บทย่อ
ตัวประกอบมีหน้าที่แค่เข้าฉากบางตอนเท่านั้น แต่เหตุไฉนนางจึงกลายมาเป็นตัวเดินเรื่องเสียได้ มิหนำซ้ำยังต้องแต่งกับตัวเอกของเรื่องอีก ต่อมาคนผู้นี้ยังวอแวเข้าใกล้ไม่หยุด นางควรถอยหรือคว้าโอกาสนี้ไว้ดี
1. เจ้าสาวหาย
หน้าจวนสกุลหว่าง เสียงมโหรีของงานมงคลกำลังดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ สร้างความครื้นเครงให้แก่ชาวบ้านที่มารอดูเป็นอย่างมาก ทว่าผู้ที่อยู่ด้านในหาได้รู้สึกเช่นนั้นไม่ เพราะพวกเขากำลังโกลาหลกับการตามหาเจ้าสาวอยู่ต่างหาก
“ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดีเจ้าคะนายท่าน จนป่านนี้ยังตามหาจินเอ๋อร์ไม่พบเลย อีกไม่นานขบวนเจ้าบ่าวก็มาถึงแล้วนะเจ้าคะ” หว่างฮูหยินเอ่ยกับสามีอย่างร้อนใจ ท่าทางตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
“ข้าสั่งให้เจ้าดูแลบุตรให้ดี เหตุใดปล่อยให้นางหนีออกไปได้ อยากหัวหลุดจากบ่ากันทั้งตระกูลอย่างนั้นหรือ” นายอำเภอหว่างตำหนิภรรยาเสียงดังก้องเรือน ใบหน้าแดงก่ำคุกรุ่นด้วยความโกรธ
“ท่านพ่ออย่าพึ่งร้อนใจไปเลยขอรับ อย่างไรเสียราชโองการก็ไม่ได้ระบุว่าให้ใครแต่งมิใช่หรือ ท่านก็ให้น้องสี่ไปเข้าพิธีแทนเสียก็สิ้นเรื่อง แค่นี้ปัญหาก็หมดไปแล้ว” หว่างจินเป่าบุตรชายคนโตเอ่ย
“นั่นสิท่านพ่อ นางก็เป็นลูกท่านเหมือนกัน ราชโองการก็ไม่ได้ระบุว่าให้ใครแต่งเสียหน่อย ฉะนั้นให้บุตรอนุแต่งไปอยู่ในที่กันดารมันก็สมควรแล้ว” บุตรชายคนรองนามว่าหว่างจินลู่รีบสำทับทันที
“จริงด้วย ท่านพี่ให้ลูกสี่แต่งแทนจินเอ๋อร์ปัญหาก็จบแล้วนะเจ้าคะ ได้เป็นถึงฮูหยินท่านโหว ถิงหลันต้องยอมแน่ เรารีบไปบอกนางกันเถอะเจ้าค่ะ” หว่างฮูหยินหันมาโน้มน้าวสามีทันที
หว่างไช่กงเดินครุ่นคิดไปมาอยูุ่ที่เรือนของบุตรสาว จริงอยู่ว่าในราชโองการไม่ได้ระบุให้ใครแต่งเข้าจวนโหว ทว่าหากเขาเอาบุตรสาวที่เกิดจากอนุไร้สกุลแต่งเข้าไป ท่านโหวอาจเล่นงานภายหลังก็เป็นได้
“ท่านพ่อ เราไม่มีเวลาแล้ว ท่านแม่รีบไปบอกให้น้องสี่เตรียมตัวเถิด ข้าจะออกไปรับหน้าด้านนอกก่อน” หว่างจินเป่าเอ่ยจบก็เดินออกไปทันที ผู้เป็นบิดาจึงได้แต่ทำตามเพราะคิดสิ่งใดไม่ออกแล้ว
เรือนหลังของจวนสกุลหว่าง
ร่างอรชรของหญิงสาววัยสิบแปดกำลังง่วนกับการทำขนมเช่นเคย แม้ว่าในจวนจะมีงานมงคล ทว่าหว่างถิงหลันกลับไม่ได้เข้าร่วมแสดงความยินดี เพราะในครอบครัวนี้นางก็ไม่ต่างจากคนนอก
หากมิมีท่านย่าคอยเมตตาเป็นเกราะคุ้มภัยให้ หญิงสาวอาจไม่ได้อยู่ในทำเนียบของวงศ์ตระกูลเสียด้วยซ้ำ ทว่าบัดนี้ผู้เป็นย่าได้จากไปแล้ว บุตรสาวคนเล็กจึงถูกเนรเทศออกมาอยู่เรือนหลัง ใช้ชีวิตไม่ต่างจากผู้อาศัย แม้แต่เงินทองยังต้องหาใช้สอยเอง
“ถิงเอ๋อร์อยู่นี่เองหรือ มาไปกับแม่เร็ว” หว่างฮูหยินเดินเข้ามาเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน หมายหลอกล่อเอาบุตรเลี้ยงไปแต่งตัวเพื่อเข้าพิธีแทนบุตรสาวของตนที่แอบหนีไป
ทว่าคนถูกเรียก หาได้คล้อยตามง่าย ๆ ไม่ นางขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมกับมองหน้ามารดาเลี้ยงนิ่ง
อีกฝ่ายจึงรีบเอ่ยขึ้นอีก “มาเถิด อย่ามัวชักช้าอยู่เลย ประเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์” มารดาเลี้ยงเดินเข้ามาหมายจะจูงมือบุตรเลี้ยงให้ตามตนไป ทว่าถิงหลันได้ขยับแขนตนออกก่อนที่มืออีกฝ่ายจะมาถึง
“ท่านคิดจะทำสิ่งใดไยไม่พูดให้แน่ชัด แล้วนี่จะพาข้าไปไหน” ถามกลับเสียงแข็ง เพราะปกติแล้วมารดาเลี้ยงไม่เคยพูดจาดีกับนางมาก่อน ทว่าวันนี้กลับต่างออกไป มันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“เจ้าไม่ได้มีหน้าที่ถาม พ่อแม่สั่งก็ต้องทำตาม เอาตัวนางไป” คุณชายรองหว่างออกคำสั่งเสียงเหี้ยม พร้อมกับมองหยันน้องสาวที่เขาไม่อยากนับญาติ เพราะนางเป็นเพียงแค่บุตรอนุไร้สกุล หากมิใช่เพราะบิดาเขาเมาจนคุมสติไม่อยู่ มีหรือมารดาของถิงหลันจะได้ขึ้นเตียงด้วย พอนางตั้งครรภ์บิดาเขาจึงต้องรับเข้าจวน
ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา หว่างถิงหลันก็ถูกพาตัวมาที่เรือนของพี่สาว เพียงแค่ก้าวเข้าห้องนางก็พอจะเดาออกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร
“จะให้ข้าแต่งงานแทนสินะ” นางหันมาเอ่ยกับมารดาเลี้ยงที่ยืนมองอยู่ โดยมีพี่ชายคนรองยืนอยู่ด้วย “หึ! ไม่เกรงว่าข้าจะทำพังหรือ”
“เจ้าก็ลองดูสิ หากเจ้ากล้าข้าจะฆ่าคนในเรือนเจ้าให้หมด” จินลู่เปล่งวาจาข่มขู่ทันที เพราะเขารู้ว่าน้องสาวต่างมารดาผูกพันกับบ่าวไพร่ในเรือนหลังมาก โดยเฉพาะแม่นมหลิงที่เลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็ก
“แล้วอย่างไร อยากเอาชีวิตใครก็เอาไปสิ หากวันนี้ไม่มีเจ้าสาว คนสกุลหว่างก็ไม่มีใครรอดเหมือนกัน ได้ยินว่าโทษขัดราชโองการตัดหัวทั้งตระกูลมิใช่หรือ ก่อนจะขู่ข้าท่านควรหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผลกว่านี้นะ” ถิงหลันย้อนวาจาเย้ยหยันใส่พี่ชายต่างแม่ทันที มิหนำซ้ำยังยิ้มร้ายให้เห็นซึ่งหน้า ทำเอาสองแม่ลูกถึงกับขบกรามแน่น หากเป็นยามปกติพวกเขาคงลงไม้ลงมือกับนางไปแล้ว
ทว่าวันนี้ร่างกายหว่างถิงหลันจะบอบช้ำไม่ได้
“ซูเอ๋อร์ ไยเจ้าถึงเอ่ยเช่นนี้ แต่งกับท่านโหวไม่ดีตรงไหนหรือ ใคร ๆ ก็อยากแต่งเข้าจวนนี้ทั้งนั้นนะ” หว่างฮูหยินเอ่ยโน้มน้าวอีกหน
“ใคร ๆ ก็อยากแต่งหรือ แล้วเหตุใดบุตรสาวท่านถึงได้หนีไปล่ะ คิดว่าข้าอยู่เรือนหลังแล้วไม่รู้อะไรสินะ ที่พี่สามไม่ยอมแต่งเข้าจวนท่านโหว ก็เพราะไม่อยากมีสามีแก่กว่าเป็นรอบ ที่สำคัญแต่งแล้วก็ต้องย้ายไปดูแลเขาที่ชายแดนทางทิศอุดร ดินแดนแห้งแล้งที่สุดของแคว้นอีก คนเช่นนี้หรือที่สตรีอยากแต่งด้วยนักหนา ท่านแม่เอาถ้อยคำเหล่านี้ไปหลอกเด็กเถิดเจ้าค่ะ” หญิงสาวไม่ได้ยำเกรงสองแม่ลูกเลยสักนิด เพราะสิ่งที่นางเอ่ยคือเรื่องจริง
“ปากดีนัก อย่างเจ้ามันต้องโดนเสียบ้างจึงจะรู้สึก” จินลู่ง้างมือใส่น้องสาวต่างมารดาสุดแรง ทว่าถูกใครบางคนคว้าไว้เสียก่อน
“คิดให้ดี หากเจ้าสาวท่านโหวมีรอยบนใบหน้าแม้เพียงนิด หลังเจ้าอาจจะลายเป็นทางยาวได้” สิ้นคำชายหนุ่มร่างโตก็ออกแรงดันจนหว่างจินลู่เซถลาไปหามารดา
“พะ…พวกเจ้าเป็นใคร” จินลู่ยกนิ้วชี้หน้าผู้มาใหม่ทันที
“น้องรองอย่าเสียมารยาท นี่คนของท่านโหว” หว่างจินเป่ารีบเอ่ย ก่อนจะถอยให้ผู้มาใหม่อีกคนเดินเข้ามาพร้อมกับบิดาตน
“นี่หรือเจ้าสาวข้า” เสียงเย็นลอยมาน่าสะพรึง ไม่ต่างจากหน้ากากที่ถูกสวมใส่เอาไว้ มันปิดเต็มใบหน้าจนมองเห็นแค่ดวงตาเท่านั้น ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องต้องถอยร่นเข้ามุมกันอย่างตื่นกลัว
“ชะ…ใช่ขอรับ” นายอำเภอหว่างเอ่ยตอบเสียงสั่น ทว่า
“ไม่ใช่ข้า คนที่ควรแต่งกับท่านคือพี่สาวข้า แต่นางหนีไปแล้ว” ถิงหลันเอ่ยโดยไม่เกรงรังสีอำมหิตจากผู้มาเยือนเลยสักนิด นางยังคงสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเอ่ยเรื่องทั่วไป ต่างจากคนอื่นที่เหงื่อตกไปแล้ว
“หุบปากของเจ้านะถิงหลัน” หว่างจินเป่าหันมาตำหนิน้องสาวทันที ทว่ามีหรือนางจะยอมเชื่อฟัง มีแต่จะเพิ่มไฟเสียมากกว่า
“ก็มันจริงนี่หน่า พี่สามหนีไปก็เพราะไม่อยากแต่งกับคนที่แก่กว่าเป็นรอบ มิหนำซ้ำยังต้องไปอยู่ในที่กันดารอีก นางไม่อยากเป็นอนุหรือพวกท่านจะเถียงว่ามันไม่จริง” คำพูดของถิงหลันที่กล่าวออกมามันแทบจะเป็นการตะโกนก็ว่าได้ ซึ่งมันได้ทำให้พี่ชายทั้งสองต้องรีบทำให้นางหุบปากเสีย แม้ว่ามันจะช้าไปแล้วก็ตาม
ทว่าทั้งคู่กลับไม่ทันความเร็วของนางที่พุ่งหลบออกมาหน้าประตู พร้อมกันนั้นก็ใช้ตัวของท่านโหวเป็นที่กำบัง ทำให้ทั้งคู่ต้องรีบหยุดเท้าลงต่อหน้าเขาทันที “แบร่” ใบหน้าทะเล้นโผล่ออกมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พี่ชายทั้งสองเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด
ทว่าผู้ที่นางหวังจะพึ่งพากลับเปล่งเสียงในลำคอให้ได้ยิน
“หึ!” และไม่ถึงอึดใจเขาก็หันกลับมาพร้อมกับโน้มตัวลงมาแบกนางขึ้น แล้วเอ่ยทิ้งท้ายไว้ “เอาเป็นว่าข้าเลือกนางก็แล้วกัน”
#ฝากกดใจ กดเก็บเข้าชั้นด้วยนะคะ

