รอบตัวที่ว่างเปล่า
ตอนที่ 3
รอบตัวที่ว่างเปล่า
“ดูแลคุณพ่อให้ดีนะน้ำขิง”
ป้าซึ่งเป็นพี่สาวของแม่กอดหลานสาวให้กำลังใจเพราะรู้ว่านับจากนี้ครอบครัวของเธอจะต้องเผชิญกับความทุกข์แค่ไหน
“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ คุณพ่อเขาเก่งกว่าที่เราคิดเยอะ”
คนตอบไม่แม้แต่จะชายตาไปมองบิดาที่ยืนอยู่ข้างๆ ตลอดงานศพไม่มีวันไหนเลยที่น้ำขิงจะพูดกับคนเป็นพ่อด้วยคำพูดแบบเดิมมีเพียงแค่ความเฉยชาไร้ความรู้สึกและความนิ่งเฉยเท่านั้น
หลังจากเสร็จงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของน้ำขิง เธอก็กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านตามเดิมแต่บ้านหลังนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว เธอเลือกที่จะไม่กินอาหารเช้าพร้อมพ่อและเลือกใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับการทำงานที่บริษัทกว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกรอจนกว่าจะมั่นใจว่าจะไม่มีใครนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก
“เหงาเหมือนกันนะคะ แม่เหงาเหมือนหนูไหม”
สาวน้อยยืนพูดกับรูปครอบครัวที่ติดอยู่ที่ผนังตรงทางขึ้นบันไดเหมือนจะหวังสื่อไปให้มารดาได้รู้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้มันเหมือนเรือลำน้อยที่เล่นอยู่กลางทะเลที่กว้างใหญ่
อากาศข้างนอกที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวและฝนที่เพิ่งตกไปทำให้หัวใจของคนเหงาตัดสินใจที่จะออกไปท่องราตรีอีกครั้งและหัวใจของเธอก็บอกว่าร้านเดิมน่าจะมีใครรอเธออยู่
“เราจะอยากมาเจอเขาเพื่ออะไรในเมื่อทุกอย่างมันก็เป็นแค่อดีตเท่านั้น”
สาวน้อยในชุดทำงานบริษัทที่ยังคงไม่ได้เปลี่ยนสองมือล้วงกระเป๋าถอนลมหายใจให้กับสิ่งที่ตัวเองกำลังต้องการ น้ำขิงมาที่นี่เพื่อหวังว่าอาจจะมีโอกาสได้เจอกับวิรากรสักครั้งเธอไม่ได้อยากรื้อฟื้นความรู้สึกใดๆแต่แค่อยากมีเพื่อนคลายเหงาและเมื่อครั้งที่ผ่านมาเขาก็เป็นความอบอุ่นให้เธอได้จริงๆ
นาฬิกาบอกเวลาให้รู้ว่าน้ำขิงมานั่งอยู่ที่ร้านนี้เกือบ2 ชั่วโมงแล้วแต่ยังคงไร้วี่แววการปรากฏตัวของผู้ชายที่เธอคิดว่าจะเจอเขาได้ที่นี่ สาวน้อยจึงตัดสินใจว่าหมดจะแก้วนี้เธอก็คงจะต้องกลับ
“ผมไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอคุณที่นี่อีก”เสียงที่แสนคุ้นเคยดังมาพร้อมกับชายหนุ่มที่แสนคุ้นตา
“เบื่อๆค่ะไม่รู้จะไปไหน”
น้ำขิงพยายามทำน้ำเสียงให้ปกติที่สุดทั้งที่ตอนนี้หัวใจของเธอกำลังเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่ทั้งตื่นเต้นและดีใจที่สุดท้ายเธอก็ได้เจอเขาอีกครั้งจริงๆ
“เป็นไงบ้าง งานของแม่เรียบร้อยดีไหม”
วิรากรก็ไม่ต่างอะไรจากน้ำขิง เขามาที่ร้านนี้เกือบทุกคืนเพื่อหวังว่าจะมีสักวันที่จะมีโอกาสได้พบกับผู้หญิงที่เป็น one night standของเขาอีกสักครั้ง
หญิงสาวยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพยักหน้าแทนคำตอบ เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วถึงใจจะยอมรับแล้วว่าสุดท้ายแม่ก็จากไปแต่แค่ไม่อยากได้ยินใครพูดเรื่องนี้ซ้ำๆเธออยากหลอกตัวเองไปวันๆก่อน
“คุณมาที่ร้านบ่อยหรือคะถึงรู้ว่าฉันไม่ได้มาที่นี่”
หญิงสาวที่ดื่มไปแล้วหลายแก้วมองทอดสายตาเป็นคำถามไปยังผู้ชายที่นั่งข้างๆ น้ำขิงอยากได้ยินเหลือเกินว่าเขามาที่นี่เพราะอยากเจอเธอเหมือนที่เธอเองก็มาที่นี่เพราะอยากเจอเขา
“ปกติผมเที่ยวที่ร้านนี้อยู่ประจำก็คงไม่แปลกที่จะมาบ่อย”
วิรากรยังคงรักษามาดนักธุรกิจที่ไม่ต้องการผูกพันหรือผูกมัดกับใครทั้งสิ้น เขาไม่อยากให้น้ำขิงรู้ว่าเขากำลังรู้สึกกับเธอพิเศษมากกว่าคนอื่นและไม่ใช่แค่เพียงไม่อยากให้น้ำขิงรู้สึกแต่ตัวเขาเองก็ต้องการเตือนตัวเองด้วยเหมือนกัน
“จะกลับแล้วนะพรุ่งนี้ต้องทำงานต่อ”
หญิงสาวเมื่อรู้สึกว่าสุดท้ายสิ่งที่เธอคิดมันก็ไม่มีอะไรสมหวังเขาเองก็คงคิดกับเธอแค่เพียงผู้หญิงคืนเดียวจริงๆจึงเลือกที่จะพาตัวเองออกจากที่นี่ ชีวิตของเธอคงหวังให้ใครมารู้สึกดีและเป็นห่วงจริงๆไม่ได้
“ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณทุกข์ ผมยังรออยู่ที่ร้านนี้ จำไว้ว่าชีวิตของคนเรามันก็มีทั้งความสุขและความทุกข์อยู่ที่คุณจะเลือกเก็บอะไรมาใส่ใจดูแลตัวเองดีๆล่ะ”
วิรากรจับมือหญิงสาวที่กำลังจะลุกออกไปจากเก้าอี้ดึงเธอเข้ามาสวมกอดพร้อมเสียงกระซิบข้างหูก่อนที่เขาจะเป็นคนผลักตัวเธอออกจากอกกว้างและเป็นฝ่ายเดินหันหลังให้เธอไปเสียเอง
น้ำขิงไม่เข้าใจในสิ่งที่วิรากรทำ เขาไม่ควรทำให้เธอรู้สึกดีไปกว่านี้ในเมื่อสุดท้ายเขากับเธอก็เป็นเพียงแค่คู่นอนคืนเดียวแต่วันนี้เธออ่อนแอเกินกว่าที่จะแยกได้ว่าอะไรคือเรื่องจริงอะไรคือโลกมายาอย่างน้อยอ้อมกอดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกไม่เหงาในค่ำคืนนี้ได้
“พ่อเตรียมข้าวต้มไว้ให้ รอพ่อก่อนนะจะไปอุ่นให้ร้อนๆ”
ดิเรกนั่งรอการกลับมาของลูกสาวอยู่ที่ห้องรับแขกถึงแม้ว่าตอนนี้จะเกือบตีสาม แล้วก็ตามชายชรารีบลุกด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าลูกสาวกลับบ้านมาแล้ว เขาตั้งใจเรียนอาหารมื้อเย็นไว้ให้ลูก
ไม่มีเสียงตอบใดๆกลับมามีเพียงแค่สาวน้อยหน้านิ่งที่เดินหนีขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่บนชั้น 2 ทิ้งให้ชายชายชราที่เธอรักที่สุดได้แต่ยืนเสียใจอยู่ตรงนั้น
“พ่ออย่าทำเหมือนรักหนูเลยค่ะถ้าความจริงแล้วมันไม่ใช่”
น้ำขิงสำหรับเธอแล้วภาพที่เห็นในวันนั้นมันทำให้เธอรู้สึกตลอดว่าพ่อที่เคยรักเธอที่สุดได้เปลี่ยนไปกลายเป็นเพียงแค่ผู้ชายตัณหามากที่ทรยศแม่ของเธอ
สาวน้อยหลังจากที่เธอจัดการอาบน้ำทำตัวเองให้ใจเย็นลงก็
แอบเดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้านเพราะอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วพ่อของเธอจะไปทำข้าวต้มอย่างที่ว่าไหมและภาพที่เห็นคือโต๊ะที่ถูกจัดไว้ด้วยข้าวต้มทั้ง 2 ถ้วยข้าวต้ม 1 ถ้วยได้หมดลงแล้วแต่ยังคงตั้งไว้ที่เดิมทำให้น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาอาบแก้ม พ่อคงรอว่าเธอจะลงมากินข้าวกับเขาถึงแม้จะรู้สึกผิดแต่เธอก็แค่อยากให้พ่อรู้บ้างว่าที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะความต้องการของพ่อคนเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกเป็นไปแบบนี้โดยตลอด น้ำขิงทำเหมือนบิดาไม่มีตัวตนไม่เคยมีคำพูดตอบกลับจากเธอถ้ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือเป็นเรื่องของธุรกิจในการทำงาน
ร่างกายของดิเรกค่อยๆทรุดลงถึงแม้ว่าน้ำขิงจะมองเห็นแต่เธอก็คิดไปในทางที่ไม่ดีว่าบางทีบิดาของเธออาจจะต้องการดูแลรูปร่างเพื่อให้สมกับที่มีเมียเด็กถึงจะไม่เป็นสาวมากแต่อย่างน้อยก็อายุน้อยกว่าแม่ของเธอและนี่คงเป็นสาเหตุที่คนเป็นพ่อเลือกที่จะทำให้แม่เสียใจถึงแม้ว่าแม่จะเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่รู้เรื่องแต่สำหรับความรักระหว่างสามีภรรยาน้ำขิงว่า แม่ของเธอสามารถรับรู้ได้
