
บทย่อ
พลิกเกมล่าอาญามาเฟีย เป็นภาคต่อจาก โซ่สวาทจอมวายร้าย, ดวงหทัยในดงปืน, เป็นเรื่องราวของแอชลี่ย์และมีนา มิลาเวียร์… บนโลกใบนี้มีหลายสิ่งไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ บางคนมีตัวเลือกมากมาย ในขณะที่อีกหลายคนต้องเจอทางตัน เชกเช่นเดียวกับมีนา มิลาเวียร์ นางนกต่อแสนสวยที่เสี่ยงทำทุกอย่างเพื่อบิดา ไม่เว้นแม้แต่เข้าถ้ำเสือทั้งที่รู้ว่าสิ่งที่จะทำเป็นเรื่องผิดแต่ก็ทำเพื่อให้พ่อแท้ๆยอมรับ เพราะเลือดยังไงก็ต้องข้นกว่าน้ำ เมื่อเกมล่าเดินมาถึงทางตัน เพราะคนที่แอบมีใจกลายร่างเป็นนางนกต่อหลอกล่อให้เขาตายใจ แล้วล้วงความลับจากจีเอ็มโอไปให้บิดา อสูรร้ายอย่างแอชลี่ย์จำต้องจับนางนกต่อ เข้าไปอยู่ในกรงและลงโทษเธอด้วยเกมสวาทเร่าร้อน ก่อนจะตามล่าคนที่อยู่เบื้องหลังโดยมีชีวิตเธอเป็นเดิมพัน แม้ความแค้นจะสุ่มแน่นอกแต่ความสวยน่ารักของนางนกต่ออย่างมีนา มิลาเวียร์ ก็สยบหัวใจอสูรร้ายให้ศิโรราบจนได้…
1.บทนำ
*** ทักทายคร้า ***
พลิกเกมล่าอาญามาเฟีย เป็นภาคต่อจาก โซ่สวาทจอมวายร้าย, ดวงหทัยในดงปืน, เป็นเรื่องราวของแอชลี่ย์และมีนา มิลาเวียร์ค่ะ ความสนุกยังครบรสจ้า ไปติดตามกันเลยคร้า…
***
รัฐเวอร์จีเนีย สหรัฐอเมริกา
มายบัค เอ็กซ์เซเลโร่รถยนต์ยี่ห้อหรูของเยอรมนีวิ่งไปบนถนนบลูริดจ์ พาร์กเวย์อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ดวงตาคมกริบภายใต้แว่นกันแดดหนาของแอชลีย์ โจนาธานมัลเตโอ ประธานบริหารคนปัจจุบันของจีเอ็มโอกรุ๊ป ยังคงทอดมองสองฟากถนนที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้อย่างผ่อนคลาย
ห้าปีที่เข้ามารับงานในตำแหน่งประธานบริหารของจีเอ็มโอ ดอกเตอร์หนุ่มได้ทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานอย่างหนัก โดยมีพ่อทูนหัวอย่างเดฟเดวิทและลาห์มานอฟเป็นที่ปรึกษา จนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเข้าที่และทีมงานบริหารสามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง แอชลีย์จึงมีเวลามาพักผ่อนช่วงสั้นๆ อย่างสบายใจ
เดฟเดวิทประธานรุ่นสองนั่งเป็นที่ปรึกษาได้ไม่นาน มาดามสุดที่รักก็คลอดลูกชายคนที่สามให้กับครอบครัว อาเดฟของเขาเลยต้องให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น จึงปล่อยงานทั้งหมดให้เขาดูแล ส่วนครอบครัวของอาลาห์มมีความสุขจนเขาอิจฉา เพราะได้รวมสองไร่เข้าด้วยกันหลังจากคุณตาคุณยายของเจ๊มดเสียชีวิตไปไม่นาน กิจการรีสอร์ตและผลผลิตในไร่ได้รับมาตรฐานจนส่งออกไปขายต่างประเทศ
สำหรับการมาเวอร์จีเนียครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อพักผ่อนเสียทีเดียว เพราะอีกสามวันข้างหน้าจีเอ็มโอได้รับเชิญจากเพนตากอนให้เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาประจำปี เขาจึงเดินทางมาก่อนเพื่อพักผ่อนไปด้วยในตัว และสถานที่ที่ชอบที่สุดคงไม่พ้นความเขียวชอุ่มของธรรมชาติแบบนี้
ธรรมชาติที่สวยงามในเวอร์จีเนียคงหนีไม่พ้นเชแนนโดอาห์ วัลเลย์ (Shenandoah Valley) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของเวอร์จีเนีย พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นไร่องุ่นพันธุ์ดีสำหรับผลิตไวน์ พร้อมมีที่พักอันสงบไว้รอบริการนักท่องเที่ยว
แอชลีย์ขับรถไปตามถนนอันคดเคี้ยวด้วยความเร็วปกติ ใบไม้หลากหลายสีสันที่ร่วงหล่นบนถนนลอยลิ่วเป็นฉากหลัง ชายหนุ่มขับรถมาเรื่อยๆ เพื่อหาห้องพักที่ถูกใจ ไม่นานสายตาคมกริบก็เห็นบ้านหรูสไตล์ทัสคันหลังเล็กสี่ห้าหลัง ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขาซึ่งรายล้อมด้วยสวนองุ่น ปลายนิ้วแกร่งแตะบนปุ่มคอนโทรลเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าสำนักงานเล็กๆ เพื่อติดต่อห้องพัก เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งที่ติดอยู่หน้าประตูดังขึ้น บอกให้เจ้าของรู้ว่ามีแขกเข้ามาใช้บริการ
“สวัสดีค่ะ มิลาเวียร์รีสอร์ตยินดีต้อนรับค่ะ”
แอชลีย์ใช้ความเงียบในการตอบคำถาม เพราะมัวแต่มองเจ้าของร่างโปร่งระหงที่กำลังเอื้อมหยิบเอกสารหลังเคาน์เตอร์ ชุดกระโปรงยาวลายสก๊อตแดงสลับขาวกับเสื้อเชิ้ตเอวลอยอวดหน้าท้องแบนราบ ผมหยักศกสีน้ำตาลยาวปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง ทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปไหนได้
เมื่อไม่มีเสียงตอบจากลูกค้า มีนาหรือโซมิน มิลาเวียร์ นางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกันก็หันกลับไปมอง แอชลีย์เห็นหน้าเจ้าของรีสอร์ตถึงกับหัวใจกระตุกและตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง
มีนาเองก็ชะงักงัน ไม่แน่ใจว่าใช่คนที่เคยรู้จัก หญิงสาวจึงเอี้ยวตัวกลับมาเพื่อพิจารณาเขาให้ชัดเจนขึ้น แต่ความรีบร้อนทำให้เก้าอี้ที่เธอยืนอยู่โงนเงน
“ว้าย!” เมื่อจวนเจียนจะพลัดตกเก้าอี้ มีนาก็อุทานอย่างตกใจ แต่ก่อนที่รองเท้าบูทหนังสีน้ำตาลจะตกลงมา แอชลีย์ก็เหวี่ยงตัวข้ามเคาน์เตอร์ไปรับร่างเธอไว้ มือบางคว้าลำคอหนาเป็นหลักยึดอัตโนมัติ
เมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนกันและกัน ทุกสรรพสิ่งรอบกายหยุดการเคลื่อนไหวไปโดยปริยาย ดวงตาสองคู่สบกันเนิ่นนาน จนกระทั่งมีนาพึมพำออกมาอย่างไม่แน่ใจ
“คุณ...”
แอชลีย์ได้สติคลายอ้อมแขนออกแต่ก็ยังสวมกอดไว้หลวมๆ สายตาคมยังคงทอดมองใบหน้านวลเนียนซับสีระเรื่อไม่กะพริบ มีนาเบี่ยงตัวออกจากวงแขนแกร่ง เขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี หญิงสาวยืนหันรีหันขวางไม่รู้จะขยับไปทางไหน เพราะร่างสูงใหญ่ของคนมาใหม่จับจองที่หลังเคาน์เตอร์จนเต็ม ในขณะที่แอชลีย์เองก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดๆ มาทักทายให้เธอประทับใจ
“ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” แอชลีย์บอกพลางหยิบแว่นกันแดดออกจากสันจมูก มีนามองใบหน้าคมเข้มที่ไม่ได้เจอมาร่วมห้าปี ก่อนจะยิ้มให้เพื่อรักษามารยาท
“บุพเพอาละวาดมั้งคะที่ทำให้เราเจอกันอีก”
แอชลีย์ไม่ตอบ แต่ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ร้านกาแฟกึ่งสำนักงานของเธอ
“คุณต้องการที่พักหรือแค่แวะมาดื่มกาแฟคะ”
“ทั้งสองอย่าง หวังว่าห้องพักคงไม่แพงมากจนเกินไปนะครับ”
“ไม่กี่ดอลลาร์หรอกค่ะ มหาเศรษฐีอย่างคุณจ่ายได้สบายอยู่แล้ว ต้องการพักเดี่ยวหรือแบบครอบครัวคะ ฉันจะได้บอกราคาถูก” เธอถามพลางขยับตัวจะไปหยิบเอกสาร แต่ก็ไม่กล้าเอื้อมเพราะไม่อยากเบียดเขาโดยไม่จำเป็น
“พักเดี่ยวครับ ผมยังไม่มีครอบครัว” แอชลีย์บอกเสียงเรียบ ก่อนจะเปิดประตูออกไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ “คุณเป็นเจ้าของที่นี่เหรอ” เขาชวนคุยพลางยกสะโพกนั่งบนเก้าอี้สูง
“เป็นลูกสาวค่ะ”
“เลิกอาชีพนางแบบแล้วรึไง” เขาถามสั้นๆ พร้อมกับวางท่อนแขนบนเคาน์เตอร์
“ความสวยไม่จีรังยั่งยืนนี่คะ ฉันก็ต้องหาอาชีพรองรับไว้ไม่ใช่เหรอ”
แอชลีย์ยิ้มกับคำตอบที่เธอประชดประชัน แต่ชายหนุ่มยังไม่ทันโต้ตอบใดๆ ชายหญิงสูงวัยก็เดินผ่านประตูเข้ามา
“ว่าไงจ๊ะมีนา วันนี้ลูกค้าเยอะมั้ย”
เสียงอ่อนโยนของกรวลัย (กอน-วะ-ไล) มิลาเวียร์ ที่เดินถือถุงเข้ามาพร้อมกับมาร์ติน มิลาเวียร์ดังขึ้น
“พ่อกับแม่ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ” มีนายิ้มทักทายผู้ให้กำเนิดเสียงสดใส หากสายตาผู้สูงวัยทั้งสองยิ้มให้กับลูกค้าหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
“แสดงว่าลูกสาวเราลืมวันครบรอบแต่งงานของเราแล้วล่ะที่รัก” มาร์ตินหันไปพูดกับภรรยา ทำเอามีนาตาโตและยิ้มให้บิดา
“จริงด้วยสิคะ มีนาลืมสนิทเลย”
“เอาล่ะจ้ะคุณพ่อคุณลูก เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังนะจ๊ะ เดี๋ยวแขกจะรอนาน” กรวลัยยิ้มให้แอชลีย์แล้วยื่นมือไปรอข้างหน้า
“สวัสดีค่ะ กระท่อมมิลาเวียร์ยินดีต้อนรับ” กรวลัยเอ่ยทักทายด้วยภาษาอังกฤษอย่างสุภาพ
แอชลีย์ลุกขึ้นยืน ยื่นมือไปทักทายทั้งกรวลัยและมาร์ติน
“สวัสดีครับ ผมแอชลีย์”
“ถ้าผมจำไม่ผิด คุณคือแอชลีย์ โจนาธานมัลเตโอ ประธานบริหารจีเอ็มโอคนปัจจุบันใช่มั้ย”
แอชลีย์ยิ้มรับอย่างสงวนท่าที รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่คนทำสวนองุ่นรู้จักพ่อค้าอาวุธอย่างเขา กรวลัยหันไปมองสามี ก่อนจะหันกลับไปมองร่างสูงสง่าอีกครั้ง
“รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะที่ได้ต้อนรับคุณ”
“มิได้ครับ ที่นี่สวยสงบและเยือกเย็นจนผมขับผ่านไปไม่ได้ต้องเลี้ยวเข้ามาพัก” ประโยคท้ายเขาชำเลืองมองร่างระหง ทำให้มีนารู้ทันทีว่าถูกเขาแขวะเข้าให้แล้ว
“ฉันจำได้ว่าคุณเป็นนายแบบถ่ายชุดแต่งงานกับมีนาเมื่อหลายปีก่อนใช่มั้ย”
แอชลีย์หันไปสบตาเธอเป็นเชิงถามกับสรรพนามที่ไม่คุ้น กรวลัยจึงเป็นคนเฉลยด้วยสำเนียงชัดเจน
“โซมินมีชื่อไทยว่ามีนาค่ะ ชื่อนี้เป็นชื่อจริงๆ ของมีนา แต่วงการนางแบบจะรู้จักเขาในนามโซมิน”
“คุณป้าพูดไทยได้เหรอครับ”
“ฉันเป็นคนไทยค่ะ มาร์ตินเองก็พูดและฟังรู้เรื่อง” เธอยิ้มให้สามี “เดี๋ยวมีนาพาคุณแอชลีย์ไปดูห้องพักนะจ๊ะ แม่กับพ่อจะไปรอที่บ้าน”
มีนาผายมือเชิญแขก ก่อนจะบอกพนักงานต้อนรับยกกระเป๋าตามไป ร่างโปร่งระหงเดินนำเขาไปที่บ้านพักบนเนินสูง ซึ่งห่างจากบ้านหลังใหญ่ของเธอไม่ไกล แอชลีย์มองบรรยากาศรอบตัวและบ้านพักอย่างถูกใจ ภาพความเขียวชอุ่มของภูเขาและท้องทะเลส่งให้อากาศที่นี่บริสุทธิ์และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
***
