(2)zendai
"ด้าย ปิดเทอมนี้แกกลับบ้านหรือเปล่า"ฉันหันไปที่เพื่อนชื่อมุก ขณะที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้านหลังจากที่เพิ่งสอบเสร็จ
"คงไม่กลับน่ะ ฉันบอกยายว่าจะอยู่หางานทำ...เพราะช่วงปิดเทอมฉันสามารถทำได้ตั้งเดือน น่าจะได้เงินเยอะกว่าที่ทำพาร์ทไทม์"
"งั้นดีเลยฉันกำลังจะหาเพื่อนไปสมัครงานพอดี..แกไปกับฉันนะ"มุกพูดขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง แต่ฉันต้องขมวดคิ้วจ้องหน้าเธอด้วยความสงสัย
"แก..นี้นะจะไปทำงาน?"ที่ฉันต้องขมวดคิ้วก็เพราะเรื่องนี้ ฉันรู้จักมุกมาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ปีที่สามแล้ว ดูเหมือนเราจะสนิทกันมาก แต่จริง ๆ แล้วราสองคนจะเจอกันที่มหาลัยเท่านั้น เพราะพอเรียนเสร็จฉันจะต้องรีบมาทำงานพาร์ทไทม์ต่อ เราไม่เคยได้นัดกินข้าวหรือไปเที่ยวด้วยกันเลย และฐานะที่บ้านของมุกก็ค่อนข้างมีเงิน พ่อเธอเป็นถึงเจ้าของธุรกิจส่งออก
"ก็ฉันอยากเจอกับ..."มุกเอ่ยพร้อมกับท่าทางเขินอาย
"แกอยากเจอกับใคร...อยากบอกนะว่าคนที่ชื่อ เคเดน"เคเดนเป็นผู้ชายที่มุกมักจะพูดถึงบ่อย ๆ ซึ่งฉันพอจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของผับสักทีนี้แหละ ฉันไม่ได้สนใจ
"...."เพื่อนสาวผงกหัวรับแล้วอมยิ้ม
"แกอย่าบอกนะว่าจะไปทำงานที่ผับ"
"...."เธอก็ผงกหัวตอบมาอีกครั้ง
"ฉันไม่ไป..แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบทางนั้น"ทันทีที่พูดจบ มุกก็เข้ามาเกาะแขนฉันแล้วเขย่า ๆ
"แก ไปทำกับฉันเถอะนะ..นะ ๆ"
"ไม่!...ฉันไม่ค่อยชอบที่แบบนั้นแกก็รู้ มีแต่กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ ฉันไม่โอเค"
"ไปเถอะนะแก..เงินเดือนก็ดี แถมยังได้ทิปด้วย..."ถึงมุกจะพูดยังไงฉันก็ส่ายหน้า ยืนยันที่จะไม่ไป
"เอางี้..ฉันจะยกเงินเดือนให้แก เท่ากับว่าแกจะได้เงินเดือนสองเท่าเลยนะ"พอมุกพูดจบ ความคิดที่จะไม่ไปก็หยุดชะงักแล้วหันมองเธอนิ่ง ๆ
"แกก็รู้ว่า บ้านฉันรวย..ฉันไม่ต้องทำงานก็ได้..."
"แล้วแกจะไปทำ..ทำไม แค่แกไปเที่ยวที่ผับเขาแกก็ได้เจอเขาแล้ว"
"มันไม่เหมือนกัน ถ้าฉันทำงานกับเขาฉันคิดว่าฉันมีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดเขามากขึ้น"ฉันฟังเพื่อนสาวพูดพร้อมกับลอบหายใจเบา ๆ แต่ในหัวก็นึกถึงเงินที่เธอจะยกให้ฉัน รู้สึกอยากได้เงินขึ้นมาทันที
"ก็ได้...ฉันจะไปทำกับแก"
"จริงนะด้าย..ดีใจจัง"มุกจับมือฉันสองฉันแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ
"อืม.."ฉันผงกหัวรับแล้วยิ้มตอบกลับไป
"งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นฉันจะไปรับแกนะ"
"อืม.."
.
หลังจากนั้นเราสองคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันนั่งรถเมล์มาลงที่ห้องพักซึ่งไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ มันเป็นที่อาศัยของฉันตั้งแต่เข้ามาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่ปีหนึ่ง ฉันก็ยังคงอยู่ที่นี้เพราะราคาไม่แพงมาก
ฉันเป็นคนต่างจังหวัดได้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพเพราะสอบเข้าได้บวกกับได้รับเงินทุนการศึกษาด้วย..ฉันอาศัยอยู่กับยายแค่สองคนที่ต่างจังหวัด พ่อกับแม่ฉันได้ตายไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก ก็มีแต่ยายที่เลี้ยงดูฉันมาจนโต ..ฉันต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะให้ตัวเองได้มีการศึกษาที่ดี และได้ทำงานดี ๆ จะได้มีเงินไว้ดูแลยายตอนแก่เฒ่า ซึ่งตอนนี้ท่านก็แก่มากแล้ว.ฉันก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ โชคดีที่ฉันมีพี่นก เป็นพี่ข้างบ้านที่ฉันสนิทกับเขาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวของเธอก็มักจะช่วยเหลือฉันกับยายอยู่ตลอด ก่อนที่ฉันจะเดินทางมาเรียนที่นี้ พี่นกรับปากที่จะดูแลยายแทนฉันให้
"ยายแกก็เหมือนยายฉันนั้นแหละ แกไม่ต้องเป็นห่วง ตั้งใจเรียนให้จบ.."นั้นคือคำพูดของเธอมันทำให้ฉันค่อยโล่งใจบ้าง
สามปีที่ผ่านมาฉันต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แล้วส่งเงินไปให้ยายบ้าง ถึงแม้ว่าท่านไม่อยากจะได้เงินของฉันเลย ช่วงปิดเทอมถ้าไม่มีงานฉันก็จะกลับไปหายาย แต่ปิดเทอมรอบนี้ฉันจะต้องหาเงิน เพราะปีหน้าฉันอาจจะต้องใช้เงินมากขึ้น สำหรับค่าเล่าเรียน
พอเข้ามาในห้อง ฉันก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อจะไปทำงานพาร์ทไทม์ต่อ
ร้านที่ฉันมาทำนั้นเป็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ฉันก็มีหน้าที่คือทำแทบจะทุกอย่างในร้าน ไม่ว่าจะเป็นรับออเดอร์ เสิร์ฟ หรือคิดเงิน
แกร๊ก....เสียงประตูเปิดเข้ามา
"สวัสดีค่ะ miniคาเฟ่ยินดีต้อนรับ"ฉันเอ่ยปากโดยอัตโนมัติ แล้วเงยหน้าเหลือบมองลูกค้าที่เดินเข้ามา เป็นชายหนุ่มสองคน..แต่งตัวดี หน้าตาหล่อเหลาทั้งคู่ แต่ดูแบด ๆ ไม่น่าที่จะเข้าคาเฟ่ น่าไปพวกผับ คลับซะมากกว่า อุ้ย ฉันกำลังคิดนินทาลูกค้า ไม่ดี ๆ ฉันรีบคว้าเมนูแล้วเดินไปที่โต๊ะที่สองคนนั่ง
"....."ฉันยิ้มให้ทั้งคู่แล้วยกมือไหว้ก่อนที่จะยื่นเมนู
"คิดยังไงพากูมาร้านขนมหวานแบบนี้ว่ะไอ้เจ"ชายหนุ่มคนนึงพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมตวัดสายตามองฉัน ที่ยืนยิ้มเจื่อน ๆ ในสภาพเสื้อยืดของร้าน และสวมผ้ากันเปื้อนทับ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบเก่า ๆ สวมใส่หมวกที่ดำ ค่อนข้างปกปิดใบหน้า
"เออ แดก ๆ ไปเถอะอย่าบ่น"เพื่อนของเขาตอบกลับแล้วก้มดูเมนูต่อ
ทั้งคู่ได้สั่งกาแฟร้อน..ฉันก็รีบเข้าไปทำมาให้แล้วเดินเข้าไปเสิร์ฟ ตามปกติ ก็ได้ยินทั้งสองคุยงานกันเกี่ยวกับรับสมัครพนักงานอะไรสักอย่าง
"พรุ่งนี้เย็นกูจะเปิดรับสมัครพีอาร์"
"การ์เด้นเรียบร้อยแล้ว?"เพื่อนเขาเอ่ยถาม
"อืม.."
"แล้วจะคัดเลือกด้วยตัวเองเลยป่ะ
"แน่นอน.."เขาตอบกลับเพื่อนแล้วยักคิ้วให้
ทั้งคู่ดื่มกาแฟเสร็จ...ชายทั้งคู่ก็เดินมาจ่ายเงินที่หน้าเคาร์เตอร์
"เท่าไหร่"
"ทั้งหมด..180 บาทค่ะ"ฉันตอบกลับไปอย่างสุภาพ ชายคนที่ถามล้วงมือไปที่กระเป๋ากางเกงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เขายื่นแบงค์พันให้กับฉัน
"ไม่ต้องทอน..เอาไปซึ้ออาหารเสริมกิน ตัวผอมอย่างกับไม้เสียบลูกชิ้น"เขาพูดพร้อมกับใช้สายตามองฉัน
"ไอ้เค..มึงก็ไปว่าน้องเขา"เพื่อนเขาเอ่ยขึ้นแล้วฉีกยิ้มให้ฉัน
"ถามจริงเวลามีลมพัดแรง ๆ เคยปลิวตามลมไปบ้างป่ะ หึ"เขายังพูดต่อและแสยะยิ้มให้ฉัน ก่อนที่จะเดินออกไปโดยไม่ได้ฟังคำตอบจากฉัน
"กวน..."ฉันพึมพำเบา ๆ สายตามองแผ่นหล้งทั้งคู่จนลับตาไป
.เลิกงานก็เกือบจะสามทุ่ม ฉันก็นั่งรถเมล์กลับบ้านเหมือนเดิม พอมาถึงก็อาบน้ำอาบท่าแล้วก็นอนด้วยความเพลีย...
???????????
