่ที่จริงแล้วอารียากำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นี่อาจเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอได้มีโอกาสมารับประทานอาหารกับเขาสองต่อสองในห้องส่วนตัวเช่นนี้
เมื่อพนักงานที่เดินนำทั้งคู่เข้ามาออกไปแล้ว พนักงานคนใหม่ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเมนูอาหาร
“เมนูค่ะคุณผู้ชาย”
พนักงานวางเมนูลงบนโต๊ะให้กับลูกค้าหนุ่มหล่อสาวสวยอย่างเบามือตามมารยาทที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี แล้วพาตัวเองไปยืนด้านข้างอย่างสงบเรียบร้อยเพื่อรอรับออร์เดอร์
บริณัยและอารียาต่างไล่สายตาไปตามเมนูที่อยู่ในมือ เพียงไม่นานเขาก็เลือกเมนูเซ็ตที่ต้องการได้ ขณะที่รอเลขาฯ สาวเลือกเมนูของตนเอง เขาสังเกตว่าเธอมีสีหน้ายุ่งยากเล็กน้อย
“ทานอะไรดีอาย”
“เอ่อ…ฉันเลือกไม่ค่อยถูกน่ะค่ะ” อารียาตอบอาย ๆ
เธออ่านเมนูภาษาอังกฤษออกทุกตัว แต่เธอไม่รู้จักรายการอาหารที่ปรากฏบนนั้นเลยสักอย่าง ชื่ออาหารที่มีการบรรยายสรรพคุณของวัตถุดิบเลอเลิศทำให้เธอไม่กล้าที่จะสั่ง
“อ้อ…นึกว่าเรื่องอะไร” บริณัยยิ้มน้อย ๆ อย่างเข้าใจหญิงสาว
“มาผมช่วยสั่ง ว่าแต่คุณอยากทานเป็นเนื้อสัตว์หรือซีฟู้ดดีล่ะ”
“เป็นซีฟู้ดดีกว่าค่ะ”
“งั้นสั่งเซ็ตเดียวกับผมละกัน” ชายหนุ่มสรุป ซึ่งอารียาก็เห็นด้วย ให้เขาสั่งให้ดีกว่าเลือกสั่งเองมั่ว ๆ แล้วออกมากินไม่ได้
เมื่อตกลงกันได้แล้วบริณัยก็ส่งสัญญาณให้พนักงานมารับออร์เดอร์
พอพนักงานออกไปแล้วความเงียบก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง บริณัยลอบมองใบหน้าของเลขาฯ คนสวย ที่กำลังก้มดูโทรศัพท์มือถือ เมื่อสักครู่มีเสียงข้อความเตือนเข้ามา เธอคงกำลังตอบกลับกระมัง พอหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา สายตาดันปะทะกับดวงตาคมเข้มเข้าพอดี ในนั้นมีร่องรอยของบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เธอทำตัวไม่ถูก เธอเผลอหลุบตาลงต่ำด้วยไม่กล้าสบสายตาสีดำขลับตรงหน้า
แล้วความกระอักกระอ่วนได้เริ่มผ่อนคลายลงไปบ้างเมื่อพนักงานเดินเข้ามาอีกครั้ง ไวน์ขาวชั้นดีถูกรินให้กับลูกค้าทั้งสอง จากนั้นบริณัยก็ส่งสัญญาณให้ออกไปได้ เขาไม่ต้องการคนคอยบริการเพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า แก้วไวน์ถูกยกขึ้นเป็นสัญญาณเชื้อเชิญให้หญิงสาวร่วมดื่มด้วยกัน
“จะดีเหรอคะคุณบลู” เธอไม่อยากดื่มเพราะรู้ว่าตนเองคออ่อนมากแค่ไหน
“ดีสิ วันนี้การเจรจาสำเร็จนะ ต้องฉลองกันหน่อย” เขาพูดพลางยิ้มให้เธออย่างเปิดเผย
อารียามีสีหน้าลังเลแต่ก็ยกแก้วของตนขึ้นมาเพราะเกรงว่าจะเสียมารยาท เมื่อแก้วก้านยาวสองใบกระทบกันดังกริ๊งเบา ๆ ก็ถูกยกจรดริมฝีปากของทั้งสองคน
อารียาเผลอเลียริมฝีปากเมื่อได้ลิ้มรสไวน์จิบแรก เธอไม่ใช่คนที่ชอบดื่มของมึนเมา แต่ก็สามารถบอกได้ว่าไวน์ขวดนี้ต้องเป็นไวน์ราคาแพงอย่างแน่นอน
บริณัยที่ลอบสังเกตเลขาฯ สาวอยู่ตลอดถึงกับใจกระตุกที่เห็นลิ้นเล็ก ๆ เผลอเลียริมฝีปากอวบอิ่ม กิริยาของเธอเป็นไปโดยธรรมชาติ แต่นั่นกลับดูยั่วยวนในสายตาเขาเหลือเกิน จนทำให้บางสิ่งบางอย่างตื่นจากการหลับใหลขึ้นมา
“ชาโต้ ดิแกม”
“คะ?” จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นมา ทำให้อารียางงไม่น้อย
