ชื่อมงคล
ขาเรียวสวยสาวเท้าจนมาถึงหน้าประตูห้องตัวเองก่อนจะหยุดยกฝ่ามือหยิบคีย์การด์จากกระเป๋าขึ้นมาแตะ ติ๊ด !!! เสียงสัญญาณของประตูดังขึ้น
เมื่อปลดล็อคประตูเรียบร้อยแล้วจึงผลักบานประตูเพื่อเข้าห้องทันที พลันเสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนเกิดดังขึ้น ติ้ง!
ฉัน เปิดดูข้อความที่หน้าจอมือถือยิ่งทำให้ไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ส่งข้อความเข้ามา
[ อย่าลืมกินยานะ ยาอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทที่คุณใส่ ]
เมื่ออ่านข้อความจบฉันโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับทำเสียง จิ๊จ๊ะ ในลำคอไม่พอใจที่โดนผู้ชายคนเมื่อคืนส่งข้อความมาทำให้หงุดหงิดใจ
แต่ถึงแบบนั้นฉันก็หยิบสิ่งที่เขาบอกขึ้นมาดูทันทีก่อน....กล่องยาที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทสีเข้มถูกฉันหยิบกล่องยาขึ้นมาก่อนจะพลิกซ้ายพลิกขวาอ่านว่ายานั้นคือยาอะไรอันตรายหรือเปล่า....'ยาคุมฉุกเฉินอย่างนั้นเหรอ อืมลืมไปเลย ว่าแต่เขาไปซื้อตอนไหนกันนะ หรือจะเป็นตอนนั้น ที่เขาขอลงไปซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ ที่มีร้านขายยาอยู่ข้าง ๆ ก็ดีเหมือนกันป้องกันไว้ก่อนฉันก็ไม่อยากที่จะทำพลาดเหมือนกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ถึงแม้จะแค่ครั้งเดียวก็ตามเถอะ'
เมื่ออ่านฉลากยาจนละเอียดแล้วถึงได้แกะเม็ดยา เม็ดเล็ก เข้าปากเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นขึ้นมาดื่ม และคิดว่าน่าจะนอนพักผ่อนเสียหน่อย
อาจเป็นความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่ไม่คาดคิด ฉันนอนลงโซฟาภายในห้องพลางคิดเรื่องเมื่อเดือนก่อนที่ มารดาเรียกฉันเข้าไปหาอย่างเร่งด่วน
เหตุการณ์เมื่อเดือนก่อนหน้า
กรี๊งๆๆๆๆ
" มีอะไรคะแม่ กุ้งนางทำงาน กำลังยุ่งอยู่เลย เดี๋ยวเคลียร์งานเสร็จกุ้งนางค่อยโทรหาแม่ได้ไหมคะ " ฉันหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูมาเปิดดู เมื่อเห็นว่าเป็นมารดาที่โทรเข้ามา แล้วด้วยตอนนี้กำลังวุ่นวายกับงานตรงหน้า จึงเอ่ยบอกมารดาอย่างร้อนรนเพื่อที่จะสะสางงานให้เสร็จเสียก่อน
[ แม่ขอพูดแป๊บเดียวอย่าเพิ่งวางสาย วันนี้กุ้งนางช่วยกลับบ้านมาหาแม่หน่อยนะ แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ] ปลายสายเอ่ยบอกฉันด้วยน้ำเสียงถึงความร้อนใจเช่นกัน
"ได้ เดี๋ยวตอนเย็นกุ้งนางไปหาที่บ้านนะคะ ตอนนี้กุ้งนางของทำงานก่อนนะคะ " ฉันบอกคนปลายสาย เพื่อที่จะรีบวางสายแล้วเคลียร์งานด้านหน้าให้เสร็จ
[ได้ แต่วันนี้ต้องเข้ามาหาแม่ให้ได้นะ แม่มีธุระด่วนมาก ๆ ] คุณแม่ย้ำฉันอีกรอบ ก่อนฉันจะตอบรับท่านด้วยความเบื่อหน่าย ถ้าให้คาดเดาคงจะนัดทานข้าวกับลูกชายเพื่อนแม่อีกนั้นแหละ
" คะ แม่ " ฉันตอบรับคำขอของมารดาและกดวางสาย วางโทรศัพท์มือถือลงที่โต๊ะทำงานอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะสลัดความคิดออกเพื่อที่จะหันมาสนใจงานบนโต๊ะ ที่กองพะเนินอยู่ตอนนี้
"เรียกหนูมาทำไมคะหรือมีธุระด่วน"ทันทีเมื่อเดินเข้ามาถึงประตูหน้าบ้านสายตาเห็นแม่ตัวเองที่นั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องรับแขก มีแผ่นกระดาษสีขาววางอยู่บนโต๊ะกลางของชุดโซฟาในห้องรับแขก
แม่หยิบกระดาษส่งให้ฉัน คิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นจนเป็นปม มองที่แผ่นกระดาษสีขาวยังไม่เข้าใจว่ามารดาของฉันจะส่งมาให้ฉันทำไม
"กระดาษอะไร คะแม่"ฉันรับแผ่นกระดาษก่อนจะถามมารดาด้วยความมึนงง ถึงกระนั้นก็ไม่ลืมพลิกแผ่นกระดาษเพื่อดู....และนั้นฉันเห็นเพียงแค่ตัวอักษรที่เขียนบนแผ่นกระดาษคาดเดาว่าน่าจะเป็นชื่อของใครสักคน แล้วชื่อใครละ ยิ่งคิดยิ่งงง
"นี่ชื่อ ไปเปลี่ยนใหม่นะ ชื่อนี้เป็นมงคลมาก แม่ไปดูกับอาจารย์หมอที่รู้จักมาเขาบอกว่าให้เปลี่ยนชื่อ แล้วแกจะมีคู่ เพราะชื่อนี้สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้"
"โอ้ยแม่ ชื่อเก่าก็ดีอยู่แล้ว คุณปู่ตั้งให้เลยนะคะ"ฉันตอบแม่ด้วยความจริงเพราะชื่อจริงกับชื่อเล่นคุณปู่เป็นคนตั้งให้ตั้งแต่เกิด
"เถอะนะ เปลี่ยนไปก็ไม่เสียหายหรอก เอาตรง ๆ เลยนะ ฉันได้ยินว่าเพื่อนแกสองคนแต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว ฉันก็อยากให้แกมีแบบเพื่อนแกบ้าง อยู่คนเดียวมันเหงานะ"
"เอาจริง ๆ นะแม่ สมัยนี้แล้วผู้หญิงอยู่คนเดียวเยอะแยะไป ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชาย ผู้หญิงกับผู้ชายเท่าเทียมกันแล้วนะแม่ ทำไมชอบผลักไสให้หนูมีแฟนจังเลย ถ้ามันจะมีถึงเวลามันก็มาเองแหละ ไม่ต้องไปดูหรอก หมอดงหมอดู ดูไปก็เสียเงินเปล่า ๆ "ปากเล็กพร่ำบอกกับมารดาตัวเองอย่างใจคิด
"เอาเถอะ แม่ขอนะช่วยเปลี่ยนชื่อให้แม่หน่อย ถ้ามันมีก็ดี แต่ถ้ามันไม่มี ก็ไม่เป็นไร ถือว่าแม่ขอร้องก็แล้วกันนะ"คุณแม่บอกฉันพร้อมส่งมือมาจับที่มือของฉันเบา ๆ ไม่เพียงเท่านั้นคุณแม่ยังส่งสายตาแกมขอร้องจนฉันเริ่มใจอ่อน
"คะ แค่เปลี่ยนชื่อใช่ไหมคะ ถ้าหนูเปลี่ยนชื่อให้แล้วแม่ต้องเลิกจับคู่ให้หนูนะคะ ให้หนูอยู่อย่างสงบบ้างนะคะแม่ พอสักทีดูตงดูตัว หนูต้องช่วยพ่อดูแลบริษัท ไม่มีเวลาไปนั่งดูตัวหรอก"
"แม่ขอแกเรื่องนี้เรื่องเดียว แล้วแม่จะไม่ยุ่งเรื่องจับคู่อีกเหรอ"
"ให้จริงเถอะ"
"คุยอะไรกันครับสาว ๆ "
"ทำไมพ่อเพิ่งถึงบ้านคะ หนูนึกว่าพ่อออกจากบริษัทก่อนหนูซะอีก "
"พ่อมีนัดคุยงานกับบริษัทผู้ว่าจ้างเจ้าใหม่ ตกลงเรื่องเซ็นสัญญา ที่จะขนส่งสินค้าเรา เนี่ยยังตกลงกันไม่ได้เลย"
"คุยกับบริษัทใหม่เหรอคะ แล้วบริษัทเก่าไม่ดีเหรอ ถึงต้องเปลี่ยนบริษัทขนส่งใหม่"
"บริษัทเก่าทำงานผิดพลาดเยอะ พ่อไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พอดีหมดสัญญาพอดีเลยให้คุณนิกรเลขาของพ่อหา บริษัทขนส่งให้ใหม่ คุณนิกรบอกพ่อว่าบริษัทนี้ ทำงานดี ไม่ค่อยผิดพลาด แต่ถ้าผิดพลาดทางบริษัทก็มีค่าเสียหายให้"
"แล้วทำไมเขาไม่ตกลงคะพ่อ"
"พ่อยื่นเปลี่ยนข้อเสนอนิดหน่อย เขาเลยบอกว่าขอถามเจ้านายเขาดูก่อนว่า โอเค ไหม"
"พอแล้วคะ หยุดคุยเรื่องงานสักที ไปทานข้าวกันได้แล้ว"ผู้เป็นแม่และเมียส่งเสียงปราม คนเป็นสามีและลูกสาวเมื่อเจอหน้ากันก็คุยแต่เรื่องงานอย่างเดียว ก่อนจะสาวเท้าไปยังโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเรียงไว้เรียบร้อยแล้ว
"ไปทานข้าวลูก เดี๋ยวอย่างไงเราค่อยคุยต่อที่บริษัทก็ได้ แม่ลูกงอนเดินตูดบิดไปละ"คุณพ่อพูดฉันถึงอดขำไม่ได้
" คริ คริ พ่อก็ไปแซวแม่"ฉันยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคุณพ่อที่ชอบแซวคุณแม่จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
"อ๋อ พ่อก็ลืมถามเราเลยว่า ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านได้หละ"คุณพ่อถามฉันเมื่อฉันนั่งลงที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
"ก็แม่นะสิพ่อ โทรตามให้กลับบ้านด่วน พอหนูเคลียร์งานเสร็จก็รีบขับรถกลับมาบ้านเลย"ฉันบอกคนเป็นพ่อพร้อมกับตักอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ก่อนจะกลืนลงคอ
"แล้วแม่เรามีเรื่องอะไรสำคัญขนาดให้เรารีบกลับมาบ้าน อย่าบอกนะว่าจะแนะนำหนุ่ม ๆ ให้ลูกอีกแล้ว คุณก็เพลา ๆ ลงบ้างเถอะ หาคู่ให้ลูกหนะ"คุณพ่อถามฉันก่อนจะหันไปถามคุณแม่ที่นั่งทานข้าว มองเราสองพ่อลูกคุยกัน
"ไม่ใช่เสียหน่อยคุณก็พูดไปเรื่อย"คุณแม่ตอบคุณพ่อพร้อมกับตักอาหารเข้าปากเหมือนไม่ใส่ใจ
"ไม่ใช่หรอกคะพ่อ แต่รอบนี้แม่เขาให้หนูเปลี่ยนชื่อ เขาบอกว่าชื่อเป็นมงคล"
"เฮ้ย! ตามใจแม่เขาหน่อยแล้วกัน พ่อผิดเองแหละที่มีหนูเป็นลูกสาวคนเดียว ถ้าหนูมีน้องชีวิตหนูคงไม่วุ่นวายแบบนี้หรอก"คุณพ่อถอนหายใจออกมา ด้วยความเบื่อหน่ายเช่นกันแต่ทำไงได้เมื่อภรรยาชอบจับคู่ให้ลูกคงเพียงเพราะอยากให้ลูกมีคู่ครองที่ดี และอยากจะมีหลานตัวน้อย ๆ เหมือนกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ต่างก็มีหลาน ๆ ไว้ใช้เฉยชมสร้างสีสันคายความเหงาเวลาอยู่บ้านเพียงลำพัง
"คะพ่อ หนูก็หวังว่ารอบนี้จะเป็นรอบสุดท้าย เพราะแม่เขาสัญญากับหนูแล้วว่าจะไม่จับคู่ให้หนูอีก"ฉันบอกพ่อแต่ส่งสายตาไปยังมารดาที่นั่งฟังเราสองคนก่อนจะส่งเสียงดังส่งมาให้เราสองคนพ่อลูก
"หยุดคุยกันสักทีทานข้าวได้แล้ว เดี๋ยวอาหารก็เย็นหมดหรอก "
"คะแม่/ครับที่รัก"เราสองคนพ่อลูกขานรับพร้อมกัน
เฮ้ย เสียงลมหายใจดังออกมาอย่างหนักใจเมื่อคิดถึงเรื่องที่มารดาของตัวเองบังคับให้ไปเปลี่ยนชื่อ แม่ไม่เข้ามาวุ่นวายก็จริงแต่แม่ยังให้ลูกชายเพื่อนของแม่มาค่อยชวนไปทานข้าวตลอดแล้วแบบนี้จะเรียกว่าหยุดวุ่นวายจับคู่ได้ไง ยิ่งคิดยิ่งเซ็ง ขอนอนก่อนดีกว่า เหนื่อยเหลือเกินวันนี้
