บทที่ 1 การพบกัน 3
“ถ้างั้น แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ อย่าบอกนะว่าเธอสนใจภาพวาดเก่า ๆ ฝุ่นเขรอะนี่” เขารู้สึกว่าคำพูดของตัวเองเริ่มไม่ชัดเจน จึงจิบไวน์ไปหนึ่งอึก “ฉันไม่เห็นเหตุผลดี ๆ อื่นใดนอกจากว่าเธอกำลังให้ท่าฉัน”
ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที และก้มหน้ามองลงไปที่เท้าของตัวเอง พร้อมกับประสานนิ้วเข้าด้วยกัน ภาพตรงหน้าเรียกความตื่นเต้นในสายตาชายหนุ่ม
มันจะต้องสนุกแน่ถ้าได้เล่นกับเธอ!
“ไม่ใช่แน่นอน” ธาริการีบโพล่งคำปฏิเสธ
“อ้อ ถ้าอย่างนั้น...แล้วอะไรล่ะ”
“ฉันแค่...ได้ยินมาว่าที่นี่มีผี” เธอเงยหน้ามองสบดวงตาคมที่เป็นประกายกล้า และความอยากรู้อยากเห็นในสายตาของเธอก็สดใสจนจักรินทร์อยากหัวเราะออกมา
“มีผี? จริงเหรอ?”
“เพื่อนฉันได้ยินข่าวลือมาบ้าง”
“ข่าวลือ? อืม...นั่นก็น่าเชื่อได้นะ”
“อย่ามาทำเป็นดูถูกฉันนะคะ”
“แล้วฉันควรทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้ล่ะ”
เธอยักไหล่ “ฉันไม่รู้ มีอะไรแปลก ๆ ในบ้านหลังนี้บ้างไหมคะ”
“เธอหมายถึงเรื่องไหนล่ะ” จักรินทร์หยอกล้ออย่างนึกสนุกมองหญิงสาวที่ยกมือขึ้นกอดอก
“คุณรู้ดีว่าฉันหมายความว่ายังไง”
“ฉันคิดว่าฉันรู้ ฉันไม่เห็นมีอะไรที่คล้ายกับผีในบ้านหลังนี้เลย ฉันว่าเพื่อนเธออาจจะหลงใหลในจินตนาการถึงคฤหาสน์เก่า ของเขาในบ้าน ที่จะต้องมีเรื่องอะไรลี้ลับเข้ามาเกี่ยวข้อง อะไรพวกนี้มากกว่า”
“นั่นก็น่าจะจริง”
“โชคไม่ดี ที่นี่ไม่มีเรื่องพวกนั้น ขอโทษที่ทำให้เพื่อนเธอผิดหวัง”
“ฉันว่าเธอคงจะเชื่อในสิ่งที่เธออยากเชื่อต่อไป โดยเฉพาะว่ามีบางสิ่งไม่ดีซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้”
จักรินทร์ยิ้มและก้าวเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ถอยหนี แต่ยืนตรงต่อหน้าเขา สายตาสองคู่สบกัน และเธอมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“สิ่งไม่ดีเดียวในบ้านหลังนี้ก็คือฉัน ฉันว่าเธอคงจะรู้อยู่แล้ว”
ทันในนั้นเขาก็กดเธอเข้ากับผนังและจุมพิตเธออย่างนุ่มนวล ใช้ประสบการณ์ที่มีทำให้เธอตอบรับ เมื่อร่างบางโน้มตัวเข้ามาหาเขาด้วยความปรารถนาอันรุนแรงที่ถูกปลุกขึ้น เขาก็ยิ่งล่วงลึกเข้าไป สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวาน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก ๆ ส่วนมือก็ค่อย ๆ ลูบขึ้นไปตามต้นขา
บางทีอาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ในร่างกายของเขาก็ได้ เขารู้ว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่อเขาอาจจะกลายเป็นเจ้านายเธอในไม่ช้านี้ แต่เขาก็อดไม่ได้ เธอสวยสะดุดตา และเมื่อสิ่งที่เขาต้องการอยู่ตรงหน้า เขามักจะคว้ามันมาไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม
“อื้อ...”
เสียงหวานครางเบา ๆ ใต้ฝ่ามือที่คล่องแคล่วของชายหนุ่มทำลูบไล้อยู่บริเวณต้นขาและค่อย ๆ ถลกกระโปรงของเธอขึ้น จากนั้นก็จุมพิตลงไปที่แนวกรามและค่อย ๆ กัดคอของเธออย่างนุ่มนวล เมื่อนิ้วของเขาแตะถึงขอบกางเกงในของเธอ วินาทีนั้นธาริกาก็สะดุ้งเหมือนจะรู้สึกตัวว่าได้ทำอะไรลงไป เธอจึงรีบผลักร่างแกร่งออกไป
“ฉันไม่ควรทำแบบนี้” เสียงที่เปล่งออกมาเบาหวิว
จักรินทร์ยิ้มอย่างเกียจคร้าน ทว่ามันกลับดูยั่วยวนน่าหลงใหลและมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ เขามั่นใจว่าเขาสามารถโน้มน้าวให้เธอกลับมาในอ้อมแขนของเขาได้
“ทำไมล่ะ มันชัดเจนว่าเธอต้องการมัน”
ธาริกากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องราวกับกำลังมองหาข้ออ้างเพื่อจากไป
“พ่อแม่ฉันคงกำลังหาฉันอยู่”
“ยังมีเวลาอีกสองสามชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะเหนื่อยกับการสังสรรรค์”
“พวกท่านจะต้องสังเกตว่าฉันหายตัวไป” ธาริกาหลบการรุกก้าวของชายหนุ่ม “ลืมเรื่องนี้ไปเถอะนะคะ”
จักรินทร์มองตามร่างเล็กที่หันหลังหายกลับไปตามทางเดิน เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำได้หรือไม่
**********
ระหว่างทางที่เดินกลับเข้างานเลี้ยง ธาริกาคิดมาตลอดทางว่า เธอไม่อาจเอ่ยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ได้ มิใช่เพียงเพราะท่านทั้งสองจะโกรธ แต่เพราะเธอรู้สึกอับอายมาก
ความจริงแล้ว มีหลายปัจจัยที่ผลักดันให้เธอตอบรับจุมพิตจากคุณหมอจักรินทร์ ไม่ว่าจะเป็นฤทธิ์แอลกอฮอล์จากแชมเปญรสซ่าที่ดื่มไปพอสมควร แรงกระตุ้นจากจิตใจที่โหยหาอิสระและรสชาติของความขบถ อีกทั้งบรรยากาศในคฤหาสน์อันโอ่อ่า ทว่าแฝงเร้นความมืดสลัวในทางเดิน กลับกลายเป็นฉากที่ประดับประดาความรู้สึกให้ดูราวกับต้องมนตร์เสน่ห์อันแสนโรแมนติก
กระนั้นก็ตาม ธาริกาก็ตั้งมั่นในหัวใจอย่างเด็ดเดี่ยว ว่าเรื่องราวเช่นนี้...จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด
ถึงแม้คุณหมอจักรินทร์จะหล่อเหลาสง่างาม มีนัยน์ตาสีดำขลับลุ่มลึก ทว่าในความเป็นจริง เขาก็มีอายุมากกว่าเธอถึงรอบเศษ และกำลังกลายเป็นเจ้านายเธอ หากทุกสิ่งเป็นไปตามที่วางไว้
ยิ่งไปกว่านั้น คำบอกเล่าของเอวายังสะท้อนก้องอยู่ในหูเธออย่างชัดเจน ถึงพฤติกรรมของคุณหมอในเรื่องของผู้หญิง
เธอจะไม่ยอมให้เขาเข้ามาหยอกล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอเป็นอันขาด หัวใจดวงน้อยนี้ กว่าจะฟูมฟักรักษามาได้จนถึงวันนี้ เธอจะไม่ยอมพ่ายแพ้และยกให้ใครมาครอบครองโดยง่ายดายอย่างแน่นอน
