บท
ตั้งค่า

EP03 [ยื่นหนังสือหย่า]

เยี่ยนหลีหมดสติไปถึงสองวันสามคืน กว่าจะผ่านช่วงเวลาที่แสนยากลำบากนั้นมาได้ หากแต่ผู้ที่เป็นสามีกลับไม่เคยมาเหลียวแลนางเลยสักครั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ เยี่ยนหลีในตอนนี้จึงไม่คิดที่จะวางชีวิตใหม่ของนางนี้ไว้ในจวนอ๋องแปดแห่งนี้อีกต่อไป

สองขาก้าวเข้ามาในจวนยังไม่ทันจะเต็มวัน วิญญาณของผู้เป็นเจ้าของร่างก็ได้ละกายหยาบนี้หนีหายไปสุขสบายเสียแล้ว ทิ้งนางที่จู่ ๆ ก็โผล่มายึดครองร่างนี้อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดให้ต้องมานั่งปวดหัวในการรับมือจัดการกับชีวิตที่เหลืออยู่อย่างยากลำบาก

"ทูลท่านอ๋อง ยามนี้พระชายาทรงฟื้นขึ้นมาแล้ว ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะทรงเสด็จไปเยี่ยมเยือนพระชายาที่ตำหนักสักคราหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ" หัวหน้าองครักษ์นำเรื่องเข้ามารายงานอ๋องแปดในทันที เมื่อตนนั้นได้ทราบข่าวจากสาวใช้ในตำหนักของพระชายา

"ช่วงที่ข้าไม่อยู่นี้ นางได้ก่อเรื่องอันใดหรือไม่" ชายหนุ่มถามออกไปอย่างไร้เยื่อใยในน้ำเสียง แม้จะสงสารนางอยู่บ้าง หากแต่เป็นเพียงความสงสารอันน้อยนิดเพียงเท่านั้น เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมีสาเหตุมาจากความมักใหญ่ใฝ่สูงของตัวนางเองแทบทั้งสิ้น

"เอ่อ กระหม่อมเกรงว่า"

"เจ้าพูดมาตามตรง อย่าได้คิดที่จะปิดบังเราเป็นอันขาด"

"พระชายาไม่ทรงโวยวายอันใดเลยพ่ะย่ะค่ะ นอกเสียจาก..." องครักษ์นาม ลู่หาน ที่ตามติดอ๋องแปดมานานนั้นได้แต่สับสนในใจ ด้วยไม่รู้จะกราบทูลท่านอ๋องอย่างไรดีถึงสิ่งที่ผู้เป็นพระชายาฝากมา

"นอกเสียจากอะไร" เสวียนเยว่กล่าวย้ำเมื่อเห็นท่าทีที่แสนจะดูขัดใจของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะหมดความอดทนไปมากกว่านี้

"นอกเสียจากอยากจะขอเข้าพบท่านเป็นการส่วนตัว" องครักษ์ลู่หานนั้นได้กล่าวข้อความออกมาก่อนเพียงครึ่งหนึ่ง ด้วยว่าอีกครึ่งหนึ่งนั้นเขากำลังคิดเรียบเรียงถ้อยคำอยู่ภายในใจ ว่าควรที่จะกล่าวออกมาเช่นไรดี อ๋องแปดผู้นี้ถึงจะได้ไม่มีน้ำโหมากจนเกินไป

"ฮึ สุดท้ายก็มารยาสตรีสินะ ข้าไม่ว่าง และยิ่งไม่อยากที่จะพบหน้าสตรีที่หน้าหนาเช่นนาง" เสวียนเยว่กล่าวอย่างดูแคลนในตัวของหญิงสาวผู้ที่เพิ่งได้ครอบครองตำแหน่งพระชายาของเขาไปได้ไม่นาน

เขาไม่เคยพึงใจในสตรีนางใดมาก่อน และแม้จะไม่ได้พานพบกับผู้เป็นพระชายาเลยสักครั้ง แต่กระนั้นตัวเขาก็ได้วางนางไว้ในสถานะของสตรีที่ตนจะไม่มีวันข้องเกี่ยวด้วยเป็นอันขาดแล้ว

"พระชายาก็ทรงคิดเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นแล้วพระนางจึงได้ฝากจดหมายฉบับนี้มาถึงท่าน" เมื่อพูดจบสองมือก็ได้ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งออกมา แต่หากจะกล่าวว่าเป็นจดหมาย ก็ดูจะไม่ถูกต้องเท่าใดนัก เพราะนี่คือหนังสือหย่าที่ผู้เป็นชายาของเขานั้นได้ลงนามไว้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากหนังสือหย่าแล้ว เสวียนเยว่ก็พบว่ายังมีกระดาษอีกหนึ่งแผ่นที่ได้แนบมาด้วย ซึ่งกระดาษแผ่นนี้ได้ถูกเขียนด้วยลายมือเดียวกันกับหนังสือหย่าที่ได้มีการลงนามไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้อยคำในนั้นคือข้อความที่กล่าวขอโทษเขาสำหรับเรื่องที่นางได้ดึงดันที่จะแต่งเข้าจวนอ๋องของเขานั่นเอง

ในคราแรกเสวียนเยว่เปิดจดหมายออกมาดูด้วยความเกียจคร้านและไม่ใส่ใจที่จะอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในสักเท่าไร หากแต่เมื่อพบข้อเท็จจริงของเนื้อหาในจดหมายฉบับนี้แล้วนั้น กลับทำให้จิตใจของเขาแทบจะลุกไหม้เป็นไฟไปในทันที

แต่งก็เป็นตัวนางที่อยากแต่ง แล้วจู่ๆ จะมาขอหย่า? ช่างกล้าดีและถือดีมากเสียจริงๆ นางเห็นจวนอ๋องของข้าเป็นเพียงโรงเตี๊ยมชั้นต่ำหรืออย่างไร คิดอยากจะแต่งก็แค่ทูลขอสมรสพระราชทาน หากแต่เมื่อไม่พอใจขึ้นมาก็จะมาขอหย่าเช่นนี้

เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังถูกอีกฝ่ายคิดที่จะเล่นตลกเกี่ยวกับการแต่งงานในครั้งนี้ เสวียนเยว่ก็ยิ่งเกิดอาการไม่พอใจในตัวพระชายาของตนที่มีนามว่าเยี่ยนหลีนี้เข้าไปเป็นการใหญ่

"เจ้าจงนำคำของข้าไปบอกนาง ว่าถ้าหากร่างของนางนั้นยังไม่สิ้นไร้ซึ่งลมหายใจ ก็อย่าได้หวังว่าจะมีโอกาสก้าวขาออกไปจากจวนอ๋องของข้าเป็นอันขาด" เสวียนเยว่กล่าวจบก็ฉีกหนังสือหย่าฉบับนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี พร้อมด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นอยู่ภายในใจ

แม้จะไม่เต็มใจเรื่องที่บิดาของนางร้องขอสมรสพระราชทานในครั้งนี้ แต่ตัวเขาก็ได้แก้แค้นและเอาคืนนางอย่างสาสมแล้วด้วยการรับอนุเข้าจวนพร้อมกันกับนางถึงสามคน อีกทั้งยังมีพระชายารองอีกหนึ่ง เพียงเท่านี้ เสวียนเยว่ก็คิดว่าเป็นการเอาคืนที่นับได้ว่าเพียงพอและสมน้ำสมเนื้อกับการกระทำของนางแล้ว

แม้ไม่แต่งกับนางในวันนี้ สักวันเขาก็ต้องแต่งงานกับสตรีอื่นที่ฝ่าบาททรงสรรหามาให้อยู่ดี เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ตำแหน่งพระชายาของเขานั้น มอบให้นางเป็นผู้มาถือครองไว้ก็ไม่เป็นไร สิ่งใดที่ไม่เข้าตานับจากนี้ ตัวเขาก็แค่ต้องมองข้ามมันไปบ้างก็นับว่าสิ้นเรื่องแล้ว หากแต่ก่อนที่จะมองข้ามเรื่องราวต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น ครั้งนี้เขาขอหักหน้านางคืนบ้างสักครั้งจะเป็นไร ขอเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

เสวียนเยว่ ไม่ได้คิดที่จะถนอมน้ำใจพระชายาอย่างเยี่ยนหลีเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ ในคืนเข้าหอเขาจึงได้ทิ้งนางไว้เพียงลำพัง โดยที่เขาไม่ทันคาดคิดเลยว่าตัวนางจะน้อยใจและทำร้ายตนเองได้ถึงเพียงนั้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา

‘ช่างเป็นสตรีที่แสนโง่งมเหมือนดังเช่นข่าวลือที่เขาร่ำลือกันเสียจริงๆ’ เสวียนเยว่นึกถึงผู้เป็นพระชายาด้วยความรู้สึกที่ดูแคลนอย่างไม่ปิดบัง พร้อมทั้งยังนึกสงสัยว่านางต้องเป็นสตรีเช่นไรและเติบโตมาจากการเลี้ยงดูแบบไหนถึงได้หาญกล้าเอ่ยปากร้องขอการแต่งงานกับบุรุษเช่นนี้

เพียงแค่นึกถึงผู้เป็นพระชายาได้ไม่นาน เสวียนเยว่ก็แทบกุมขมับและพลันรู้สึกปวดหัวขึ้นมาแล้ว การแต่งงานในครั้งนี้จะนำพาความสุขสงบมาสู่จวนของเขาดั่งเช่นที่ฝ่าบาทกล่าวได้อย่างไร เสวียนเยว่ยังไม่วางใจเชื่ออีกทั้งยังนึกสงสัยจวบจนบัดนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel