บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด

บทที่ 3 ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด

นีน่ารับฟังอย่างเห็นใจ เธอก็พอเข้าใจอยู่บ้างว่าเรื่องสีของลิปสติกผู้ชายไม่ค่อยจะเข้าใจนักเรื่องเฉดสีต่างๆ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรวมไปถึงข้าวของพวกนี้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ตั้งใจเลือกไม่ต่างอะไรกับเวลาเธอเลือกของให้กับคนรักเลย

แต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังใช้ความคิดและสมองของเธออยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของฟรานซิสก็ดังขึ้น เจ้าตัวจึงขอเดินออกไปรับโทรศัพท์ก่อน ดูแล้วน่าจะเป็นแฟนของฟรานซิสที่โทรมา เขาจึงต้องรีบไปหามุมเงียบๆ เพื่อคุยโทรศัพท์ ดูท่าแล้วเจ้าตัวคงจะโกหกแฟนเพื่อหาเวลาปลีกตัวมาซื้อของไปเซอร์ไพรส์แน่ๆ

นีน่าอดยิ้มไม่ได้ ถ้าเธอได้รับการเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ น้อย ๆจากแฟนของเธอบ้าง เธอเองก็คงยิ้มหน้าบานไปทั้งวัน

“ไหนบอกว่ากลับบ้านไง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?” เสียงคุ้นหูของรีไวน์ดังขึ้นทำให้นีน่าหันไปมองด้วยความตกใจ

“รีไวน์!” เธอไม่ได้บอกรีไวน์ทั้งเรื่องการมาที่นี่รวมถึงเรื่องซื้อของด้วย เพราะไม่คิดว่าจะเจอเขา เธอตั้งใจปกปิดเรื่องที่มากับ ฟรานซิสเพราะกลัวรีไวน์หึงไม่เข้าเรื่อง แต่ดันมาเจอเขาซะได้ เธอจึงได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไม่ถูก และพยายามมองหาฟรานซิส หากว่า ฟรานซิสช่วยเธอพูดละก็รีไวน์จะต้องเขาใจเธอแน่ๆ

“ที่แท้เธอก็หักหลังฉัน เธอคบซ้อนและก็ทำเหมือนว่าฉันเป็นคนโง่ เธอทำแบบนั้นได้ยังไงนีน่า!” รีไวน์ตะคอกใส่นีน่าอย่างเหลืออด เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกสวมเขามาตลอดเวลา แววตาที่เจ็บปวดถูกส่งมาหานีน่าจนเธอรู้สึกผิด แต่เธอก็พยายามที่จะอธิบายให้ฟัง

“ไม่ใช่แบบนั้นนะ พี่ฟรานซิสเขา...”

“ไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันเห็นหมดทุกอย่างแล้ว! เธอคิดว่าจะหลอกฉันไปได้อีกนานแค่ไหน ถ้าฉันไม่บังเอิญมากินข้าวที่นี่ ฉันคงเป็นควายให้เธอสวมเขาไปเรื่อยๆ สินะ” คำพูดที่หลุดออกมารุนแรงและไร้การยั้งคิด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นนัยน์ตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง นอกจากเขาจะไม่ยอมฟังที่นีน่าพูดแล้ว เขายังใช้อารมณ์และคิดเองเออเองทั้งหมด นีน่าที่ทนฟังอยู่นานก็เริ่มมีความโกรธขึ้นมาเหมือนกัน ไม่ยุติธรรมที่เธอถูกใส่ความอยู่ฝ่ายเดียว

“พูดเกินไปแล้วนะรีไวน์ ถ้านายควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ ฉันคงไม่มีอะไรต้องคุยกับนายอีกต่อไป” เธอพูดออกไปอย่างประชดประชัน หวังให้คำพูดของเธอเข้าไปแทงใจเขาบ้าง เหมือนกับที่เขาพูดคำที่รุนแรงใส่เธอ นีน่าคิดว่ารีไวน์จะยอมใจเย็นและพูดคุยกับเธอด้วยเหตุผล แต่เธอไม่ทันได้คิดว่าสิ่งที่พูดออกไปเหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟ

“พูดแบบนี้จะเลิกกับฉันใช่ไหม? ยังไงซะเธอก็มีไอ้หมอนั่นอยู่แล้วนี่ คนอย่างเธอมันจะไปเสียใจอะไร!”

“ใช่! คนอย่างฉันนี่แหละ ที่จะไม่เสียใจกับการได้เลิกกับคนอย่างนายเลยสักนิด..”เธอจ้องมองไปที่รีไวน์ด้วยสายตาที่เจ็บปวด แต่รีไวน์ก็ดูแย่ไม่ต่างจากเธอ แต่สิ่งที่รีไวน์พูดมาทั้งหมดมันคือการดูถูกเธอ และดูถูกความรักที่เธอมอบให้เขา

“หลังจากนี้ไม่ต้องมาเจอกันอีก ไม่ว่าจะในสถานะไหน ฉันไม่อยากเห็นเธออีกต่อไป” รีไวน์ตะคอกใส่เธอ และไล่นีน่าให้ออกไปจากชีวิตของเขาซะ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ นีน่าไม่อยากอยู่ตรงนี้ให้รีไวน์พูดทำร้ายความรู้สึกของเธออีกต่อไป เธอจึงวิ่งหนีออกมาจากร้านขายตุ๊กตาและไปที่ด้านหน้าของศูนย์การค้า เพื่อที่จะนั่งรถกลับบ้าน

แต่เธอก็ยังไม่ลืมที่จะส่งข้อความหาฟรานซิส พี่ชายข้างบ้านของเธอ ว่าเธอไม่สามารถที่จะอยู่ช่วยเลือกของขวัญได้อีกต่อไปแล้ว

นีน่าพยายามสะกดกลั้นความภายในใจอย่างถึงที่สุด เธอไม่อยากจะร้องไห้กลางที่สาธารณะท่ามกลางคนหมู่มากแบบนี้เลย มันน่าสมเพชและช่างดูอ่อนแอ เธอเกลียดการเป็นจุดสนใจ จึงต้องกลั้นใจและฝืนทำตัวให้ดูเข้มแข็งแม้มัจะเจ็บจนทนแทบไม่ไหว

เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน นีน่ารีบตรงดิ่งไปที่บ้านปลีกตัวเข้าห้องตัวเอง ทิ้งร่างกายอันบอบช้ำของเธอลงที่เตียง ฟุบหน้าลงกับหมอน ปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นมาตลอดทางไหลพรั่งพรูออกมาโดยไม่ต้องฝืนอีกต่อไป ความเจ็บปวดถูกระบายผ่านหยาดน้ำตา หวังเพียงแค่ว่าน้ำตาพวกนี้จะช่วยปลอบประโลมความรู้สึกของเธอบ้าง ในช่วงเวลาที่อ่อนแอและต้องเผชิญกับเรื่องนี้เพียงลำพัง

เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงรีไวน์ไม่ได้ส่งข้อความหรือโทรหาเธอเลยสักครั้ง นั่นยืนยันได้ดีว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขาจบสิ้นลงแล้วนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พรุ่งนี้นีน่าจะต้องตื่นไปเรียนเหมือนเคย และหากว่าเธอได้เจอกับรีไวน์ เธอจะทำยังไงดีจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือหลบหน้าเขาดี เธอคิดอะไรไม่ออกเลย แต่ที่รู้ ๆ คือเธอไม่สามารถยิ้มและอยู่เคียงข้างชายคนที่เธอรักได้อีกต่อไปแล้ว

ตัวของรีไวน์เองหลังจากที่นีน่าได้บอกเลิกกับเขาและเดินจากไป เขาเองก็เสียใจมากไม่ต่างกัน เรนกับมั้นท์เองก็ตกใจกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก ทุกคนพยายามที่จะให้กำลังใจรีไวน์ในแบบของผู้ชาย แต่ไม่ว่าจะพูดอะไรรีไวน์ก็ไม่อยากฟังทั้งนั้น

“เอาบุหรี่มาตัวดิ” รีไวน์กับเพื่อนมายังชั้นดาดฟ้าของศูนย์การค้า เพื่อที่จะมาปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองไปกับควันของบุหรี่ และให้นิโคตินได้เยียวยาความเจ็บปวด

พวกเขาก็ไม่ใช่เด็กที่ดีและอยู่ในลู่ในทางนักสักเท่าไร เขาจึงหยิบซองบุหรี่ออกมาก่อนที่จะหยิบบุหรี่หนึ่งมวลยื่นให้รีไวน์ ทั้งสองรู้ดีว่ารีไวน์ไม่สูบบุหรี่อีกเลยตั้งแต่ที่คบกับนีน่า เพราะไม่อยากให้เธอต้องมาดมกลิ่นของบุหรี่ที่ติดตัวเขาไปกวนใจเธอ การกลับมาสูบอีกครั้งเหมือนเป็นการยอมรับว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว

รีไวน์จุดบุหรี่และยกมันขึ้นสูบให้เต็มปอด ก่อนที่จะปล่อยควันออกมา พล่างมองควันลอยในอากาศด้วยแววตาที่ล่องลอย นีน่าเป็นคนที่เขาตั้งใจรักมากที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่เขาเคยคบมาทั้งหมด

เธอสดใสและร่าเริง คอยมอบพลังบวกให้กับเขาตลอด และคอยเตือนเวลาที่เขาทำอะไรที่ไม่ดีลงไป แต่ในตอนนี้ไม่มีนีน่าอีกแล้ว คนที่จะคอยห้ามและบอกโทษของบุหรี่ก็ไม่มีแล้วเช่นกัน

เช้าวันรุ่งขึ้นนีน่าตื่นมาเรียนเหมือนเดิม เธอเลือกที่จะไม่บอกใครเรื่องที่เธอเลิกกับรีไวน์ แม้แต่แฟนต้า เพื่อนสนิทที่อยู่ข้างเธอมาตลอด แต่ไม่ว่านีน่าจะไม่บอก แฟนต้าที่ช่างสังเกตยิ่งกว่าใครก็รับรู้ถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว และนั่นถือว่าเป็นการใส่ใจของเพื่อนที่ดี

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? วันนี้รีไวน์ไม่เห็นมาส่งแกที่ห้องเรียนเลยแบบทุกที” แฟนต้าเอ่ยถามขึ้นทำลายความเหม่อลอยของ นีน่า ตั้งแต่เธอเข้าห้องเรียนมาเธอก็เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างไม่ยอมหยุด ความรู้สึกที่เคว้างคว้างและเจ็บปวด แต่ก็ต้องมาโรงเรียนและทำหน้าที่ของตัวเอง นีน่าจึงพยายามที่จะไม่พูดอะไร เธอจะได้ไม่ต้องนึกถึงเพราะกลัวว่าน้ำตาที่พยายามกลั้นจะไหลออกมา

“เลิกกันแล้ว” นีน่าพูดออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเลียงที่สั่นเครือ น้ำตาค่อยๆ ไหลเอ่อจากดวงตาอาบสองแก้มช้า ๆ จนทุกสิ่งที่มองเห็นเริ่มพร่ามัวเกินกว่าจะทน เธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้ แต่มันก็เปล่าประโยชน์

“ได้ยังไง! เมื่อวานยังรักกันดีอยู่เลย!” แฟนต้าส่งเสียงดังอย่างลืมตัวทันที เธอรีบเอามือปิดปากของตัวเองไว้ บรรดาเพื่อนในห้องก็เริ่มหันมามองที่เธอแล้ว แฟนต้าจึงทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและใช้ร่างกายบังตัวของนีน่าเอาไว้ เพื่อน ๆ จะได้ไม่รู้ว่านีน่ากำลังร้องไห้อยู่

“ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว” เสียงอู้อี้ของนีน่าจบลง แฟนต้ามองภาพเพื่อนเธอกำลังสะอึกสะอื้อนร้องไห้จนตัวสั่นไปหมดด้วยความสงสารและเห็นใจ

“โอเคไม่ต้องเล่าตอนนี้ก็ได้ ยังไงฉันก็อยู่ตรงนี้นะแก” แฟนต้ารู้ว่าเพื่อนของเธอต้องเจ็บปวดแค่ไหน จึงไม่อยากรบเร้าอะไรนีน่าไปมากกว่านี้ เมื่อไหร่ที่เธอโอเคแล้วก็คงบอกเอง

ทางฝั่งของรีไวน์เมื่อเลิกกับนีน่าก็ทำตัวเสเพลไม่เข้าห้องเรียน แถมยังมีเรื่องชกต่อยไปเรื่อยจนถึงขั้นโดนทัณฑ์บน พ่อกับแม่ของรีไวน์เห็นลูกตัวเองเป็นเช่นนั้น จึงขอย้ายโรงเรียนดีกว่าปล่อยให้รีไวน์ถูกไล่ออก หากเป็นแบบนั้นประวัติของรีไวน์ก็คงด่างพร้อยจนไม่อยากมีโรงเรียนไหนรับ

จากนั้นรีไวน์จึงเดินออกมาจากชีวิตของนีน่าอย่างสมบูรณ์ จนได้มาเจอกันอีกครั้งตอนปีหนึ่งที่มหาลัย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel