บทที่12 ซวยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
อริสาฟังอย่างตั้งใจก่อนจะถอนใจพรืด เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านลินญาก็ชอบพอสีหราชเช่นกัน นี่ถ้ารู้นะเธอจะยุให้จีบกันตั้งแต่มัธยมแล้วแต่คนที่แย่ที่สุดก็ไม่พ้นศารทูล นายนั่นรู้ทั้งรู้ว่าเขาชอบกันทำไมถึงอมพะนำอยู่จนเรื่องเลยเถิดมาถึงตอนนี้ ความจริงคือนายคนนั้นควรโดนหนักที่สุด....แต่ทำไมไอ้คนที่รับยาไปเต็ม ๆ เป็นเธอเล่า
เฮ้อ เหนื่อยกับโชคชะตา พอคิดมาถึงตรงนี้ก็คิดเรื่องนึงขึ้นมาได้จนต้องจ้องร่างบอบบางของสาวแว่นอย่างสำรวจ
“ถึงวันนั้นฉันจะเมาแต่จำได้ว่าสิงห์ลากแกกลับเข้าบ้าน เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”
นลินญาส่ายหน้าหัวแทบหลุดทว่าแก้มกับแดงจนน่าสงสัยเข้าไปใหญ่ อริสาพยายามข่มความคลื่นไส้เดินเข้าไปใกล้สาวแว่นเพื่อคาดคั้นและจับผิด “พูดความจริงมานะ คืนนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?”
“ไม่มี...อย่าลืมสิว่าฉันเป็นวันแดงเดือดนะ” นลินญายังคงปฏิเสธ อริสามองอย่างจับผิดก่อนจะลองคิดตามแล้วพยักหน้า
“แสดงว่าวันนั้นแกก็แยกกลับห้องไปก่อนไม่รู้ว่าหมอสิงห์มีอาการอะไรหรือไม่งั้นสิ” อริสาคาดเดาทว่านลินญากลับส่ายหน้าเป็นการตอบกลับ
“อ้าว ไหนบอกไม่มี ตกลงมันยังไงกันเนี่ย?”
“ก็ไม่มีอะไรลึกซึ้งเพราะฉันเป็นวันนั้น แต่ก็ต้องช่วยหมอสิงห์นิดหน่อย” พูดไปแล้วนลินญาก็เขินอายจนต้องยกมือปิดหน้า อริสาอ้าปากค้าง ไอ้คำว่าช่วยนี่ถ้าไม่ขยายความเธอจะเข้าใจไปในทางทะลึ่งแล้วนะ ไอ้ท่าทีเขินจนหน้าแดงแบบนี้อย่าบอกนะว่าเป็นอย่างที่เธอคิด
อริสาถามทางสายตา นลินญาก็พยักหน้าแทนคำตอบสองสาวจึงได้แต่หน้าแดงใส่กัน
เพราะไม่อยากให้เพื่อนเขินจนตัวแตกไปก่อนเจ้าของห้องจึงรีบถามเปลี่ยนเรื่องหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบแผ่ปกคลุมมาสักพัก “แล้วหลังจากนั้นเป็นไง แกกับหมอสิงห์ตอนนี้น่ะ...เป็นยังไง?”
“เป็นอะไรยังไงล่ะ ฉันหลบหน้าเขาตั้งแต่กลับกรุงเทพฯจนถึงตอนนี้เนี่ย เจอแต่เสือไม่เจอสิงห์เลย ฉันกลัวเขาเกลียดอะแก”
“คิดมาก หมอสิงห์น่ะรักแกจะตายจะโกรธแกได้ไง” บก.สาวปลอบใจก่อนจะเสนอความคิดเห็น “เอาอย่างนี้มั้ย อาทิตย์หน้าฉันมีวันหยุดเราแวะไปหาหมอสิงห์กัน ทำทีเป็นไปเรื่องปวดท้องที่หมอสิงห์บอกให้ไปหาไงแล้วแกก็หาโอกาสขอโทษเขา ดีมั้ย”
“เป็นความคิดที่ดี วันไหนดีละ?”
“อืม...” หญิงสาวส่งเสียงราวกับคิดหนักพร้อมกับมองตารางงานที่ว่างแค่วันพฤหัสบดีและวันศุกร์หน้า “อาทิตย์หน้าฉันว่างวันพฤหัสกับศุกร์ แกว่าไง”
“เป็นวันศุกร์แล้วกันแก วันพฤหัสฉันมีนัดลูกค้า” นลินญาเลือกวันที่เธอสะดวกที่สุดก่อนจะชวนอริสาออกไปทานอาหารเที่ยงด้วยกันเนื่องจากได้เวลาพักเที่ยงแล้ว
แม้จะบอกนลินญาว่าว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์หน้าแต่จริง ๆ แล้วบ่ายวันต่อมาก็เป็นวันว่างของอริสาเช่นกันแต่หญิงสาวกลับไม่บอกนลินญาเพราะอยากใช้วันว่างนี้ไปหาหมอ...ที่ไม่ใช่สีหราช
ด้วยอาการที่ฟ้องให้กังวลและอริสาเป็นคนไม่อยากจะรู้สึกค้างคาหรือกังวลหญิงสาวจึงอยากจะตรวจให้รู้ชัดไปเลยว่าท้องหรือไม่...จากนั้นเธอจะเอายังไงค่อยคิดอีกที
ในตอนเช้าอริสามาทำงานปกติโดยไม่ได้บอกกับชริมาหรือแม้แต่แพนธีราว่าจะไปหาหมอ แน่นอนว่าเรื่องในคืนนั้นนอกจากเธอกับคู่ปรับแล้วไม่มีเพื่อนคนไหนรับรู้ เช่นเดียวกับเรื่องยาในชาที่รู้กันแค่4คนเท่านั้น แม้จะเป็นเพื่อนแต่เธอก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่จึงไม่ได้เล่าให้แพนธีราฟัง และเดาได้ว่าอีกสามคนก็ไม่ต่างกัน
“ช่วงบ่ายพี่ไม่เข้ามาใช่มั้ยคะ?” ชริมาสอบถามเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สาวกำลังเตรียมตัวออกจากห้องด้วยท่าทีที่คล้ายกับว่าจะไม่กลับเข้ามาแล้วในวันนี้
“ใช่ พอดีมีธุระน่ะ ว่าแต่...สองคนนั้นออกไปแล้วใช่มั้ย?” อริสาตอบและถามกลับถึงบุคคลสองคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด ที่ผ่านมาเพราะไม่อยากจะมีปัญหาและไม่อยากเสวนาเธอจึงหลบเลี่ยงคนทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง ก่อนเวลาพักจะต้องให้ชริมาไปดูให้เสมอว่าคู่สามีภรรยาคู่นั้นออกไปกันรึยัง วันนี้ก็เช่นกัน
“ออกไปแล้วค่ะ ได้ยินว่านางมีนัดตรวจครรภ์ล่ะ” ชริมาตอบคำตอบของสาวรุ่นน้องทำเอาอริสาถอนใจพรืด หลักฐานการนอกใจที่ขยายขึ้นมาทิ่มตาเธอเรื่อย ๆ นี่มันช่างทำให้ปวดใจจริง ๆ
แม้ว่าตอนนี้เธอจะเริ่มจะไม่รู้สึกอะไรกับตฤณกันต์แล้วแต่ก็จี๊ดขึ้นทุกครั้งที่หันไปเห็นนภิตราในชุดคลุมท้อง มันย้ำเตือนว่าเธอโง่ขนาดไหนอยู่เป็นประจำเลยล่ะ
“ออกไปแล้วก็ดี พี่จะได้ไม่ต้องเจอ ฝากเคลียร์ห้องแล้วก็บอกแพนด้วยนะว่าบ่ายพี่ไม่เข้า” อริสาสั่งผู้ช่วยสาวก่อนจะลุกออกจากห้อง พยายามก้าวเท้าออกจากห้องทำงานด้วยข้างที่จะนำโชคให้ตัวเองก้วยความคิดไม่สบายใจ ...ก็หวังว่าเธอจะไม่ต้องเจอะเจอคนที่ไม่อยากจะเจอในวันนี้และผ่านพ้นวันนี้ไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรอยู่ในท้อง
เวลาต่อมา...
จะมีใครซวยแบบเธอมั้ย? ...อริสาก็ได้แต่ถามตัวเอง อุตส่าห์แอบมาหาหมอดันมาเจอคนที่ไม่อยากเจอถึงสี่คนในเวลาเดียวกัน
“พี่อลินมาหาหมอเหรอคะ?” น้ำเสียงดัดจริตของนภิตราผู้ใสซื่อถามมาด้วยน้ำเสียงคล้ายจะห่วงใยขณะที่คนข้างกายของหญิงสาวอีกสองคนยังคงยืนนิ่ง
หนึ่งก็คือตฤณกันต์ผู้นึกสงสัยแต่ก็ต้องวางมาดว่าไม่สนใจ ขณะที่อีกคนคือธารินทร์มารดาของชายหนุ่มที่ไม่ค่อยปลื้มเธอมาตั้งแต่แรกแต่ปลื้มอกปลื้มใจลูกสะใภ้ผู้ใสซื่อเงินหนา
อริสาอยากจะอาละวาดใส่คนทั้งสี่แต่ก็ทำได้แค่นิ่งเพื่อไม่ให้เสียลุคบก.สาวสุดสตรองต่อหน้าสาธารณะชน
“มาโรงพยาบาลและเข้าคิวรอแบบนี้ไม่มาหาหมอก็คงมาพบตำรวจมั้ง” อริสาตอบไปในที่สุดก่อนจะมองอีกคนที่เข้าในข่ายไม่อยากเจอ
จะบ้าตายเธออุตส่าห์หลบและกำชับกำชาพยาบาลว่าไม่ต้องการตรวจกับหมอสีหราชแต่ดันเจออีกฝ่ายเข้าจัง ๆ วันนี้เธอคงก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้างถึงได้ไม่เป็นดั่งหวังแบบนี้
“พี่พยาบาลคะ บอกแล้วไงว่าไม่ตรวจกับหมอสิงห์” หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจนภิตราและครอบครัวแล้วหันไปกระซิบกับพยาบาลสาวที่จัดแจงให้เธอเข้ามารอในห้องตรวจและพบเข้ากับคนที่ไม่อยากเจอทั้งสี่คน
“พอดีหมอมิ้นลากิจกะทันหันน่ะค่ะ คนไข้ของหมอมิ้นเลยโอนมาให้หมอสิงห์” พยาบาลสาวกระซิบบอกก่อนจะยื่นประวัติคนไข้ทั้งสองรายให้กับคุณหมอ คนไข้รายแรกก็คือนภิตราที่ความจริงมีนัดตรวจครรภ์กับหมอผู้หญิงอีกคนแต่เพราะวันนี้หมอคนนั้นมีธุระกะทันหันและสีหราชก็ว่างและรับอาสาตรวจแทนให้ และอีกรายก็คืออริสา
สีหราชรับประวัติของคนไข้ทั้งสองมาทว่ากลับไม่ได้อ่านรายละเอียดข้างในในทันที ดวงตาจดจ้องมาที่เพื่อนสาวด้วยความสงสัย “แกมาตรวจภายใน หรือมาทำอะไร ทำไมถึงเจาะจงไม่ตรวจกับฉัน?”
“เอ่อ มาตรวจภายในน่ะ แต่คิดดูอีกที ไม่ตรวจแล้วดีกว่า กลับละนะ” อริสาลนลานบอกก่อนจะออกจากห้องตรวจไปทันทีทิ้งไว้เพียงความสงสัยให้กับคุณหมอหนุ่มและอีกสามคน
ทว่าอริสาคงลืมไปว่าก่อนจะเข้ามาห้องตรวจได้แจ้งจุดประสงค์ให้กับพยาบาลไว้แล้วและจุดประสงค์ของหญิงสาวก็ถูกระบุชัดในระเบียนประวัติทันทีที่สีหราชเปิดดูก็รู้ได้ในทันที
‘ตรวจการตั้งครรภ์งั้นเหรอ?’ สีหราชได้แต่เก็บความสงสัยไว้และทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เสร็จงานแล้วค่อยสืบหาความจริงก็ยังไม่สาย
