Ep.2
น้ำปั่น Talk
เราตื่นมาเป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็น เลยลุกล้างหน้าล้างตาไปซื้อของกินสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในตอนนี้สำหรับเราเลยก็คือเหล้า เห็นเเบบนี้เรากินเหล้าเก่งมากทั้งๆที่ทั้งบ้านไม่มีใครกินเลยโดยเฉพาะพ่อเรา พ่อเราเป็นคนเบลเยี่ยมที่อยู่ไทยมาตั้งแต่เกิด พ่อไม่ใช่ลูกครึ้งแต่ครอบครัวของพ่อเราเค้ามาทำธุรกิจอยู่ในไทย หลังจากซื้อของกินเสร็จเราก็นั่งกินอยู่หน้าเต็นท์ สายตาหันไปเห็นว่าใกล้ๆเราก็มีคนมาตั้งแคมป์เหมือนกันแต่เค้ามากันหลายคน มีผู้หญิงสวยๆคนนึงมองมาหาเราเราก็ยิ้มให้เค้าปกติเค้าเองก็ยิ้มตอบเรามาเหมือนกัน เรานั่งกินจนฟ้าเริ่มมืดผู้หญิงคนนั้นเค้าก็เดินมาหาเราพร้อมกับจานอาหารในมือ
“”สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ มาคนเดียวหรอคะ””
เรา : สวัสดีค่ะ มาคนเดียวค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ
… : พอดีเห็นนั่งอยู่คนเดียวเลยเอาบาร์บีคิวมาฝากค่ะ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาทไปนั่งทานด้วยกัรได้นะคะ เรามากับพี่ชายแล้วก็เพื่อนเค้าเลบเหงาๆค่ะ ชื่อหงส์นะคะ คุณละคะ
เรา : ชื่อน้ำปั่นค่ะ
หงส์ : ไปนั่งด้วยกันไหมคะ
เรา : เอ่ออ…คือว่า
หงส์ : ไปเถอะนะคะ ไม่ต้องเกรงใจนั่งคนเดียวเหงานะคะ แฮร่
เรา : ก็ได้ค่ะ ขอแจมด้วยคนนะคะ
ด้วยความเป็นคนที่ขี้เกรวใจของเราบวกกับกลัวเค้าเสียความรู้สึกเลยยอมมานั่งกับเค้าเพราะเท่าที่สังเกตเค้าเองก็ดูไม่มีพิษมีภัยกับใคร
หงส์ : เอ่อ…อายุเท่าไหร่คะหงส์จะได้เรียกถูก
เรา : 26 ค่ะ
หงส์ : จริงไหมคะเนี่ย หงส์คิดว่าพี่รุ่นเดียวกับหงส์ซะอีกเป็นพี่ตั้ง 3 ปีแหนะ หงส์เพิ่งจะ 23 เองค่ะ
เรา : พี่แก่แล้ว
เราพูดพร้อมกับยิ้มให้หงส์ก่อนจะช่วยกันถือของมาที่เต็นท์ของหงส์ แลดูเป็นคนใจง่ายแฮะเค้าชวนมาก็มา แต่เอาเถอะเราว่าเรามองคนไม่ผิดแต่เดี๋ยวนะได้ข่าวว่าเพิ่งจะผิดหวังจากการมองคนมา เห้อออออ…เศร้า…..
…1… : ไปพาใครเค้ามายัยตัวแสบ
มีผู้ชายคนนึงเดินมาลูบหัวหงส์พร้อมกับมองมาหาเราแล้วยิ้มให้
หงส์ : คนนี้พี่น้ำปั่นค่ะหงส์เห็นพี่เค้ามาคนเดียวเลบชวนมานั่งด้วย พี่น้ำปั่นคะคนนี้พี่คีย์ค่ะพี่ชายหงส์
เรา : สวัสดีค่ะ
พี่คีย์ : สวัสดีครับตามสบายเลยนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักเชิญทางนี้ดีกว่าครับ
…2… : อ้าว ใครวะนะไอ้คีย์
พี่คีย์ : คนนี้น้องน้ำปั่น น้องกูเห็นเค้ามาคนเดียวเลยชวนมานั่งด้วย น้องครับคนนี้ไอ้แชมป์ นั่นไอ้ทอย ส่วนไอ้หน้านิ่งนั่นไอ้หมอโฮร์สแต่เรียกมันว่าหมอเถื่อนก็ได้ครับเพราะหน้ามันนิ่ง
เรา : สวัสดีค่ะพี่ๆ ขอนั่งด้วยคนนะคะ
ทุกคนยิ้มให้เราตามปกติจะมีก็เเค่หมอโฮร์สที่มองเรานิ่งๆเราก็ไม่ได้คิดอะไร หงส์จูงมือเรามานั่งลงข้างๆจากนั้นก็นั่งกินเหล้ากินเบียร์กันตามปกติ จนเวลาล่วงมาเกือบ 3 ทุ่มเราเองก็เมาแล้วล่ะเเต่ยังมีสติอยู่ ระหว่างที่กินอยู่ก็มีเบอร์แปลกโทรมาหาเราตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรก็ขอตัวออกมารับโทรศัพท์ปกติแต่ปลายสายที่โทรมาคือพี่แจ๊ค ตอนเเรกเราจะกดวางแต่เค้าบอกว่าขอคุยกัยเราเป็นครั้งสุดท้ายเราเลยเลือกที่จะฟัง พอเมาแล้วกลายเป็นคนกล้าได้กล้าเสียไปเลยทั้งๆที่พอเดาได้ว่าคำพูดของเค้ามันจะมำให้เราเจ็บอีกครั้ง
พี่แจ็ค : ปั่นฟังพี่ก่อนนะ พี่ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ขอโทษจริงๆ
เรา : ขนาดพี่ไม่ได้ตั้งใจปั่นยังเป็นเมียน้อยมา 5 ปีเลย ตลกดีเนาะ พี่รู้อยู่แก่ใจมันทุกอบ่าง พี่รู้ว่าการกระทำของพี่มันจะทำให้หนูต้องเจ็บในวันนึงที่หนูความจริง หรือพี่คิดว่าความจริงนี้มันจะเป็นความลับไปตลอด หนูถามพี่จริงๆนะที่ผ่านมาพี่รักหนูจริงๆใช่ไหม
พี่แจ็ค : พี่รักหนู พี่รักหนูปั่น พี่กำลังจะแก้ไขเรื่องนี้แต่ปั่นรู้ความจริงก่อน พี่ขอโทษ
เรา : แก้ไขเรื่องนี้ แก้ไขแบบไหนแบบที่พี่ทิ้งหนู หรือพี่ทิ้งเค้า แต่พี่ไม่ต้องตอบหรอกนะหนูพอจะรู้คำตอบของพี่ดี พี่เก็บคำขอโทษของพี่ไว้ให้เมียพี่เถอะ เรื่องระหว่างเราให้มันจบลงแค่นี้ ให้มันสิ้นสุดลงแค่นี้ หนูไม่อยากเป็นชู้ของใคร หนูไม่อยากเป็นตัวตลกให้พี่หลอกตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมาพี่แมร่งโคตรเก่งเลยว่ะ
พี่แจ็ค : ไม่นะปั่น ไม่จบได้ไหมปั่นรอพี่ก่อนนะ พี่ขอเวลาอีกนิดนะพี่จะจบทุกอย่างแล้วเราจะมีความสุขกันเหมือนเดิมนะ
เรา : ความสุขหรอ ความสุขของหนูพี่เหยียบมันจมดินไปแล้ว อย่าทำให้หนูต้องรู้สึกว่าพี่เห็นแก่ตัวไปมากกว่านี้เลยนะ ตลกดีเนาะทนายความผู้แก้ปัญหา ตามหาความจริงให้คนอื่นมานักต่อนักแต่กับเรื่องของตัวเองกลับไม่เคยสงสัยอะไร
พี่แจ็ค : ปั่นพี่ขอโทษ ปั่นอยู่ไหนพี่จะไปหาปั่นเมาใช่ไหม
ไม่ทันที่พี่แจ็คได้พูดอะไรต่อเรากดวางสายแล้วบล็อกเบอร์ทันที ทุกอย่างมันจบแลล้วต่อให้เป็นตายร้ายดียังไงเราจะไม่กลับไปให้เค้าหลอก น้ำตาเจ้ากรรมไหลอาบเเก้มอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดทันทีที่ก้าวขาก็ทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น คำว่ารักของผู้ชายคนนี้ทำไมมันทำให้เราเจ็บขนาดนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงจะมีความสุขที่ได้ยินมันแต่ตอนนี้มันกลับกลายเป้นคำที่ทำร้ายเราแบบไม่มีสิ้นสุด
“”พี่น้ำปั่น พี่เป็นอะไรไหม พี่โอเคไหม พี่มีอะไรบอกหนูได้นะ””
ในสมองเราตอนนี้กลับอยากบอกว่าโอเคแต่การกระทำเรากลับตรงกันข้าม ทันทีที่เราส่ายหัวน้องหงส์ก็ดึงเราเข้าไปกอดทันที ยิ่งมีคนปลอบน้ำตายิ่งไหลเราร้องให้ออกมาจนไม่อายเลยว่าใครจะมอง มันเจ็บ เจ๊บจนพูดอะไรไม่ออก
“”หงส์ เดี๋ยวพี่คุยเองหงส์ไปนั่งรอก็ได้””
หงส์ : แต่พี่หมอเป็นผู้ชาย
หมอโฮร์ส : แต่พี่เป็นหมอ เอาหน่าเชื่อใจพี่
หงส์ : โอเคห้ามปากเสียนะหงส์จะนั่งดูถ้าพี่ทำไม่ดีหงส์ฟ้องคุณป้าแน่
หมอโฮร์ส : รู้หน่า ทำเหมือนพี่เป็นคนเลวไปได้
หงส์ : มีอะไรพี่บอกพี่หมอนะ เค้าอาจจะช่วยพี่ได้ไม่มากก็น้อย พี่เค้าเป็นหมอโรคจิตเอ๊ยจิตวิทยา
เราพยักหน้าบอกหงส์ว่าตกลง เพราะเราไม่รู้จะปฏิเสธยังไงหลังจาหงส์เดินออกไปเราก็เช็ดน้ำตาแบบลวกๆ
หมอโฮร์ส : มันเจ็บมากเลยใช่ไหม มันเริ่มเจ็บจากตรงไหนล่ะ หัวใจหรือสมอง มันเริ่มจากตรงไหนก็แก้มันจากตรงนั้น เลิกร้องให้ซะบางอย่างมันก็ไม่มีค่าให้คุณนั่งฟูมฟายหรอกนะ
เรา : น้ำพยายามแล้วค่ะ น้ำพยายามทำมันแล้วพี่หมอไม่เคยเจอะจะเข้าใจได้ยังไง
เราเลือกที่จะเถียงออกมาเพราะความรู้สึกตอนนี้ต่อให้สักสิบจิตวิทยาก็ช่วยเราไม่ได้
หมอโฮร์ส : แล้วคิดว่าการเป็นน้อยของคุณมันมีค่ามากพอให้คุณนั่งเสียดายไหม หรือคุณอยากกลับไป ขอโทษที่ผมเสียมารยาทแอบฟังบังเอิญมาเข้าห้องน้ำพอดี
จุกจ่ะประโยตนี้อีน้ำจุกหนักกว่าเดิมเค้าจะมาช่วยให้ดีขึ้น หรือเค้าจะมาช่วยให้กระอักเลือดตายก็ไม่รู้
เรา : แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมามันมีค่ามากสำหรับฉันแม้ว่าสิ่งที่มีค่าพวกนั้นจะมาจากคำว่าเมียน้อย
หมอโฮร์ส : ผมรู้นะว่าคุณรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดีแต่สิ่งที่คุณกำลังพูดตอนนี้คือการหนีความเจ็บปวดที่คุณต้องเจอ หรือพูดง่ายๆว่าคุณหนีความจริง ลุกขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วกลับไปทำในสิ่งที่ทำให้คุณโอเคในตอนนี้
อืมม….หมออะไรปากเจ็บชะมัดจุกทุกคำจริงๆ หมอโฮร์สลุกขึ้นยืนเราเลยเเบกตัวเข้าไปล้างหน้าล้างตาโดยมีเสียงหมอโฮร์สที่ตะโกนตามหลังมา “”อย่าคิดมากนะคุณเพราะถ้าคุณทำแบบนั้นคุณคือคนโง่นะครับคุณทนายคนเก่ง”” โดนอีกหนึ่งดอกโอ๊ยอะไรวะเนี่ย เค้าคือหมอจริงๆใช่ๆไหมแล้วไอ้ที่เค้าทำนี่หมอจิตวิทยาเค้าทำกันหรอ…..