บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

"มารดามันเถอะเรื่องอะไรข้าจะต้องบอกเจ้า"

ได้ยินคำสั่งของเยี่ยเฉินเฟิง ชายในชุดคลุมสีเทาก็ได้คำรามออกมา

"ข้าจะไม่พูดอีกเป็นครั้งที่สาม บอกข้ามาว่าภูเขาเทียนซานอยู่ที่ไหน"

จากนั้นเยี่ยเฉินเฟิงก็ได้ปลดปล่อยอำนาจกระบี่ที่ทรงพลังออกมา กระแทกร่างกายของชายในชุดคลุมสีเทาคนหนึ่งกระเด็นลอยไปไกล

"ภูเขาเทียนซาน"

เห็นพรรคพวกของตนเองถูกจัดการลงอย่างรวดเร็ว ชายในชุดคลุมสีเทาอีกคนได้กล่าวบอกตำแหน่งสถานที่ของภูเขาเทียนซาน

หลังจากรู้ที่ตั้งของภูเขาเทียนซานแล้ว เยี่ยเฉินเฟิงก็ทิ้งผลึกวิญญาณระดับต่ำหลายร้อยก้อนไว้และเดินออกจากเทียนเว่ยจวี เป้าหมายต่อไปของเขาก็คือภูเขาเทียนซาน

ภูเขาเทียนซานเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเป๋ยเสวี่ย

ยอดเขาสูงตระหง่านไร้ที่สิ้นสุด ส่วนที่เหลือก็สูงต่ำลดหลั่นกันไป บางลูกก็ยิ่งใหญ่ทรงพลัง บางลูกก็เขียวขจีมีพืชพรรณ บางลูกขาวโพลนไปด้วยหิมะ บางลูกก็คดเคี้ยวเหมือนมังกรขด

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติทั้งยังอัดแน่นไปด้วยพลังสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ ราวกับแดนเซียนก็มิปาน

ในส่วนลึกของภูเขาเทียนซานมีดอกไม้และหญ้าแปลกตานับไม่ถ้วน นอกจากนี้ยังมีสัตว์วิญญาณที่ดุร้ายจำนวนมาก ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปไม่กล้าที่จะเข้าไปยังส่วนลึกนี้

"ไม่คิดเลยว่านิกายอัคคีสวรรค์จะเลือกสถานที่ตั้งกองกำลังชั่วคราวไว้ตรงนี้ ดูแล้วน่าจะมียอดฝีมือจำนวนมากถูกส่งมาจากนิกายอัคคีสวรรค์

เยี่ยเฉินเฟิงที่บินอยู่เหนือท้องฟ้าได้มองเห็นพื้นที่ก่อสร้างที่สร้างขึ้นมาใหม่จำนวนมาก มันได้ปกคลุมเป็นวงกว้างครอบคลุมเชิงเขา

"ที่นี่คือค่ายกองกำลังชั่วคราวของนิกายอัคคีสวรรค์ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่มีสิทธิ์เข้าไป"

เยี่ยเฉินเฟิงได้ร่อนบินลงมาด้านล่างไม่ไกลจากค่ายกองกำลัง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินไปที่จุดทางเข้าของค่ายชั่วคราวและถูกศิษย์จากนิกายอัคคีสวรรค์สองคนสวมชุดขาวขวางทางและตะโกนห้าม

"ข้ามาที่นี่เพื่อรับรางวัล" เยี่ยเฉินเฟิงที่สวมใส่หน้ากากจักจั่นปลอมแปลงกล่าวอย่างเยือกเย็นและระเบิดพลังวิญญาณออกมา

"เซียนอสูรสวรรค์ระดับสอง”

เมื่อรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของเยี่ยเฉินเฟิง ใบหน้าที่เย็นชาของศิษย์จากนิกายอัคคีสวรรค์ทั้งสองคนได้ก็ผ่อนคลายลง อย่างมาก พวกเขาก็ไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของเยี่ยเฉินเฟิง

"เชิญท่านเข้าไปข้างใน"

เยี่ยเฉินเฟิงเดินเข้าไปในค่ายกองกำลังชั่วคราวและพบว่ามีอักขระปกคลุมเป็นระยะกว้างหลายสิบลี้ เมื่อกระตุ้นอักขระขึ้นม่านปราการพลังที่แข็งแกร่งก็จะปรากฏออกมา มันสามารถจัดการกับบรรพชนอสูรลี้ลับขั้นแรกได้

แม้ว่าค่ายกองกำลังชั่วคราวของนิกายอัคคีสวรรค์จะมีการป้องกันที่ดี แต่สมองกลืนเทวะของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ในจิตใจของเยี่ยเฉินเฟิงได้ปรากฏชิ้นส่วนวิญญาณข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่อักขระ ทำให้เขาเข้าใจมันและมองเห็นจุดอ่อนของอักขระนี้

จากนั้นเยี่ยเฉินเฟิงก็ใช้พลังของสมองกลืนเทวะลอบเข้าไป เพื่อหักล้างอักขระให้มันไม่มีผลกับเขา

ผ่านไปชั่วครึ่งก้านธูป เยี่ยเฉินเฟิงก็เดินมาถึงพื้นที่จัตุรัสว่างเปล่า เขาพบว่ามีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่และพลังของคนเหล่านี้อยู่ในระดับเซียนอสูรสวรรค์เป็นอย่างต่ำ

"มีเซียนอสูรสวรรค์มากมายมารวมตัวกันที่นี่!"

เยี่ยเฉินเฟิงมองเห็นเซียนอสูรสวรรค์หลายสิบคน มุมปากของเขาได้เผยรอยยิ้มแปลกๆ ออกมา เขาไม่คิดเลยว่ารางวัลค่าหัวของเขาที่ทางนิกายอัคคีสวรรค์ตั้งเอาไว้จะดึงดูดเซียนอสูรสวรรค์มากมายขนาดนี้

อย่างไรก็ตามเยี่ยเฉินเฟิงไม่ได้กังวล หากเขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายจริงๆ เขาสามารถบินหลบหนีออกจากที่นี่ด้วยปีกวิหคทองคำโบราณในทันที

"หืม? ข้าคิดว่ายอดฝีมือสามคนนั้นคงจะเป็นคนจากนิกายอัคคีสวรรค์"

เยี่ยเฉินเฟิงที่เดินผ่านพื้นที่จัตุรัสว่างเปล่าและเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่ เขาพบชายชราสามคนที่อยู่ภายในห้อง

ชายชราทั้งสามคนนั้นมีใบหน้าที่เย่อหยิ่งและโอหัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะต้องเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสจากนิกายอัคคีสวรรค์อย่างแน่นอน

แม้ว่าในห้องโถงนี้จะมีเซียนอสูรสวรรค์มากกว่าหนึ่งโหล แต่ทั้งสามคนกลับแข็งแกร่งที่สุดทั้งยังเป็นถึงเซียนอสูรสวรรค์ระดับห้า

เมื่อเยี่ยเฉินเฟิงเดินเข้าไปในห้องโถง เขาก็ได้รับความสนใจจากเซียนอสูรสวรรค์ที่อยู่ภายในห้องโถงทันที

"ข้ามีเบาะแสของเยี่ยเฉินเฟิง เช่นนั้นขาสามารถมารับรางวัลได้ใช่หรือไม่?” เยี่ยเฉินเฟิงจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสจากนิกายอัคคีสวรรค์ทั้งสองคน เขากล่าวถามเสียงแข็ง

"เจ้ามีเบาะแสของเยี่ยเฉินเฟิง?”

ชายในชุดคลุมไหมน้ำแข็ง เขาเป็นผู้อาวุโสจากตำหนักหยินหยาง เอกลักษณ์ของเขาก็คือรอยแผลเป็นที่มุมดวงตาข้างซ้าย เขาจ้องมองไปที่เยี่ยเฉินเฟิงด้วยสีหน้าที่เฉยชา

และผู้อาวุโสจากตำหนักหยินหยางคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือปู่ของโยวซานเสียน เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับหลานชายของเขา โยวเหวินยวนได้ส่งโยวหมิงจือไปหาตัวของเยี่ยเฉินเฟิงแต่ก็ถูกฆ่าตาย

"ใช่" เยี่ยเฉินเฟิงพยักหน้าตอบกลับ "แต่ก่อนที่ข้าจะให้เบาะแสข้าต้องการดูของรางวัลก่อน"

"สบายใจเถอะ ตราบใดที่เจ้ามีเบาะแสและให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องรางวัลจะเป็นของเจ้า" โยวเหวินยวนกล่าวอย่างเย็นชา

"ต้องขอโทษด้วย ข้าจะไม่ให้เบาะแสจนกว่าจะเห็นรางวัล" เยี่ยเฉินเฟิงสั่นศีรษะทันที

"ก็ได้ ข้าจะให้เจ้าเห็นรางวัลและข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ได้เล่นตุกติกอะไร ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจกับเจ้า"

โยวเหวินยวนกล่าวออกมา พริบตาเดียวถุงเอกภพสีทองก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของทั้งสอง

โยวเหวินยวนได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาเข้าไปในถุงเอกภพสีทอง และเผยให้เห็นผลึกวิญญาณระดับกลางอยู่ข้างในจำนวนมาก

"นี่คือผลึกวิญญาณระดับกลางหนึ่งหมื่นก้อน ตราบใดที่เบาะแสของเจ้าที่ให้พวกเรามานั้นเป็นของจริง ผลึกวิญญาณระดับกลางหนึ่งหมื่นก้อนนี้ก็จะเป็นของเจ้า"

"แต่ถ้าเบาะแสที่เจ้าให้มามันเป็นของปลอม ก็อย่ากล่าวโทษข้าที่จะหยาบคายต่อเจ้า" โยวเหวินยวนที่เห็นเยี่ยเฉินเฟิงเป็นเพียงเซียนอสูรสวรรค์ระดับสอง เขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

"ก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเยี่ยเฉินเฟิงก็อยู่ที่นี่แล้ว"

ทันทีที่เยี่ยเฉินเฟิงกล่าวออกมาอำนาจกระบี่ในร่างของเขาก็ปะทุออกมา พุ่งโจมตีใส่แขนของโยวเหวินยวนจนเขารู้สึกชาที่แขน

ภายใต้การโจมตีในครั้งนี้ ถุงเอกภพสีทองได้หลุดออกจากมือของโยวเหวินยวนและไปปรากฏขึ้นที่มือของเยี่ยเฉินเฟิง

"เจ้าคือเยี่ยเฉินเฟิง!"

โยวเหวินยวนและคนอื่นๆ ไม่คิดเลยว่าเยี่ยเฉินเฟิงจะกล้าหาญบุกมาหาพวกเขาถึงที่ อีกอย่างจะต้องรู้ว่าค่ายกองกำลังชั่วคราวที่จัดตั้งที่ภูเขาเทียนซานนั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับบุกมาที่นี่เพื่อปล้นของรางวัลอย่างไม่เกรงกลัว

"เจ้าเยี่ยเฉินเฟิงคนนี้มันบ้าอย่างแท้จริง"

หลายๆ คนเริ่มที่จะมีความคิดเหล่านี้

"เยี่ยเฉินเฟิงเจ้ากล้าฆ่าหลานชายของข้า ในเมื่อเจ้ามาที่นี่เช่นนั้นข้าจะเอาชีวิตของเจ้าไปซะ"

โยวเหวินยวนและผู้อาวุโสจากตำหนักหยินหยางอีกคนได้กรีดร้องออกมา พวกเขาได้รวมพลังเข้ากับจิตอสูรของตนเองและระเบิดความแข็งแกร่ง

การที่เยี่ยเฉินเฟิงกล้าฉกผลึกวิญญาณระดับกลางหนึ่งหมื่นก้อนจากพวกเขาต่อหน้าสาธารณชนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการสูญเสียหน้าเพียงเท่านั้น หากข่าวนี้แพร่งพรายออกไปนิกายอัคคีสวรรค์จะกลายเป็นตัวตลกในมณฑลเป๋ยเสวี่ยนี้ทันที

"ผสานจิตอสูรมังกรโลหิต"

เสียงคำรามของมังกรได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเยี่ยเฉินเฟิง มังกรเกล็ดสีแดงที่มีลําตัวยาวมากกว่าหนึ่งร้อยเมตรได้โผล่ออกมาจากร่างของเขาและคำรามออกมา

เสียงคำรามของมังกรโลหิตนั้นทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างรู้สึกหวาดกลัวจนถึงก้นบึงของจิตวิญญาณ

"จิตอสูรประเภทมังกรสารเลวน้อยนี่ครอบครองจิตอสูรประเภทมังกร"

เมื่อเห็นจิตอสูรประเภทมังกรของเยี่ยเฉินเฟิงทุกคนต่างก็ตกใจ เพราะว่าจิตอสูรที่แข็งแกร่งระดับนี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นในมณฑลเป๋ยเสวี่ยเป็นระยะเวลาหลายพันปี

"อำนาจกระบี่สมบูรณ์"

ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจเยี่ยเฉินเฟิงก็เรียกอาวุธปฐพีขั้นกลางกระบี่หยกมรกตของเขาออกมา อำนาจกระบี่สมบูรณ์ได้ถูกถ่ายเทลงไปที่กระบี่และพุ่งโจมตีใส่โยวเหวินยวน

โยวเหวินยวนสามารถตอบสนองได้ทัน อาวุธปฐพีขั้นต่ำได้ปรากฏขึ้นที่มือของเขา

"คลื่นหยินหยางทำลายล้าง"

เมื่อเห็นโยวเหวินยวนถูกเยี่ยเฉินเฟิงกดดันอยู่ ผู้อาวุโสจากตำหนักหยินหยางอีกคนก็ได้ใช้ทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่งของเขาพุ่งโจมตีเยี่ยเฉินเฟิงจากด้านข้าง

"กระบี่สังหารพริบตา"

อำนาจกระบี่สมบูรณ์ของเยี่ยเฉินเฟิงแข็งแกร่งมาก เมื่อรวมกับพลังเซียนอสูรสวรรค์ขั้นสองและพลังของจิตอสูรมังกรโลหิต พลังทำลายของมันก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น

เสียงปะทะระหว่างคลื่นหยินหยางทำลายล้างและกระบี่สังหารพริบตาได้สั่นสะเทือนพื้นที่แห่งนี้อย่างรุนแรง

ในช่วงเวลาสำคัญ กลิ่นอายอันเย็นเยือกได้ไหลผ่านทะลุกระบี่ของผู้อาวุโสจากตำหนักหยินหยางอีกคน ก่อนที่สายตาของเขาจะพร่ามัวและร่างของเขาก็ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน

โลหิตจำนวนมากได้กระจัดกระจายไปทั่วสถานที่แห่งนี้

"เยี่ยเฉินเฟิงสามารถสังหารผู้อาวุโสจากนิกายอัคคีสวรรค์ที่เป็นเซียนอสูรสวรรค์ระดับห้าได้"

เห็นฉากที่เกิดขึ้น ทุกคนในปัจจุบันก็ตกตะลึงทันที อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาที่เห็นเยี่ยเฉินเฟิงเป็นเพียงเซียนอสูรสวรรค์ระดับสอง กลับสามารถสังหารผู้อาวุโสจากนิกายอัคคีสวรรค์ที่เป็นเซียนอสูรสวรรค์ระดับห้าได้ มันได้เหนือขอบเขตความรู้ของพวกเขา

"สารเลว เจ้าพัฒนาฝีมือจนแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?”

มองเห็นฉากนองเลือดที่น่ากลัวโยวเหวินยวนก็สั่นเทาทันที

เยี่ยเฉินเฟิงสามารถฆ่าผู้อาวุโสจากตำหนักหยินหยางอีกคนได้ อีกฝ่ายก็ย่อมฆ่าเขาได้เหมือนกัน ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าผู้อาวุโสคนก่อนหน้านี้ไม่ได้ตกตายเพราะใครอื่น แต่เป็นฝีมือของเยี่ยเฉินเฟิง

"ท่านเจ้าตำหนักโยว ท่านเจ้าตำหนักกระบี่ ทำไมพวกเขาถึงยังไม่กลับมา?”

เมื่อเห็นพลังโจมตีที่น่ากลัวของเยี่ยเฉินเฟิงโยวเหวินยวนค่อนข้างกังวล

เนื่องจากไม่มีใครคิดว่าเยี่ยเฉินเฟิงจะอาจหาญกล้ามาปล้นพวกเขาถึงในภูเขาเทียนซาน ดังนั้นสองท่านเจ้าตำหนักจึงไม่อยู่พวกเขา แต่ออกเดินทางไปค้นหาเบาะแสของเยี่ยเฉินเฟิง

ในที่แห่งนี้เหลือเพียงยอดฝีมือจากนิกายอัคคีสวรรค์เพียงแปดคนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นกลับถูกฆ่าตายไปแล้ว

"ทุกคนฟังข้า ใครก็ตามที่สามารถสร้างบาดแผลให้เขาได้ข้ายินดีมอบผลึกวิญญาณระดับกลางสามหมื่นก้อนและถ้าสามารถฆ่าเขาได้ ข้าจะแจ้งเรื่องนี้ต่อนิกายอัคคีสวรรค์และตอบแทนคนผู้นั้นเป็นผลึกวิญญาณระดับกลางหนึ่งแสนก้อน”

เพื่อที่จะรับประกันความปลอดภัยของตัวเองโยวเหวินยวนกล่าวขึ้นเสียงดัง

แน่นอนว่ารางวัลที่เย้ายวนเช่นนี้จะต้องมีผู้กล้าหาญรับข้อเสนออย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกัน ผู้อาวุโสจากนิกายอัคคีสวรรค์อีกหกคนที่อยู่ที่นี่ พวกเขาได้กระจายกันไปปิดทางเข้าออกของห้องโถงเพื่อไม่เปิดโอกาสให้เยี่ยเฉินเฟิงหลบหนี

"จะเอาอย่างไรดี?”

ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้ปิดกั้นทางหนีของเยี่ยเฉินเฟิงไว้แล้ว ซึ่งทำให้ยอดฝีมือจำนวนมากเริ่มรู้สึกกังวลว่าจะร่วมวงต่อสู้ด้วยดีหรือไม่

"อย่าไปกลัวพวกเรามียอดฝีมือมากกว่า มันเพียงแค่คนเดียวจะไปต้านทานพวกเราได้อย่างไร"

ในเวลานี้ยอดฝีมือจากนิกายอัคคีสวรรค์ทั้งหกคนและโยวเหวินยวนได้จ้องมองไปที่เยี่ยเฉินเฟิงและกล่าวเตือนทุกคน

"อำนาจกระบี่สมบูรณ์!"

"อำนาจกระบี่สมบูรณ์!เจ้ากลับสามารถตระหนักได้ถึงอำนาจกระบี่สมบูรณ์"

เห็นพลังอำนาจกระบี่ที่รุนแรงปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเยี่ยเฉินเฟิงเซียน อสูรสวรรค์ระดับห้าคนอื่นๆ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

พวกเขาไม่กล้าคิดเลยว่าผู้เยาว์เช่นเยี่ยเฉินเฟิงจะสามารถตระหนักได้ถึงอำนาจกระบี่สมบูรณ์ที่ยอดฝีมือหลายคนไม่กล้าคิดกล้าฝันว่าจะไปถึง

ในเวลาต่อมาเยี่ยเฉินเฟิงก็ได้เก็บกระบี่หยกมรกตอาวุธปฐพีขั้นกลางของเขาลงไปในถุงเอกภพ จากนั้นเขาก็เรียกกระบี่สวรรค์จวี้เชวี่ยออกมา

"กลิ่นอายพลังแบบนี้หรือว่าจะเป็นอาวุธระดับสวรรค์"

กลิ่นอายพลังของกระบี่สวรรค์จวี้เชวี่ยทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์

แม้ว่ารางวัลของนิกายอัคคีสวรรค์จะล่อตาล่อใจพวกเขา แต่มันก็ยังไม่มีค่าเทียบเท่ากับอาวุธระดับสวรรค์

"เร็วเข้าร่วมมือกันฆ่ามันให้ได้" โยวเหวินยวนตะโกนขึ้นเสียงดัง เขาได้กล่าวเตือนทุกคนให้ร่วมด้วยช่วยกันฆ่าเยี่ยเฉินเฟิง

คราวนี้ภายใต้การล่อลวงของหุ่นเชิดหุ่นเชิดวิญญาณกระบี่ระดับสวรรค์ ทำให้ยอดฝีมือจำนวนมากไม่ลังเลเลยที่จะหยิบอาวุธวิญญาณของพวกเขาออกมา

พวกเขาต้องการฆ่าเยี่ยเฉินเฟิงเพื่อยึดครองหุ่นเชิดหุ่นเชิดวิญญาณกระบี่ระดับสวรรค์มาไว้ในกำมือ

"ในเมื่อพวกเจ้าแส่หาเรื่องตายข้าก็จะไม่ละเว้น"

เห็นคนอื่นๆ เพ่งเป้ามาที่เขาเยี่ยเฉินเฟิงได้ใช้เคลื่อนย้ายเงาพรายเพื่อหลบหลีกการโจมตีเหล่านั้น

หลังจากที่เขาพัฒนาสมองกลืนเทวะไป ความเข้าใจในทักษะของเยี่ยเฉินเฟิงก็เพิ่มขึ้นสูงมาก เคลื่อนย้ายเงาพรายตอนนี้เขาได้ฝึกฝนมันจนถึงระดับสูงสุด ในพริบตาเดียวเงาร่างเก้าเงาก็ช่วยส่งเสริมความเร็วของเขามากกว่าเก้าเท่า

เยี่ยเฉินเฟิงเหมือนปลาที่แหวกว่ายไปในน้ำ ความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวของเขาสามารถหลบหลีกการโจมตีของทุกคน

จากนั้นพลังกลิ่นอายที่รุนแรงของกระบี่สวรรค์ จวี้เชวี่ยก็พุ่งกระจัดกระจายออกไปรอบพื้นที่

"ตายซะ!"

เยี่ยเฉินเฟิงได้มุ่งการโจมตีไปยังเซียนอสูรสวรรค์สองคนที่อยู่เพียงระดับสี่ เขาต้องการสังหารคนเหล่านี้ก่อนเป็นอันดับแรก

"ขวั่บ!"

เสียงกรีดร้องโหยหวนสองเส้นสายได้ดังขึ้น ศีรษะของเซียนอสูรสวรรค์ระดับสี่สองคนถูกปั่นจนหลุดออกมา โลหิตจำนวนมากได้ฉีดพุ่งราวกับน้ำพุ

จากนั้นเยี่ยเฉินเฟิงก็เคลื่อนไหวโดยใช้กระบี่สวรรค์จูเสวียอีกครั้ง เขาได้รวมมันเข้ากับอำนาจกระบี่สมบูรณ์เพื่อจัดการเซียนอสูรสวรรค์ระดับสี่อีกสองคน

ยอดฝีมือทั้งสองคนนั้นได้ยกอาวุธวิญญาณของพวกเขาขึ้นมาป้องกันการโจมตี แต่ทว่าพวกเขากลับไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้พริบตาเดียวร่างของพวกเขาก็ถูกฟันเข้าตรงๆ โดยไม่มีโอกาสได้หลบหลึก

หลังจากที่เยี่ยเฉินเฟิงได้ฆ่ายอดฝีมือไปถึงสี่คนเขาก็ถูกการโจมของผู้อาวุโสจากนิกายอัคคีสวรรค์สองคน ทำให้มุมปากของเขาปรากฎหยาดโลหิตจำนวนมากออกมา

เยี่ยเฉินเฟิงได้เพิกเฉยอาการบาดเจ็บของเขาและระเบิดพละกำลังร่างกายที่ทรงพลัง พละกำลังมากกว่าสองแสนจินได้ถูกถ่ายเทไปที่มือซ้ายของเขา

"ฝ่ามือทลายเมฆา!"

พลังกลิ่นอายที่รุนแรงได้พุ่งไปยังกลุ่มเซียนอสูรสวรรค์ระดับห้าที่อยู่เบื้องหน้าของเขา

เมื่อถูกการโจมตีจากพลังฝ่ามือทลายเมฆาของเยี่ยเฉินเฟิง

เซียนอสูรสวรรค์ระดับห้าได้ใช้ทุกอย่างที่เขามีต้านทานการโจมตีทันที

แต่ว่าฝ่ามือทลายเมฆาที่อัดแน่นไปด้วยพละกำลังทางกายภาพของเยี่ยเฉินเฟิงทั้งหมด แม้จะเป็นเซียนอสูรสวรรค์ระดับห้าร่างกายของพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขาได้ถูกบดทำลายลงอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel