บทที่ 2 ความจริงที่แสน...โหดร้าย
เสียงเคาะประตูทำให้ นักการบัญชีสาว พัชรา เอกอุดม เพื่อนสนิทหนึ่งในสองของกอหญ้า ต้องเงยหน้า จากกองหนังสือมากมาย
“ใครมา แต่เช้าเนี่ย”
หญิงสาวร่างท้วม เดินไปเปิดประตู ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้า เพื่อนสนิทที่มีร่องรอยการร้องไห้มาอย่างหนัก
“เห้ย ญ่าเป็นอะไร ใครทำอะไรให้”
กอหญ้าโผเข้ากอดเพื่อนสนิท หนึ่งในสองที่เธอมี หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ร้องอย่างหนัก พัชราหรือ เพื่อนๆเรียก พัช ลูบไหล่เพื่อนรัก เป็นเชิงปลอบใจ
“ อยากร้องก็ร้องออกมา ร้องให้เต็มที่ “
“ เป็นอะไร เล่าได้ไหม”
กอหญ้าเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ นานแล้วท่ามกลางสายตาแห่งความสงสัยของ เพื่อนสนิท
หญิงสาวเปิดฝักบัว แล้วผิงพนังห้องน้ำ ร้องไห้ อย่างหนัก กอหญ้าใช้มือทุบฝาห้องน้ำ อย่างรู้สึกเจ็บใจ “ ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมสิ่งเลวร้ายต้องเกิดกับฉัน
นายกริชชัย ฉันเกลียด เกลียดนายที่สุดในชีวิต “
สองวันต่อมา
บ้านพิพัฒนพงค์
“กริ๊ด .....” เสียงร้องแสดงความดีใจของต้นน้ำ ทำให้สมาชิกภายในบ้านเหลียวตาม เมื่อเห็น ร่างสูงของพี่ชาย
ปรากฎตัว ต่อหน้า โดยไม่ทราบกำหนดการกลับมาก่อน
ต้นน้ำวิ่งเข้าไปหา กริชชัยโดยชายหนุ่มกางแขนรับร่างน้องสาวคนเล็กด้วยความรักใคร่ ต้นน้ำโผเข้าซบที่อก ธมกานต์และตรีรินทร์เดินไปสมทบใบหน้าแสดงความตื่นเต้น
“ กริชกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมกริชไม่บอกว่าจะกลับ แม่จะได้ไปรับ “ ตรีรินทร์น้ำตาไหลด้วยความดีใจ ก่อนจะสวมกอดลูกชายด้วยความคิดถึง
“ผมมาถึงสองวันแล้วครับ แต่อยากให้ร่างกายปรับสภาพเข้ากับเวลาที่นี่เสียก่อน”
“ผมเอาความสำเร็จและความภูมิใจมาฝาก พ่อกับแม่นะครับ ปริญญาทั้งสามใบ
ของผม “
“ชื่นใจจริงๆ กริช ลูกแม่เก่งจริงๆ “
ธมกานต์ตบบ่า ลูกชายเพียงคนเดียว ก่อนพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “ พ่อดีใจ
ที่กริชทำสำเร็จ พ่อภูมิใจในตัวลูกของพ่อมากกก”
“ขอบคุณครับพ่อ”
“กริช เป็นยังไงบ้างลูก เจ็ทเลทไหม “
“ ไม่ครับ “ ปากพูดกับผู้เป็นแม่แต่สายตากวาดมองไปทั่วบ้าน หวังว่าจะเจอใครสักคนหนึ่ง ต้นน้ำมองหน้าพี่ชาย ก่อนอมยิ้ม
“มองหา ญ่าเหรอพี่ ญ่าไม่อยู่หรอก ไปนอนบ้านเพื่อนได้สองวันแล้ว เห็นว่าจะขอนอนต่ออีกหนึ่งวัน”
กริชชัยถอนหายใจอย่างเสียดายที่อดจะได้เห็น ศัตรูตอนเด็ก ตอนนี้เจ้าหล่อนจะอ้วนไปถึงไหนแล้ว จะมีสภาพเป็นไงบ้าง “
“ใครบอกว่าฉันมองหายัยกระปุกตั้งฉ่าย แกนี่ ยัยน้ำสู่รู้ไม่เข้าเรื่อง ฉันมองหายัยตาลต่างหากล่ะ “
ต้นน้ำยิ้มอย่างรู้ทัน ก่อนจะตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า “ตอนนี้ไม่อ้วนแล้วนะพี่กริช
สวยมากกก”
“อย่างงั้นเชียว ชักอยากเห็นแล้วล่ะ”
“แม่ว่ากริช ไปอาบน้ำเถอะลูก มาเหนื่อย ๆ เย็นๆเราจะได้คุยกัน”
“ พร้อมจะไปทำงานแล้วใช่ไหมตากริช” ธมกานตเอ่ยถาม
“ครับพ่อ”
“ดี งั้นวันจันทร์ออกไปพร้อมกันเลย “
“ครับ”
“คุณนี่ ลูกพึ่งมาถึง ก็จะหางานให้ลูกเสียแล้ว ฉันเบื่อจริงๆเลย คนบ้างาน”
“บ้างานด้วย แล้วบ้าคุณด้วย “ ธมกานต์ก้มหน้ามากระซิบข้างๆหู
ตรีรินทร์หยิกที่ต้นแขน ก่อนจะค้อนให้ชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้
“บ้าจังคุณนี่ หื่นกามไม่เลือกสถานที่เลย ไม่อายลูกๆบ้างหรือไง”
“ทำไมต้องอาย ก็ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ “ ธมกานต์คว้าร่างตรีรินทร์เข้ามากอดก่อนจะโยกไปมา
“ หัวใจของผมอยู่กับคุณตลอดเวลา ไม่รู้เหรอคุณตรีรินทร์”
“ อืม ปากหวาน”
เสียงต้นน้ำและ กริชชัยหัวเราะประสานกันเมื่อเห็น ทั้งพ่อและแม่ยังหยอกล้อกันเป็นหนุ่มๆสาวๆ ตรีรินทร์ค้อนเบาๆ
5วันผ่านไป บ้านพิพัฒนพงค์ กริชชัยเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเดินเกือบวิ่งมาจากข้างบนชายหนุ่มเหลือบเห็น พยาบาลสาวร่างเล็ก กำลังหอบของพะรุงพะรังวิ่งหน้าตาตื่นมาจากข้างบน
“ ยัยน้ำมาคุยกันหน่อยสิ” กริชชัยวางหนังสือพิมพ์ แล้วยกกาแฟขึ้นจิบท่าทางดูสบาย
ต้นน้ำ พิพัฒนพงค์ มองพี่ชายเพียงคนเดียว เลิกคิ้วด้วยแววตาสงสัย หญิงสาววาง
แฟ้มเอกสาร และม้วนกระดาษสองสามม้วนบนโต๊ะ
“ พี่ชาย มีอะไรหรือเปล่า น้ำจะรีบไปขึ้นเวร” น้ำเสียงร้อนรนนิดๆ
“ มีอะไรจะถามสองสามคำ” กริชชัยมีน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
“ ว่ามาสิคะ พี่ชาย”
กริชชัยเงยหน้ามองน้องสาวคนเล็ก แววตาฉายแววเอ็นดู “ พี่กลับมาจะเป็นอาทิตย์ไม่เคยเห็นเราอยู่บ้านสักวัน ทำงานอะไรหนักหนาฮะ ยัยน้ำ”
“ แหม ก็พยาบาลไม่ได้ทำงานสบายเหมือนนักธุรกิจนี่คะ ช่วงนี้คนไข้เยอะ ก็ขึ้นเวรสองกะ กันค่ะ”
“ พี่กริชมีเรื่องถามแค่นี้เหรอ น้ำรีบ ยิ่งวันนี้วันศุกร์ รถติดแน่ๆเลย”
“ อืม จะถามว่า แกเคยให้เพื่อนหรือใครไปใช้คอนโดฯ ริมแม่น้ำหรือเปล่า”
ต้นน้ำนิ่งคิด ก่อนตอบน้ำเสียงสดใส “ ไม่เคยเลย ไม่เคยชวนเพื่อนไปคอนโดฯนั้นสักครั้ง ก็น้ำรู้ว่าพี่กริชหวง “
“ ไม่เคยแน่นะ แล้วแกมีเพื่อนที่ ผมยาวๆ รูปร่างดี ตาคม จมูกโด่งหรือเปล่า”
หญิงสาวขมวดคิ้ว ก่อนมองหน้า กริชชัยเขม็ง “ โห้ยเพื่อนน้ำ เยอะแยะ สมัยเรียนพยาบาล หรือที่คอนแวนต์ล่ะ นึกไม่ออกตอนนี้ ติดไว้ก่อนนะพี่กริช แล้วจะมาตอบตอนเย็นๆ “ พูดจบก็เดินจากไป
กริชชัย มองตามด้วย แววตาครุ่นคิด สามคืนที่ผ่านมา รู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมนอนไม่หลับกระสับกระส่าย คิดถึงแต่แม่สาวปริศนา ภาพต่างๆที่เกิดขึ้น
ตัดสลับกันไปมา รสรักอันเร่าร้อน กลิ่นกายที่หอมหวน ยังตราตรึงในความทรงจำ แต่ชายหนุ่มหยุดชะงัก เมื่อจำสีหน้าแววตาอันปวดร้าว เมื่อหญิงสาว รู้ว่า ตัวเขาคือ “กริชชัย พิพัฒนพงค์ “ ตกลงแม่สาวคนนี้คือ ใคร แล้วมาทำอะไรที่คอนโดเรา ชายหนุ่มคิดวนเวียนไปมา
ตรีรินทร์ พิพัฒนพงค์ เดินเคียงคู่มากับ ธมกานต์ พิพัฒนพงค์ ก่อนส่งยิ้มให้บุตรชายเพียงคนเดียว
“ว่าไง ตากริช วันนี้จะออกไปไหนล่ะ”
“ ผมจะเข้าไปดูงานที่โรงแรมสักแป๊ปครับ แล้วเย็นๆว่าจะไปเยี่ยม สรกับ ศวร ที่บ้านคุณอาอลงกรณ์ คุณแม่มีอะไรให้ผมทำหรือเปล่า “
“ เปล่าจ๊ะ แม่ถามดูเฉยๆ “
แจ่ม สาวใช้คนสนิท ยกอาหารเช้ามาวางบนโต๊ะ ตรีรินทร์เงยหน้าส่งยิ้มให้คนสนิท
ก่อนเอ่ยปากถาม
“ เอ พี่แจ่ม สี่ห้าวันนี้ รินทร์ไม่เห็น ยัยญ่าเลย พี่แจ่มรู้ไหมเขาไปไหน”
“ อ๋อ เห็นโทรมาบอกคุณผู้หญิงว่าช่วงนี้ไปค้างบ้านคุณพัชค่ะ ต้องทำรายงานส่งอาจารย์ค่ะ “
“ งั้นเหรอ ถ้าพี่แจ่มเห็นเขากลับมาบอกให้มาหารินทร์ที่บนตึกหน่อยนะคะ “
“ ค่ะ “
กริชชัย นั่งนิ่ง เมื่อได้ยินเสียงมารดาเอ่ยถึง ศัตรูในวัยเด็ก ชายหนุ่มนั่งนิ่งพร้อมขมวดคิ้ว
“จริงสินะ ตั้งแต่เขากลับมาจากเมืองนอก ยังไม่เคยเห็นยัยเด็กคนนี้สักครั้ง จะเป็นยังไงบ้างแล้วนะ” ชายหนุ่มคำพึงในใจ
คอนโดฯ ของพัชรา
“ญ่า แกนอนแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ มีเรื่องทุกข์ใจอะไรมากมายบอก พัชสิ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ นี่พัชเห็น ญ่าเหม่อลอย แล้วก็ร้องไห้มาหลายวันแล้วนะ “
พัชรากล่าวน้ำเสียงเป็นห่วง
“ญ่าไม่เป็นไรหรอก พัช มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย เออ นี่คุณย่าโทรมาให้กลับบ้านนะวันนี้ พอดีโทรศัพท์ญ่าดัง เห็นเป็นเบอร์คุณย่าก็เลยรับให้ “
“อืม วันนี้คงต้องกลับบ้านจริงๆ คงโดนบ่นยาวแน่ๆ “ กอหญ้าลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ หญิงสาวเดินไปหยุดที่กระจก หน้าอ่างล้างหน้า
“กอหญ้า เข้มแข็งหน่อยสิ แกจะให้ผู้ชายคนนั้น มาทำลายชีวิตแกงั้นเหรอ เสียแล้วเสียไป อย่าได้แคร์ เริ่มต้นชีวิตใหม่ กอหญ้า เธอต้องเข้มแข็ง อย่าอ่อนแอ” กอหญ้าให้กำลังใจตัวเองแต่น้ำตาไหลพรากเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อหลายวันก่อน แผลทางกายหายไปสนิทแล้วมีแต่แผลในใจ ที่ยังกัดหนอง
ตอนเย็นเกือบค่ำ ที่เรือนหลังเล็ก ในบริเวณบ้านพิพัฒนพงค์ สมาชิกทุกคน พร้อมหน้า โดยมีคุณหญิงมณีจันทร์นั่งเป็นประธาน
“ย่ามีความสุขจริงๆที่หลานๆ ของย่าทุกคนมาทานข้าวด้วย”คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวใบหน้ายิ้มแย้ม
“ขาดอีกหนึ่งคนค่ะคุณย่า “ เสียงพยาบาลสาว เอ่ยน้ำเสียงสดใส
“ เดี๋ยวก็มา โทรตามแล้วบอกกำลังจะถึง” คุณหญิงกล่าวตอบน้ำเสียงสดใส
“ เอ ช่วงนี้ยัยญ่ามีงานเข้ามาเยอะเลยเหรอค่ะ คุณแม่ ไม่ขึ้นไปหารินทร์เหมือนเมื่อก่อนเลย “
“ เห็นว่าทำรายงานกับเพื่อน ก็ยัยพัชไง แต่โทรมาขออนุญาติแล้ว หิวไหมทุกคน รออีกสักครู่นะ เห็นว่าเกือบถึงแล้ว”
ต้นตาล ต้นน้ำ ธมกานต์ ลุกขึ้น เดินไปที่หน้าจอโทรทัศน์จอใหญ่ ที่กำลังถ่ายทอดสดการแข่งขันว่ายน้ำ
กริชชัย นั่งอ่านอีเมล์ใน มือถือ โดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว
กอหญ้ามุดผ่านประตูหลัง ด้วยความเคยชิน ประตูนี้เธอจะใช้ยามที่ไม่อยากจะเดินผ่านประตูใหญ่ของบ้านพิพัฒนพงค์ เสียงโทรศัพทมือถือดังระรัว
“ค่ะ คุณย่า “
“เมื่อไหร่จะถึงสักที ย่ารอทานข้าวอยู่นะ “
“ อีกห้านาทีค่ะ ย่าอยู่ปากซอยแล้วค่ะ “
กอหญ้าปิดปากหัวเราะ เมื่อนึกถึงท่าทางตกใจของคุณหญิงมณีจันทร์ หญิงชราประมุขของตระกูลพิพัฒนพงค์ที่เอ็นดู และส่งเสียงเลี้ยงดูเธอไม่ต่างจากหลานในไส้
คุณหญิงมณีจันทร์ได้ขอให้เธอมาอยู่ด้วยตั้งแต่เธออายุสิบเอ็ดขวบ จนเดี๋ยวนี้สิบกว่าปี
ความผูกพันระหว่างเธอกับคุณหญิงแน่นแฟ้นเหมือนย่า หลานกันจริงๆก็ไม่ปาน
คุณหญิงมณีจันทร์วางมือถือ ก่อนยิ้มละไม “ อีกห้านาที ก็ทานข้าวกันได้แล้ว
ยัย ญ่ากำลังจะถึงแล้ว”
กริชชัยเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะก้มหน้า อ่านเอกสารในมือถือ อย่างไม่แยแสกับสิ่งที่ได้ยิน
กอหญ้าเดินลัดมาทางหลังครัว ก่อนจะทำท่า หลอก นมอิ่ม แม่นมของตระกูลพิพัฒนพงค์ อย่างนึกสนุก
“จ๊ะเอ๋ นม “
“ว้าย อกอีแป้นจะแตก “
เสียงหัวเราะของกอหญ้าสดใส จนนมอิ่มยิ้มค้อน ก่อนจะลงมือทำอาหารอย่างขมักเขม่น
“ ใครมาเหรอคะนม ญ่าเห็นไฟสว่างเต็มบ้าน”
“ อ๋อ คุณท่านเรือนใหญ่ทุกคนเลยค่ะ คุณกริชก็มานะคะ คุณย่า โห้ยทูนหัวของนม
หล่อ หล่อ”
กอหญ้าอ้าปากค้าง “ เขามาด้วยเหรอป้า “
“มาสิคะ คุณท่านงี้ หน้าบานเชียวค่ะ “
กอหญ้าออกเดิน ท่ามกลางสายตาสงสัย ของนมอิ่ม
“คุณญ่าค่ะ ไปไหนค่ะนั่น ไม่ทานอาหารเหรอค่ะ คุณย่ารออยู่นะ “
“ นมไปบอกคุณย่านะคะ ว่า ญ่าติดธุระด่วน ญ่าไปก่อนนะคะ”
นมอิ่มขมวดคิ้ว ก่อนไปรายงานให้คุณหญิง มณีจันทร์
คุณหญิงมณีจันทร์ได้รับการรายงานจาก นมอิ่มก็ขมวดคิ้ว สายตาไม่เข้าใจ ก่อนส่ายศีรษะไปมา ท่าทางแสดงความผิดหวัง
“เอ้า มากินกันเถอะ ยัยญ่าติดธุระด่วนขึ้นมากระทันหัน “
ต้นตาล และต้นน้ำ มองหน้ากัน นิ่ง ก่อนจะหันไปมองหน้า พี่ชายคนเดียว แววตา
มีคำถาม
“เอ้า ในเมื่อไม่ต้องรอใคร พวกเราก็กินข้าวกันเถอะ”
กริชชัย ทานข้าวเสร็จ ก็เดินออกมายืนสูบบุหรี่ที่ข้างๆ สระว่ายน้ำ ด้วยความเคยชิน
ชายหนุ่มนั่งที่เก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ ในมือถือบุหรี่ไว้แต่ไม่สูบ
กริชชัยชะงักเมื่อได้ยินบทสนทนาของสาวใช้ในบ้าน ดังมาจากมุมหนึ่งของตึก
“ พี่หวานว่าไงนะ คุณกอหญ้ากลับมาแล้ว กลับออกไปอีกงั้นเหรอ เมื่อไหร่ทำไมหนูไม่เห็น “
“ ข้าเห็นจริงๆ นะ นี่ไง คุณญ่าลืมไว้ในครัว เดี๋ยวข้าต้องเอาไปเก็บไว้ในห้องเธอ”
หวาน สาวใช้ในบ้านพิพัฒนพงค์ ชูผ้าพันคอ บางเบาสีชมพู ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน
บทสนทนาดังกล่าว
“ ยัยกระปุกตั้งฉ่าย ทำอะไรของเขานะ มาแล้ว กลับออกไปอีกงั้นเหรอ ประสาท”
กริชชัยบ่นงึมงำ
กอหญ้าจ้ำอ้าว เดินออกไปจากทางด้านหลัง มือสั่น ประสาทสั่น ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“ เราจะทำยังไงดี กอหญ้า เราจะทำอะไรต่อไปดี “ เสียงกอหญ้าพึมพำกับตนเอง
น้ำเสียงหวั่นไหว
สองวันผ่านไป
กอหญ้าเดินออกมาจากบริเวณบ้านพิพัฒนพงค์แข้งขาสั่น “ อย่าพึ่งเผชิญหน้ากันเลยอย่าง
น้อย อย่าพึ่งตอนนี้ “ หญิงสาวหลับตา
“พี่ตาล พี่ตาลว่าแปลกไหม ที่คุณย่าบอกว่า ยัยญ่าจะกลับมาภายในห้านาที แต่สักพักยัยญ่าบอกว่า ไม่กลับ พี่ว่ามัน แม่ง แม่ง ไหมล่ะ”
ต้นตาล นักธุรกิจหญิง แนวหน้าของประเทศ ขยับแว่นก่อนส่ายศีรษะไปมา
“ น้ำ คิดมากไปหรือเปล่า ไม่เอาล่ะ พี่ไปทำงานต่อก่อนนะจ๊ะ “
ต้นน้ำ ยืนนิ่ง ก่อนยักไหล่ เดินกลับขึ้นไปบนตึก ท่าทางร่าเริง