บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

กุหลาบดอกนั้น 1

คืนที่เจอกุหลาบลาเวนเดอร์เป็นคืนเหมือนจะธรรมดา ดาวเปล่งประกายสวยงามบนท้องฟ้ายามค่ำ...ฉันผู้ไม่สนใจพยากรณ์อากาศของกรมหลับอุตุ ที่รายงานว่าจะมีฝน

ตอนนั้นอากาศดีแดดเปรี้ยงทั้งวัน ฝนจะตกได้ยังไง บางทีพระพิรุณอาจจะอยากพักร้อนบ้าง...อะไรบ้าง

อุตส่าห์นัดเบบี้เพื่อนสาวไปตะลุยกินตามร้านเด็ดติ๊กต๊อกที่เยาวราช จู่ ๆ เพื่อนเทกะทันหันเพราะผู้ชายชวนกินข้าวเย็น

“ฮึ๊ย! เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน”

“แก...ผู้ชายผ่านมาแล้วผ่านไป ต้องรีบสวบลงท้อง แต่เพื่อนสาวนั้นไซร้ อยู่ยั้งยืนยง”

พร้อมหัวเราะเสียงใส ไม่นำพาอารมณ์หงุดหงิดของฉันเลย

“ไว้ผ่านไปบริษัทแกจะเอาครัวซองค์เจ้าดังไปเซ่นกล่องใหญ่ ๆ”

“ชานมไข่มุกด้วย” ฉันได้ทีรีบต่อรองเพิ่ม

“ช่วงนี้ร่างกายขาดความหวาน ไม่เหมือนใครบางคน”

“เออ เห็นขาดมานาน บอกให้หาสักทีน่ะแฟน ตอนเรียนก็เห็นจมอยู่แต่กับหนังสือ พอทำงานก็จมอยู่กับกองงาน”

เพื่อนบ่นเหมือนทุกที ฉันแปลกใจเหมือนกันที่เรามาคบกันได้ อีกคนเก็บตัว อีกคนชอบปาร์ตี้

ถ้าไม่เพราะฉันหิวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตอนตีสี่จนมาเจอเบบี้ที่เพิ่งกลับจากผับ เมาพับเกือบโดนผู้ชายลวนลามหน้าถังขยะเซเว่น ชาตินี้เราคงไม่ได้เป็นเพื่อนกัน

“บอกให้ลาออกมาเป็นเซลบริษัทฉันก็ไม่เอา”

เบบี้เป็นเซลตัวแม่ค่าคอมมิชชั่นเรือนแสน เพื่อนเป็นคนคล่องแคล่วช่างเจรจา หน้าตาก็สวย แถมยังเก่งรอบด้าน จึงตกลูกค้ามาได้ง่าย ผิดกับพวกชอบทำงานหลบอยู่มุมห้องอย่างฉัน

“นิสัยฉันขี้เกียจเจอคนเยอะ แกก็รู้นี่”

มีเสียงถอนหายใจประกอบ ก่อนวางสายกันไป คืนนั้นฉันจึงตะลุยกินเยาวราชคนเดียว ข้าวแกงกะหรี่เนื้อนายโย่งอร่อยมาก กวยจั๊บก็ดีสมคำอวยในรีวิว

ยังมีร้านอาหารทะเลสด ๆ สุกี้สูตรโบราณที่อยากกิน เห็นปริมาณแล้วคนเดียวน่าจะจัดการไม่หมด ได้แต่จดลิสท์ไว้ค่อยพาเพื่อนมาแก้มือ

ร้านสุดท้ายได้กินคือบัวลอยน้ำขิง บัวลอยลูกสุดท้ายเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับยังไม่กี่รอบ ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา

ร้านแผงลอยอยู่ริมถนน ที่หลบฝนน้อย คนเบียดเสียดกันจนฉันต้องค่อย ๆ ขยับไปร้านข้าง ๆ หลังชนประตูกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งบนร้านจึงส่งเสียง

ฝนตกยังไม่หยุดฉันเลยหลบฆ่าเวลาดูของข้างใน ปรากฏเป็นร้านขายของเก่า มีอาแป๊ะนั่งสัปหงกไม่สนโลกอยู่หลังเคาน์เตอร์

อย่างนี้ก็ได้เหรอแป๊ะ เดี๋ยวยกเค้าขโมยของในร้านเสียเลย

ฉันคิดอย่างซุกซน เดินดูของในร้าน สะดุดตากับกุหลาบลาเวนเดอร์ในโถครอบแก้ว

ปรกติเห็นแต่กุหลาบสีแดงในโถแก้วแบบในเรื่องบิวตี้แอนด์เดอะบีสต์ กุหลาบสีม่วงเพิ่งเคยเห็น

“เป็นของเก่า โบราณ ของฝรั่ง”

เสียงแหบของแป๊ะทำฉันสะดุ้งเฮือก นึกตกใจว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไร

“ก็แค่กุหลาบสีม่วง มันไม่โบราณหรอกแป๊ะ สมัยนี้มีเยอะไป เขาเรียกลาเวนเดอร์โรส”

“ลื้อไม่รู้อะไร”

แป๊ะทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“สมัยโบราณมันมีเสียเมื่อไรล่ะสีม่วงมีค่ามากนะ อย่างผ้าสีม่วงลื้อรู้ไหมมันย้อมจากเปลือกหอยบดเป็นผง ต้องใช้หอยพัน ๆ หมื่น ๆ ตัวถึงจะย้อมผ้าสีม่วงได้สักหลาหนึ่ง ยิ่งเป็นกุหลาบม่วงแบบนี้ สมัยโบราณบางคนยังเชื่อเลยว่าพวกแม่มดใช้เวทมนตร์เสกขึ้นมา”

เล่าพร้อมทำเสียงตาขึงขังจริงจัง

“นั่นมันสมัยโบราณไงแปะ สมัยนี้ของแบบนี้มีเกลื่อนกลาดไป”

กุหลาบในโถสวยจริง ดูลึกลับ แต่ฉันยังไม่มีแก่ใจซื้อ

“ของสมัยนี้จะสู้ของโบราณได้ยังไง”

อีกฝ่ายยังเถียง

“อ่ะ...ค่ะ ของโบราณก็โบราณเนอะแป๊ะ”

ฉันยอมแพ้ ไม่เห็นประโยชน์จะเถียง เกิดเจ้าตัวอารมณ์เสียไล่ออกจากร้าน ก็เสี่ยงเปียกฝนเป็นลูกหมาตกน้ำกันพอดี จึงสงบปากสงบคำฟังเจ้าของที่ร่ายไป

“ใช่แล้ว ของโบราณนั่นแหละดี”

นัยน์ตายาวรีของผู้เฒ่าส่งแววหลุกหลิก

“อั้วขายให้ลื้อถูก ๆ เลยอาหมวย ราคากันเองสามพัน”

“เอ้า! แป๊ะ หนูไม่ได้บอกจะซื้อสักหน่อย”

ฉันโวยวายในการขายตรงแบบยัดเยียดขายนี้

“ลื้อไม่เคยได้ยินเหรอ ในโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ ได้เจอกันคือวาสนา”

แล้วก็ทำท่าลูบหนวดเครายาวสีขาวด้วยท่าทางสุขุมน่าเลื่อมใส

“ลื้อเจอมัน ก็ต้องเป็นของลื้อ”

“มั่วแล้วแป๊ะ มันตั้งอยู่ในร้านตั้งนาน ใครต่อใครก็เห็น หนูผ่านมาแค่หลบฝนเอง”

ฉันค้านสุดเสียง เลี่ยงเรื่องเสียทรัพย์สุดฤทธิ์ คืนนี้กระเป๋าเพราะของกินอย่างเดียวพอแล้ว

“งั้นอั้วลดให้ครึ่งราคาพันห้า”

ยอดนักขายวัยชราตื้อต่อ

“แปลก ๆ แล้วนะแป๊ะ จากสามพันเหลือพันห้า มันมีอะไรหรือเปล่า ของผีสิงหรือเปล่าเนี่ย”

มือฉันลูบแขนที่ขนลุกพรึบ แยกไม่ออกระหว่างอากาศเย็นเพราะฝนหรือกลัวอาถรรพ์

“ไหนว่าของฝรั่ง แล้วมาอยู่ร้านจีนแบบแป๊ะได้ยังไง”

รอบข้างเต็มไปด้วยของแบบจีนจ๋า ทั้งแจกันสมัยราชวงศ์หมิง กระถางธูป รูปปั้นเทพถือลูกท้อ มีกุหลาบนี่แปลกแยกอยู่อย่างเดียว จะให้คิดดีได้อย่างไร

“อั้วรับมาอีกทีจากบ้านเก่าฝรั่ง อีย้ายกลับประเทศ เห็นว่านี่เป็นของเก่า” แป๊ะถอนหายใจเล่าเสียงปลดปลง

“มันขายไม่ออก ลื้อดูสิมันไปคนละทางจากของขายในร้านอั้วขนาดไหน”

แปลกแยกจริง ๆ นั่นแหละ แต่ฉันหาเหตุผลที่ต้องรับช่วงมันไม่ออกจริง ๆ

“ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเพราะโควิด”

ผู้เฒ่าเริ่มเล่าปัญหายาว ฉันเหลือบไปทางประตู ดูฝนซาหรือยัง เตรียมจะหนีแล้ว

“ห้าร้อย อั้วแถมชาสูตรหยางกุ้ยเฟยดื่มให้ด้วย ผิวจะได้สวย ๆ มีหนุ่ม ๆ มาจีบ” แป๊ะยื่นข้อเสนอใหม่พร้อมของแถมล่อใจ

“ทำไมลดราคาเร็วจัง”

กุหลาบสีม่วงกับธนบัตรม่วง เข้ากันเหลือเกิน
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel