พยศรักสามีคืนเดียว

45.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
29
บท
9.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘คืนปาร์ตี้สละโสดแต่เธอกลับเมาจนพลาดไปเสียเวอร์จิ้น ให้ผู้ชายแปลกหน้า ที่มารู้ภายหลังว่าเขาคือน้องชายฝาแฝดของว่าที่สามี’

นิยายรักโรแมนติกประธานพระเอกเก่งแต่งงานก่อนรักจีบเมียเก่ารักหวานๆ

บทที่ 1

ปาร์ตี้สละโสดของว่าที่เจ้าสาวที่ชื่อว่าภูวษา กำลังเกิดขึ้นในรีสอร์ตริมทะเลแห่งหนึ่ง โดยแขกในงานล้วนแต่เป็นผู้หญิงและทุกคนต่างได้ชื่อว่าเพื่อนของเธอทั้งนั้น รวมถึงเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ก็ด้วย

งานนี้ทุกคนพร้อมใจกันจัดขึ้นเพื่อทิ้งทวนความเป็นนางสาวไปสู่คำว่านางอย่างเต็มรูปแบบของภูวษา ซึ่งอีกแค่สองเดือนนิดๆ เธอก็จะเข้าสู่ประตูวิวาห์กับคนรักที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก

ภายในปาร์ตี้ที่กว่าจะหาเวลาลงตัว เพราะเพื่อนๆ แต่ละคนมีงานต้องรับผิดชอบกันทั้งนั้น เมื่อได้รวมตัวกันแบบนี้จึงเต็มไปด้วยความสนุกที่เรียกว่าสุดเหวี่ยงคงไม่ผิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดเต็มแทบทุกชนิดก็ว่าได้ บรรดาเพื่อนๆ ต่างผลัดกันจับไมค์เล่าวีรกรรมความแสบซ่าของภูวษาไล่มาตั้งสมัยเป็นนักเรียนจนถึงนิสิตในรั้วมหาวิทยาลัยกันอย่างครื้นเครง ก่อนจะตบท้ายด้วยเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ

“ต้องปิดตาด้วยเหรอ”

“ต้องสิ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น” ราตรีเพื่อนสนิทของภูวษาเอ่ยบอก แล้วจัดการปิดตาของว่าที่เจ้าสาวด้วยผ้าปิดตาสีชมพูหวานที่เตรียมมา จากนั้นก็หมุนเพื่อนไปมาสองสามรอบจนภูวษารู้สึกมึนจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงไหนภายในห้องจัดเลี้ยง

ภูวษาส่ายหัวไปมาสองสามครั้ง ก่อนที่จะมีมือของใครสักคนยื่นมาถอดผ้าปิดตาออกให้และสิ่งที่เห็นตรงหน้าตอนนี้ก็ทำเอาภูวษาอ้าปากค้าง ในขณะที่เพื่อนๆ ต่างพากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดออกมาอย่างชอบใจไม่เว้นแม้แต่ราตรีเองก็ร่วมแจมด้วย

“เซอร์ไพรส์” ทุกๆ คนในปาร์ตี้พูดออกมาพร้อมกันและนั่นเหมือนสัญญาณให้ชายหนุ่มตรงหน้าที่ใส่หน้ากากสีดำปกปิดใบหน้าไว้เริ่มถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกแล้วโยนทิ้งด้วยท่าทางดุดัน เป็นการเต้นเปลื้องผ้าที่น่าดูที่สุดในเวลานี้

นั่นยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวๆ ในงานจนดังกระหึ่ม เพราะคนหล่อต่อให้ใส่หน้ากากปิดหน้าก็ยังมองออกว่าเขานั้นหล่อ แถมคนหล่อคนนี้ยังมีรูปร่างสวยๆ ซิกแพคแน่นๆ ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก

เมื่อเขาถอดเสื้อเสร็จก็เริ่มเต้นยั่วว่าที่เจ้าสาวอย่างภูวษาที่ตอนนี้เธอออกอาการเขินอย่างเห็นได้ชัด และท่าทางเขินอายของเธอในตอนนี้ก็ยิ่งทำให้ผู้ชายตรงหน้าเข้าใกล้มากขึ้น มากจนต่างคนต่างรับรู้และสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกันได้ ภูวษาหน้าตาตื่นก่อนจะหลับตาแน่นเมื่อชายตรงหน้าโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เธอจนขนลุกซู่

“สู้หน่อยสิว่าที่เจ้าสาว อย่ายอมแพ้” บรรดาเพื่อนๆ ต่างบิ้วให้ภูวษาสู้กลับไปบ้าง แต่ทว่าเธอกลับอายเกินจะทำตาม ส่วนราตรีที่ดื่มเหล้ามาหลายแก้วจนมึนก็เข้าไปกระซิบชายหนุ่มคนนั้นว่าให้รุกกว่านี้อีกนิด

เมื่อคำสั่งบอกให้รุกเขาก็ต้องรุกให้สมกับเงินค่าตัว แล้วค่อยๆ ขยับเท้าเข้าใกล้ลูกค้าคนสวยของเขา ส่วนภูวษาก็ถอยห่างจนเท้าสะดุดเข้ากับโซฟาตัวยาวนั่นทำให้เธอเสียหลักลงไปนั่ง ก่อนที่จะได้พูดอะไรผู้ชายกึ่งเปลือยตรงหน้าก็คว้ามือของเธอไว้แล้วดึงขึ้นไปลูบไล้ร่างกายของเขา

มือบางเย็นเฉียบบ่งบอกว่าเธอกำลังประหม่า สีหน้าและแววตายังคงดูตื่นๆ ราวกับลูกกวางน้อย

“กรี๊ดดด” เสียงกรี๊ดจากบรรดาเพื่อนๆ ภายในงานยังคงดังขึ้น ในขณะที่ภูวษายังคงเงียบสวนทางกับหัวใจที่เต้นโคมครามด้วยจังหวะที่ผิดปกติ

เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดแต่ก็เลิกสนใจไม่ได้เช่นนี้มาก่อน แม้กำลังจะใกล้แต่งงานแต่เธอยังไม่เคยได้จูบแรกจากว่าที่เจ้าบ่าวเลยด้วยซ้ำ ภูวษายกมือขึ้นปิกปากตัวเองเมื่อชายตรงหน้าโน้มใบหน้ามาใกล้มาก มากเสียจนกลัวว่าเขาจะขโมยจูบจากเธอไป

แต่ทว่าเขากลับไม่ได้ทำอย่างที่ภูวษากลัว เพราะเมื่อใกล้พอชายตรงหน้าก็หยุดแล้วขยับออกห่าง จากนั้นก็ลงไปนั่งคุกเข่าแล้วจับขาทั้งสองข้างของภูวษาให้แยกออกจากกันพร้อมกับเริ่มขยับส่ายสะโพกไปมาแถวๆ หน้าขาของเธออย่างยั่วยวน

ว่าที่เจ้าสาวถึงกับหน้าเหวอเพราะไม่คิดว่าท่าทางมันจะล่อแหลมขนาดนี้ เรียกได้ว่าล่อแหลมที่สุดในชีวิตก็คงไม่ผิด ชายตรงหน้าคว้ากุหลาบในแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะออกมาคาบแล้วส่งมันให้ภูวษาคาบต่อ ซึ่งแรงเชียร์จากบรรดาเพื่อนๆ ก็ทำให้เธอนั้นทำตาม และเมื่อเธอได้กุหลาบดอกนั้นมาชายตรงหน้าก็หยุดแล้วขยับออกห่าง นั่นเพราะการแสดงของเขาได้จบลงแล้ว

เสียงพลุกระดาษดังขึ้นปุงๆ ปังๆ ตามด้วยของขวัญพิเศษอีกชิ้นที่ราตรียื่นมาให้ มันคือหมอนข้างรูปน้องเห็ดที่มองแล้วช่างคล้ายกับส่วนนั้นของเพศชายเหลือเกิน

“ว่าที่เจ้าสาวหน้าแดงเชียว” เสียงของเพื่อนคนหนึ่งแซวขึ้น ภูวษาตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อดึงสติ ส่วนชายคนนั้นก็อาศัยจังหวะชุลมุนปลีกตัวออกไปจากงานปาร์ตี้ทันที

“พวกแกอย่าเล่นกันแบบนี้อีกนะ ฉันหัวใจจะวาย”

“แล้วไม่ชอบหรือจ๊ะ หนุ่มหล่อกล้ามแน่น เต้นยั่วได้สิบคะแนนเต็ม”

“ใครจะชอบเล่า” ภูวษาตอบอ้อมๆ แอ้มๆ เพราะเขินเกินจะพูดออกมานั่นเอง แม้ตอนนี้โชว์จะจบลงไปแล้ว แต่บรรยากาศในงานปาร์ตี้ก็ยังคงสนุกสนาน ร้องเล่นดื่มกินอย่างไม่สนจำนวนแอลกอฮอล์ที่ถูกเติมเข้าไปในเลือดแม้แต่น้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือว่าที่เจ้าสาวอย่างภูวษา

ปกติเธอดื่มเหล้าได้บ้างแต่วันนี้ดูจะดื่มมากเป็นพิเศษ นั่นเพราะนี่คือปาร์ตี้สุดพิเศษที่เพื่อนๆ จัดขึ้นในเธอนั่นเอง ปาร์ตี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งใกล้เที่ยงคืนก็จบลง ทุกคนแยกย้ายกลับห้องพักของตัวเองแต่ก็มีบางคนที่เมาหนักถึงขนาดกลับห้องตัวเองไม่ได้ บรรดาเพื่อนๆ จึงต้องหิ้วปีกไปส่ง

“แกรอตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันไปส่งยายแอนที่ห้องก่อน”

“โอเค” ภูวษายกมือขึ้นบอกราตรีไปว่าโอเค ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเธอไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ เพราะเมาจนสติกำลังจะหลุดแล้วนั่นเอง

“รอตรงนี้นะแก ห้ามไปไหนเด็ดขาด” ราตรีย้ำอีกครั้ง เพราะกลัวคนเมาเดินลงทะเล

“รู้แล้วน่า” ว่าที่เจ้าสาวพยักหน้ารับสองสามครั้งแล้วหลับตาลงเพื่อไม่ให้ตัวเองมึนหัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนราตรีก็รีบพาเพื่อนอีกคนไปส่งที่ห้องด้วยความทุลักทุเล

“ขอโทษนะครับ”

“คะ” ภูวษาขานรับอย่างงงๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมอง พอเห็นว่าผู้ชายตรงหน้าอยู่ใกล้กว่าที่คิดก็สะดุ้งแล้วขยับหนี ท่าทางตื่นๆ ของเธอนั้นยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเข้าใกล้

“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”

“ไม่มีค่ะ”

“ผมว่าคุณเมามากแล้ว ไปพักที่ห้องผมก่อนดีไหมครับ” ชายตรงหน้าเอ่ยเชิญอย่างมีไมตรีจิต แต่ภูวษากลับรู้ถึงไม่ปลอดภัย

“ไม่เป็นไร ฉันกำลังรอเพื่อนมารับ” ขณะปฏิเสธภูวษาก็ขยับหนีทว่าผู้ชายคนนั้นก็ตามมาประชิด

“ไปพักที่ห้องผมก่อนก็ได้ อยู่ใกล้แค่นี้เอง”

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ไป” ภูวษาเริ่มโมโหเพราะถูกชายแปลกหน้าเซ้าซี้ไม่เลิกรา ในขณะที่ชายหนุ่มตรงหน้าก็คือนักเต้นเปลื้องผ้าคนนั้นนั่นเอง แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ใส่หน้ากากจึงไม่มีใครจำได้

เมื่องานจบเขาไม่ได้ไปไหนไกลแต่นั่งจิบเหล้ามองว่าที่เจ้าสาวที่รู้ภายหลังว่าเธอชื่อภูวษา เพราะคิดอยากทำเรื่องสนุกๆ กับเธอ ซึ่งว่าที่เจ้าสาวบางคนก็มีเซ็กซ์กับเขาเพื่อส่งท้ายปาร์ตี้สละโสดอย่างสุดเหวี่ยง หวังว่าภูวษาจะเป็นหนึ่งในนั้น