บทที่ 2
พรฟ้าเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย รักเรียนและก็ไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทาง จากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาอย่างสวยงาม ทั้งรูปร่างและนิสัยที่ใครอยู่ด้วยก็ต้องเอ็นดู ปีนี้เธออายุสามสิบเข้าไปแล้วในขณะที่พรฟ้าพึ่งจะยี่สิบเอ็ด
เมื่อเตรียมน้ำอุ่นเรียบร้อยพรฟ้าก็เดินกลับมาบอกให้ชนิตาที่รออยู่รู้
“ไปนอนเถอะ ที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับ ก่อนจะกลับไปเก็บหนังสือเรียนใส่แฟ้มให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้แล้วคว้าที่นอนปิคนิคพร้อมหมอนที่ผ้าห่มออกมาปูนอนข้างเตียงของชนิตา ซึ่งพรฟ้าทำแบบนี้มาตลอดหลายปี
“อ้อ...เบล ฉันรู้สึกเจ็บคออยากได้น้ำอุ่น เธอช่วยลงไปเอามาให้หน่อยน่ะจ้ะ”
“ได้ค่ะ” พยักหน้ารับเสร็จพรฟ้าก็ออกไปจากห้องนอนของชนิตาอย่างไม่รีรอ ในขณะที่ชนิตาก็เข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
แต่เพราะทางผ่านไปยังบันไดต้องเดินผ่านห้องนอนของอธิศ นั่นทำให้ชนิตาค่อยๆ เดินเพราะกลัวเสียงเดินของเธอจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนของชายหนุ่มเข้า ทว่าจังหวะที่ชนิตากำลังเดินผ่าน จู่ๆ ประตูห้องของชายหนุ่มก็ถูกเปิดออก และนั่นก็ทำให้พรฟ้าหยุดกึกอยู่กับที่ทันที
ภาพของคนสนิทภรรยาที่ชื่อว่าพรฟ้า ซึ่งจู่ๆ ก็หยุดเดินและยังยืนแข็งทื่อเป็นหุ่นตรงหน้าในตอนนี้ สร้างความสงสัยให้อธิศว่าเขานั้นทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมเด็กสาวถึงได้ดูตกใจกลัวได้ถึงเพียงนั้น นั่นทำให้อธิศก้มสำรวจตัวเอง เสื้อผ้าเขาก็อยู่ครบทุกชิ้น ไม่มีอะไรผิดปกติสักนิด
จะว่าไปนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรฟ้ามีปฏิกิริยาเช่นในตอนนี้ เพราะทุกครั้งที่เขากับเธอบังเอิญเจอกัน พรฟ้ามักจะทำตัวไม่ถูก ลุกลี้ลุกลนแปลกๆ พยายามหลบหน้าหลบตาไปเสียทุกครั้ง ทั้งๆ ที่เธอน่าจะชินได้แล้ว เพราะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็หลายเดือน
“คุณอธิศจะไปไหนหรือคะ” พรฟ้ารวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามขึ้น เพื่อเปลี่ยนความสถานการณ์ที่แสนอึดอัดจากความประหม่าให้ผ่อนคลายลง เพราะถ้าจะให้เดินหนีไปเสียเฉยๆ ก็คงเสียมารยาท
เธอไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมทุกครั้งที่เจออธิศใจถึงสั่นจนเธอควบคุมไม่ได้ รวมทั้งไม่กล้าสบตาไม่กล้าคุยกับชายหนุ่ม เลือกที่จะหลบมากกว่าเข้าใกล้ แต่มันก็มีอะไรที่ย้อนแย้งในความคิดเกิดขึ้น เพราะนี่คือความอึดอัดที่เธอนั้นอยากให้เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งพรฟ้าเองก็ไม่เข้าใจความคิดของตัวเองเช่นเดียวกัน
“ลืมเอกสารไว้ที่รถ ว่าจะลงไปเอา” เสียงทุ้มเอ่ยบอก
“เอ่อค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับเพียงเท่านี้ ในขณะที่อธิศยังคงยืนรอว่าเธอจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ทว่ากลับไม่มีชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นเสียเอง
“แล้วนั่นเธอจะไปไหน
“คุณตาอยากได้น้ำอุ่นน่ะค่ะ เบลเลยจะลงไปเอาในครัวให้”
“อย่างนั้นเหรอ”
“งั้นเบลขอตัวก่อนนะคะ”
“อืม” เสียงทุ้มเอ่ยรับอีกครั้ง ส่วนพรฟ้าก็รีบเดินจ้ำลงไปชั้นล่างทันที ชายหนุ่มจงใจทิ้งระยะห่างกระทั่งเห็นว่าเธอเดินลงไปถึงชั้นล่างแล้วจึงก้าวตามลงมา โดยจุดหมายของเขาคือรถที่จอดอยู่ในขณะที่ของพรฟ้าคือห้องครัว
เพราะความเป็นห่วงอยากให้ชนิตาดื่มน้ำอุ่นตลอดคืน นั่นทำให้พรฟ้าชะเง้อชะแง้มองหากระบอกน้ำเก็บอุณภูมิที่เธอเคยเห็นผ่านตาแวบๆ ว่าน่าจะเก็บไว้บนชั้นเก็บของในห้องครัว
“เจอแล้ว” พรฟ้าอุทานออกมาอย่างดีใจที่หากระบอกน้ำเก็บอุณภูมิเจอ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจะได้เปิดบานปิดชั้นเก็บของที่เป็นกระจกออก จากนั้นจึงเอื้อมมือไปคว้าสิ่งที่ต้องการแต่เธอก็สุดจะเอื้อมถึง เพราะพยายามเท่าไหร่สุดท้ายก็คว้าไม่ได้เสียที
พรฟ้าเริ่มหงุดหงิด คิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน พร้อมยืนเท้าสะเอวมองไปยังกระบอกน้ำเก็บอุณภูมิ ก่อนจะขอลองอีกครั้ง หากครั้งนี้ไม่ได้เธอค่อยเดินไปลากเก้าอี้มาวางเพื่อเพิ่มความสูงให้ตัวเอง
แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร จู่ๆ พรฟ้ากลับรู้สึกอุ่นขึ้นจากด้านหลัง กลิ่นกายแบบนี้คงมีเขาเพียงแค่คนเดียวไม่ผิดแน่ และเมื่อมั่นใจว่าใครยืนซ้อนหลังอยู่ในเวลานี้พรฟ้าก็ถึงกับตัวสั่นเพราะความประหม่า ลมหายใจอุ่นๆ ของอธิศทำให้ขนเส้นเล็กๆ บนกายสาวอย่างพรฟ้าตั้งชันอย่างพร้อมเพรียง รวมถึงหัวใจก็ยังคงเต้นโครมครามจนกลัวว่าเขานั้นจะได้ยิน
อธิศนั้นสูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็นติเมตร ชายหนุ่มจึงสามารถเอื้อมมือไปคว้ากระบอกน้ำเก็บอุณภูมิได้อย่างง่ายดาย จากนั้นจึงส่งมันให้พรฟ้า
“จะเอาอันนี้เหรอ” น้ำเสียงของอธิศนั้นช่างอ่อนโยน เมื่อครู่เขาผ่านมาเห็นจังหวะที่พรฟ้ากำลังเอื้อมมือไปคว้ากระบอกน้ำเก็บอุณภูมิ ทำอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จเสียทีจึงเดินเข้ามาช่วยหยิบให้
“ค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับด้วยใบหน้าอันแกงก่ำ ก่อนจะรีบรับกระบอกน้ำเก็บอุณภูมิมาจากอธิศพร้อมกับขยับออกให้ห่างจากชายหนุ่มพร้อมก้มหน้ามองต่ำตลอดเวลา เพราะขืนสบตาเขาตอนนี้อธิศคงมองออกว่าเธอกำลังเขินชายหนุ่ม
“ขอบคุณค่ะ” เพราะมัวแต่ตกใจนั่นทำให้พรฟ้าเอ่ยขอบคุณอธิศช้าไปนิดหน่อย
“ไม่เป็นไร”
“ขะ...คุณอธิศได้เอกสารแล้วเหรอคะ”
“ได้แล้ว” อธิศชูเอกสารที่อยู่ในมือขึ้นให้พรฟ้าดู แต่ดูเหมือนเธอจะเอาแต่มองพื้นมากกว่ามองมาที่เขา ถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนี้พรฟ้าก็คงคอก้มจนเคล็ดเสียเปล่าๆ นั่นทำให้ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“ฉันไปล่ะ” เอ่ยจบชายหนุ่มก็เดินกลับออกไปจากห้องครัว ซึ่งทันทีที่เขาเดินห่างออกไปพรฟ้าก็ถึงกับเป่าลมหายใจออกปากหนักๆ พร้อมยกมือขึ้นจับหัวใจของตัวเองที่เต้นโครมคราม
“เต้นเป็นปกติได้แล้ว” พรฟ้าบอกตัวเอง ก่อนจะดึงสติแล้วเตรียมน้ำอุ่นให้ชนิตา จากนั้นจึงกลับขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชนิตาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“น้ำอุ่นค่ะคุณตา”
“ขอบใจมากจ้ะ แล้วนี่ไปเอากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิมาจากไหน” ชนิตาเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เบลเห็นมันเก็บไว้ในตู้นะคะ เลยเอามาใช้ก่อน”
“จ้ะ” ชนิตาเอ่ยรับ ก่อนจะดื่มน้ำอุ่นๆ จากกระบอกน้ำเก็บอุณภูมิที่พรฟ้าเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็บำรุงใบหน้าด้วยสกินแคร์ตัวโปรด ในขณะที่พรฟ้าเข้ามาเป่าผมให้กระทั่งแห้งดีแล้ว จึงส่งยิ้มให้
“ขอบใจที่ดูแลฉัน”
