บท
ตั้งค่า

บทที่3.ดิ้นหนีสุดฤทธิ์..

เธอร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขากระตุกชายผ้าเช็ดตัวที่เกาะเกี่ยวสะโพกสอบของเขาเอาไว้ และตวัดมันขึ้นพาดบ่าปล่อยให้ร่างกายช่วงล่างเปลือย!! อวดบั้นท้ายตึงแน่นและปลีขาเรียวยาวแข็งแรงให้เธอเห็นเต็มสองตา ทิชากรยกสองมือปิดหน้าแน่นๆ รอยแยกระหว่างนิ้วทำให้เธอเห็นประติมากรรมสง่างาม ใครว่ารูปปั้นเดวิดที่ตั้งอยู่ในกรุงฟลอเรนซ์ งดงามที่สุดนั้น!! ทิชากรขอเถียงในเวลานี้มีอีกหนึ่งบุรุษที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับรูปปั้นหินอ่อนที่ยืนตระหง่านอวดสรีระของร่างกายที่กำยำและแข็งแกร่งทรงพลัง เคลวิน โดม!! บุรุษที่เธออยากยกให้เขาเป็นหนึ่งในหนุ่มรูปงาม บั้นท้ายตึงตัวขยับส่ายไหวเมื่อ เขาเดินย้ายก้นพาตัวออกไปไกลๆ ที่เธอซ่อนตัวอยู่ เสียดาย! อ้ายยย!&#@ เธอคิดอะไรอยู่นี่ถึงไปเสียดายที่ไม่ได้ยลโฉมส่วนหน้ าเพราะเขาเดินหันหลังให้กับเธอ...

“อี๋!! ตาบ้า นึกว่ารูปร่างดีเพอร์เฟคไง ถึงได้เดินแก้ผ้าอวด ใคร? เขาอยากดูกันเล่า”

ทิชากรบ่นอุบแต่เธอก็ไม่สามารถชักสายตากลับมาได้ ดวงตากลมโตแอบมองผ่านง่ามนิ้วและมองตามจนชายหนุ่มหายลับไปหลังฉากกั้นห้อง...

เคลวินอารมณ์ดี เขาผิวปากเป็นเพลงจังหวะสนุกๆ เมื่อได้แกล้งยัยนั่นไปบ้างแล้วบางส่วน อยากหันกลับไปมองว่าเธอจะมีสีหน้าแบบไหน แต่อุตส่าห์อดใจไว้ และคาดเดาเอาเองในใจ ชายหนุ่มสวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวสวมชุดคลุมไว้บนตัวแค่นั้น เวลาล่วงเลยจนดึก ร่างกายประท้วงอยากพักผ่อนบนเตียง หากมีตุ๊กตาดิ้นได้อยู่บนนั้นด้วยก็จะเป็นการดี...

“เธอเอาเสื้อใครมาใส่?”

ชายหนุ่มหรี่เปลือกตาลง เขามองร่างเล็กๆ ที่ขดตัวซุกอยู่ข้างตู้ด้วยสายตามเอือมระอา

“ไม่รู้สิคะ ก็เห็นอยู่ในตู้นี่”

เสียงเรียบกริบตอบ หน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ แหมๆ ขยันโชว์เสียจริงคนบ้า รู้หรอกน่าว่าหุ่นดี แผงอกเป็นมัดๆ นั่นก็น่าลูบไล้และน่าสัมผัสเสียจริงๆ ทำมาเป็นยั่วเธอไม่หลงกลหรอกน่า โธ่!! ก็แค่ล่ำ กล้ามอกตึงเปรี๊ยะ อกแน่นๆ แขนใหญ่ๆ ตัวสูงๆ ตาสวยๆ อ้ายยๆ ...พอๆ เลยยัยบ้า!! จะไปชื่นชมเขาทำไม เขาจับตัวเธอมานะและเขาหวังอะไรก็ไม่รู้ คนธรรมดาแบบเธอจะเอาอะไรไปสู้กับมาเฟียใหญ่ แถม ‘โรม’ เป็นถิ่นเขาด้วย เธอจะหาทางหนีไปจากวิลล่าแห่งนี้ยังไงยังมองไม่เห็นทางเลย...

“เธอคิดว่า...เธอจะหาทางรอดจากฉันยังไงหึ!! ถ้ายังซ่อนตัวเหมือนหนูในท่ออาศัยอยู่ตามซอกตามมุมบ้าน”

ชายหนุ่มพูดเหยียดๆ เขามองก้อนกลมๆ ที่ซุกนิ่งอยู่ตรงซอกข้างโซฟาตัวใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่า ผีห่าซาตานอะไรเข้าสิงเขากัน ถึงทำให้เขาพบเจอกับยัยตัวยุ่งที่น่ารำคาญคนนี้กันนะ

“มันเรื่องของฉัน... ฉันสบายใจที่จะอยู่ตรงนี้ อย่ามายุ่งกับฉันเลย ปล่อยฉันไปเถอะ!!”

“ไม่มีใครเคยสอนเธอเลยเหรอ การขอร้องคนอื่นน่ะ เขาต้องใช้น้ำเสียงแบบไหน คนที่เป็นต่อเขาถึงจะยอมอ่อนให้”

เสียงเรียบเย็นพูดช้าๆ ชัดๆ แต่ทิชากรรู้ดีว่ามันเป็นหลุมพรางที่เต็มไปด้วยอันตราย ชิ!! เป็นต่อ ใช่ซีเขายิ่งกว่าเป็นต่อเสียอีก เขากุมชะตาชีวิตเธอด้วยซ้ำไป

“ฉันรู้...รู้ว่าต้องร้องขอความเมตตาจากคุณ แต่...”

“แต่...แต่อะไร หรือว่าเธอจะเสนออะไรใหม่ๆ เป็นตัวเลือกให้ฉันพิจารณาเพิ่มล่ะ ฉันอาจจะใจดีปล่อยเธอเป็นอิสระก็ได้”

เคลวินวางเหยื่อล่อ เขายิ้มสมใจ เมื่อหนูตกท่อรีบมุดออกมาจากซอกตู้ ส่งสายตาอ้อนวอนเขากลายๆ เหมือนจะให้เขาสงสารหล่อน

“ฉันไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง...คุณคงไม่อยากมาเสียเวลากับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ ที่อกแฟบ ดั้งแหมบ ตัวเล็กเหมือนม้าแคระหรอกใช่มั้ยคะ ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ฉันอยากกลับบ้าน ที่คณะทัวร์คงกำลังวุ่นวาย ฉันต้องเดินทางกลับประเทศของฉันแล้ว อย่ารั้งฉันไว้อีกเลยค่ะ”

หน้าสลดกับน้ำเสียงแผ่วเครือมันทำให้เคลวินใจวูบไปพักหนึ่ง ไม่มีเคยมีใครร้องขอที่จะเป็นอิสระจากเขา เพราะอะไรเธอถึงพยายามถอยห่าง ในขณะที่คนอื่นๆ อยากกระโจนเข้าใส่ เพราะอะไร! แล้วไอ้เหตุผลที่เอามาอ้างฟังแล้วมันชวนให้ขำมากกว่า ‘ม้าแคระ’ อืม...มันก็อาจจะใช่นะ ตัวเล็กๆ เหมือนสุนัข ‘อกแฟบ’ ‘ดั้งแหมบ’ ไอ้ดั้งแหมบนี่คือจมูกใช่ไหม? อกแฟบนี่ขอเถียงเพราะเขาเห็นมาด้วยตาตัวเองแล้ว เธอซ่อนสิ่งที่ยวนตาไว้ใต้เสื้อผ้าหลวมโพรก มันไม่ได้แฟบแต่มัน อวบอูม!! จนเขาไม่สามารถปล่อยเธอให้หลุดมือไปได้ เพราะอยากจะลองชิมรสดูสักครั้ง อยากรู้ว่าไอ้แฟบๆ ที่เธออ้างจะให้รสชาติละมุนละไมขนาดไหน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel