๔ พลอดรัก (๒)

“อย่า อย่าค่ะ” มือสากลูบไล้แผ่นหลังบาง สอดมืดเข้ามาในเสื้อไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ เธอยังคงใช้มือยันแผงอกหนาเอาไว้ ปฏิเสธเสียงกระเซ้าพอเป็นพิธีโดยลำคอระหงก็เชิดขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มซุกไซ้ได้ถนัด

กระท่อมริมบึงที่ห่างไกลผู้คน สามารถพลอดรักกันได้โดยไม่ต้องระแวงว่าจะมีใครมาเห็นหรือได้ยิน คืนนี้หล่อนคิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเสียตัวให้เขา ไม่เสียดายความสาวที่เก็บเอาไว้สักนิด หากคนที่ได้มันไปคือภูมิรพี เธอเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง

เสื้อยืดถูกถอดออกอย่างรวดเร็วโดยเธอให้ความร่วมมือชูสองแขนขึ้น เพียงแค่เสื้อพ้นศีรษะ ชั้นในตัวจิ๋วก็ถูกเลิกขึ้นมากองไว้ยังเนินอก น้ำที่เกาะตามผมหยดลงมายังเนื้อสีนวลแสนเนียนนุ่ม ไม่ว่างเขาจะสัมผัสไปที่ใดก็พบแต่กลิ่นหอมหวานจนแทบอยากฝังจมูกเข้าไว้กับกายสาว

ใบหน้าคมคลอเคลียดอกบัวคู่งาม ยกฐานสองข้างแล้วดันให้มาชิดกัน ชิมยอดสีเข้มที่เริ่มชูชันจนแข็งเป็นไต เขากัดมันด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยว จนหล่อนต้องเปล่งเสียงร้องครางประท้วงพลางเผลอกอบกุมผมหนาแล้วออกแรงดึงเพียงเล็กน้อย

“อ่า” เสียงฝนที่ตกกระหน่ำพัดพาอากาศเย็นมาต้องกาย เธอผวากอดเขาจนใบหน้าคมซุกทรวงอกนุ่มมากกว่าเดิม เขายิ้มมุมปากด้วยความรื่นเริง อารมณ์พิศวาสหมุนเวียนไปทั่วร่างกายหลังจากดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยหมดไปสองขวด

มันไม่ได้ทำให้คนอย่างเสือเมาสักนิด แต่กระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าให้ออกหาเหยื่อมากกว่า ตอนแรกคิดว่าจะทะนุถนอม ทว่ามันอาจจะไม่ใช่ทางของเขาสักเท่าไหร่ ร่างหนาจึงแตะต้องเนื้อเนียนด้วยแรงทั้งหมดที่มี อุ้มหล่อนไปนอนยังแคร่ที่ถูกผู้ด้วยผ้าฝ้ายทอมือกับหมอนขิดสี่เหลี่ยมเพียงหนึ่งใบ

เขามาก่อนเวลานัดและเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อย ตอนแรกคิดจะพูดคุยกันก่อน ทว่าฝนที่ตกกระหน่ำกับน้ำเมาซึ่งตนได้ดื่มลงไป พร้อมกับท่าทีของครูสาวที่เขาเชิญชวนเสียเหลือเกินจนไม่อาจอดใจไหว

ห่างหายจากเรื่องพวกนี้ไปหลายปี เพียงแค่แตะก็จุดกันติด แม้ในกระท่อมจะมืดจนมองไม่เห็นคนตรงหน้า แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรักที่อีกฝ่ายมีต่อตนเองจนไม่ได้เอะใจ ค่อยวางหล่อนลงบนแคร่ที่มีขนาดเล็กพอนอนได้แค่คนเดียวเท่านั้น

สิ่งที่เขาทำจึงเป็นการขึ้นคร่อมบนร่างบาง แล้วถอดกางเกงตัวสั้นออกจากขาเรียว เลื่อนลงมาพร้อมกางเกงชั้นในที่เป็นปราการขวางกั้นความงดงามของกายสาว

“อ่ะ อื้อ” ไม่รอช้ารีบแตะมันอย่างรวดเร็ว สัมผัสได้ถึงความเกลี้ยงเกลาแทบไม่มีเส้นสีเข้มที่มักเกิดขึ้นตามจุดซ่อนเร้น ซุกใบหน้าลงไปดอมดมพบเพียงความหอมไร้ซึ่งความคาวจนเขาเผลอใช้ลิ้นแตะทั้งที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน

“ไม่เอา สกปรก” รีบแตะใบหน้าคมแล้วบอกเขาทันที หล่อนเห็นอีกฝ่ายเพียงเลือนรางเท่านั้น แทบมองไม่เห็นใบหน้าหล่อคมที่ตนฝันถึงบ่อยครั้งจนน่าหงุดหงิด เสียงฝนก็กระหน่ำไม่หยุดจนแทบไม่ได้ยินเสียงพวกเขายามคุยกัน แต่ก็ยังพอจับใจความได้

ร่างหนาจับมือหล่อนออก แล้วก้มลงไปหยอกเย้ากับกลีบบาง ใช้ลิ้นดุนดันจนเธอแทบลอย ครั้งแรกของการมีเซ็กส์ไม่คิดว่าคู่นอนจะบริการแทบทุกอย่าง ไม่ใช่แค่การสอดใส่แต่กลับถูกเล้าโลมจนหลังไม่ติดเตียงด้วยซ้ำ เหมือนลอยตลอดเวลา

“หวาน หวานดี หอมด้วย” เอ่ยชมจนคนที่ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นถึงกับยิ้มกริ่ม เธอใช้เวลากับมันค่อนข้างนานเพื่อสร้างความประทับใจให้เขา อย่างน้อยก็ต้องหลงใหลในความสาวของหล่อนหน่อยล่ะ

เนียนนุ่มและกลิ่นหอมตรึงใจ ผู้ชายจะไปไหนรอดล่ะ

เมื่อเขาเอ่ยเช่นนั้น กนกวดีจึงไม่อาจต้านทานอะไรได้อีก นอกจากนอนชันขาเพื่อให้ร่างหนาได้ชื่นชมความงามของเนินเนื้อได้นานขึ้น ส่วนตนก็ส่งเสียงครางไม่หยุดแข่งกับเสียงฝนและกบที่ร้องดังระงมจนน่ารำคาญ

แต่เพราะไฟราคะที่โอบล้อม หล่อนจึงเลิกสนใจสิ่งเร้าภายนอก ให้ความสนใจเพียงคนตรงหน้าที่กำลังปรนนิบัติสาวสวยจนเธอจิกมือเข้ากับผ้าฝ้ายเพราะความเสียวกระสัน

เพิ่งรู้ว่าทำไมคนถึงติดใจเซ็กส์กันนัก มันให้ความรู้สึกสุขสมมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ เพียงแค่มือสายไล้ตามร่างกายก็ร้อนวูบวาบทั้งที่อุณหภูมิข้างนอกและในกระท่อมเย็นฉ่ำ เสียงครางที่ออกจากปากตลอดเวลาเพราะเผยอริมฝีปากค้างไว้ พวกเรายังไม่ได้จูบกัน แต่เขากลับก้มลงละเลงลิ้นลงบนกลีบสีอ่อนอย่างชำนาญ

ไม่แปลกหรอก...นายอำเภออายุเกือบสี่สิบก็ต้องผ่านผู้หญิงมามาก

เธอไม่ถือสาเรื่องนี้ ขอเพียงหลังเราแต่งงานกันเขามีหล่อนคนเดียวก็พอ หญิงสาวคิดอย่างคนใจกว้างแล้วกระตุกกายเมื่อรู้สึกว่าตนไปถึงจุดสุดยอด เสียงครางยาวแล้วหอบหายใจถี่เหมือนวิ่งมาราธอนมาหลายสิบกิโลเมตร

หล่อนนอนอยู่อย่างนั้นสักพัก ขณะที่ร่างสูงเลือกจะลุกยืนแล้วถอดเสื้อผ้าของตนเองออก แล้วโถมกายคร่อมบนร่างเธออีกครั้ง

เขาเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อชั้นในให้หล่อนที่กำลังอ่อนแรง สงครามเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นแต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะหมดกำลังซะแล้ว เสือนึกเอ็นดูคนที่ตนคิดว่าเป็นครูสาว มุมปากยกยิ้มแล้วเลือกจุมพิตหน้าผากมนอย่างรวดเร็ว

ใช้ลิ้นเลียตามลำคอระหงส์เรื่อยลงมาถึงทรวงอกนุ่ม เขาแทบจะกลืนดอกบัวงามคู่นั้นลงท้อง ดูดดึงอย่างสนุก แล้วใช้นิ้วเขี่ยปลายยอดอีกข้างอย่างหยอกเย้า เล่นเอาร่างแบบบางซึ่งนอนหมดสภาพบิดกายไปมา

เริ่มคิดว่าหากถูกสอดใส่จะดีมากแค่ไหน...ไม่น่าเชื่อเหตุการณ์ตรงหน้าจะเป็นความจริง หล่อนหุบยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ด้วยซ้ำ

“เข้าไปได้ไหม” ค่อยประคองคนตัวเล็กลุกนั่ง เพราะเตียงที่แคบเขากลัวว่าจะตกอีกทั้งทำอะไรไม่ถนัด จึงถามความสมัครใจของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่กำลังนอนราบพยักหน้าทันที พลางลุกนั่งลงบนตักหนา โดยหันหลังให้เขาเพราะหากมองหน้ากลัวว่าตนเองจะอาย

“อ่ะ อือ” ความแข็งขืนที่จ่อบั้นท้ายเล่นเอากลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ ตอนแรกก็กล้าแต่พอเจอสถานการณ์จริงเริ่มนึกกลัว เส้นทางของเธอไม่เคยมีสิ่งใดเข้าไป มันจะติดขัดหรือทำให้หมดอารมณ์หากเข้ายากหรือเปล่า

แต่เขาก็ยังไม่เข้าไปในทันที เลือกนั่งเคล้นคลึงทรวงอกนุ่มอยู่สักพัก ขยี้ปลายยอดแล้วเปล่งเสียงครางข้างหูหล่อนแข่งกับเสียงฝน

“พร้อมนะ” ค่อยประคองบั้นท้ายงามให้ยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะได้สอดใส่เข้ามาถนัด เธอได้ฟังแล้วนึกจักจี้หูพิกล แต่ก็ยอมพยักหน้าให้เขาแล้วตอบในลำคอ มาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่ต้องอายอะไรอีก หล่อนพร้อมและยินยอมเป็นของชายหนุ่มทั้งตัวและหัวใจ

“อือ” ความใหญ่โตของแก่นกายชายค่อยเข้ามาในกลีบสีอ่อน ใบหน้าหวานเหยเกสัมผัสได้ถึงความเจ็บ แต่ก็พยายามเม้มปากไม่กล้าร้อง กลัวว่าเขาจะหยุดกลางคัน เธอจึงเลือกยกมือปิดปากตัวเองเอาไว้

“เจ็บไหม ถ้าเจ็บ..” เห็นเธอตัวสั่นเขาจึงรีบถาม ยังเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งก็รู้สึกถึงความคับแน่นแต่ไม่อาจหยุดได้เพราะเธอนั่งทับจนมันหลุบเข้าไปทั้งแท่ง หญิงสาวแทบกรีดร้องเจ็บจนน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าครั้งแรกของเราจะทำเอาเธอร้องไห้

ขนาดของเขาไม่ธรรมดาเลย...

“ชอบค่ะ ไม่เจ็บ” คนตัวเล็กกลัวว่าจะได้หยุด จึงรีบปฏิเสธแล้วนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น สูดลมหายใจเข้าปอดโดยที่เสือรู้ดีว่าเธอกำลังโกหก คงเพราะอยากไปต่อให้จบ

เอ็นดูจนต้องเกยคางไว้บนไหล่บาง เอื้อมมือมาเคล้นคลึงทรวงอกนุ่มเพื่อคลายความเจ็บปวด นั่งแช่อยู่อย่างนั้นสักพักไม่ได้ขยับ แม้เขาจะเริ่มอยากเคลื่อนตัวแต่ก็ต้องรอให้เธอรู้สึกดีซะก่อน

“อ่า” รอไม่นานร่างบางก็เริ่มขยับ บ่งบอกว่าชินกับสิ่งแปลกปลอมที่รุกล้ำเข้ามาในกายแล้ว ร่างสูงไม่คอยท่ารีบจับบั้นท้ายของหล่อนแล้วกระซิบข้างหูนิ่ม

“ขย่มให้หน่อยสิ” เสียงแหบพร่าบอกด้วยประโยคที่ทำเอาใบหน้าหวานร้อนผ่าว เธอไม่รอช้ารีบทำตามคำขอของเขาทันที จัดการขย่มโดยมือสองข้างจับเข่าของร่างสูงเอาไว้ ยิ่งเสียดสีกันมากเท่าไหร่กลับเพิ่มไฟให้ร่างกายมากยิ่งขึ้น